บริษัทรถทัวร์แจง หลังเกิดเหตุสะเทือนใจครั้งใหญ่ ยันพร้อมรับผิดชอบเยียวยา
เจ้าของบริษัทรถทัวร์แจง หลังเกิดเหตุสะเทือนใจครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี หลังเกิดเหตุไฟไหม้รสบัสทัศนศึกษา นักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยา ยันพร้อมรับผิดชอบเยียวยา
1 ต.ค. 2567 เหตุโศกนาฏกรรมสะเทือนใจ ไฟไหม้รสบัสทัศนศึกษา นักเรียนจากโรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี จุดเกิดเหตุบริเวณอนุสรณ์สถาน ถนนวิภาวดีรังสิต ขาเข้า กทม. ซึ่งในเบื้องต้นจำนวนผู้เสียชีวิตยังไม่แน่นอน คาดว่าน่าจะมีมากกว่า 10 ราย โดยอยู่ระหว่างยืนยันยอดจำนวนที่ชัดเจน
ขณะที่ นายทรงวิทย์ (สงวนนามสกุล) พ่อของเจ้าของกิจการชินบุตรทัวร์ ให้สัมภาษณ์กับฐานเศรษฐกิจว่า รู้สึกตกใจมาก ตลอด 20 ปี ที่ดำเนินกิจการ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้ ระหว่างนี้กำลังเร่งเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อดูแลสถานการณ์ด้วยตัวเอง
นายทรงวิทย์ ยืนยันว่าบริษัทจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ โดยจะเร่งเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิต เขากล่าว พร้อมยืนยันว่ารถบัสคันดังกล่าว มีการทำประกันอย่างถูกต้อง และผ่านการตรวจสอบสภาพตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดจากเจ้าหน้าที่ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้" นายทรงวิทย์กล่าวทิ้งท้าย ขณะนี้ ทั้งตำรวจ กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ และสืบสวนหาสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ ติดตามความคืบหน้าได้ในรายงานต่อไป ากการตรวจสอบพบว่ารถบัสคันดังกล่าวเป็นของ บริษัท ชินบุตร เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
สำหรับ “ชินบุตรทัวร์” มีบริษัท ชินบุตร เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าของ จากการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนการค้า ผ่านระบบ Creden Data พบว่า บริษัท ชินบุตร เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556 รวมเป็นเวลากว่า 11 ปีที่บริษัทได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยมีทุนจดทะเบียนปัจจุบันอยู่ที่ 5 ล้านบาท
โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทมีลักษณะเป็นธุรกิจครอบครัว โดยมีนายจิรภัทร ประธานหอการค้าจังหวัดสิงห์บุรี เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ด้วยสัดส่วน 60% ตามมาด้วยนางอรวรรณ ชินบุตร ที่ถือหุ้น 40% นอกจากนี้ยังมีสมาชิกครอบครัวอื่นๆ คือ น.ส.กนิษฐา ชินบุตร และ น.ส. ปาณิสรา ชินบุตร ร่วมถือหุ้นคนละ 1 หุ้น
ด้านการบริหารงาน บริษัทมีกรรมการ 3 คน ได้แก่ นายจิรภัทร นางอรวรรณ และนางสาวปาณิสรา โดยนายจิรภัทรและนางอรวรรณเป็นผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท ผลประกอบการในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 13,322,417.32 บาท มีรายจ่ายรวม 10,881,797.32 บาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 2,101,782.94 บาท
ที่มา : thansettakij