
ผสห. แจ้งจับ "แม่ติ๊ก" โกงเงินแชร์หลอกลงทุน ผัวตำรวจเครียดยิงตัวเองดับ
ผู้เสียหายแจ้งความ ถูก "แม่ติ๊ก" หลอกเล่นแชร์ปล่อยกู้ คาดสูญนับร้อยล้าน พบเคยหนีไป ตปท. 2 ปี กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก ขณะที่สามีตำรวจเครียดจัด ยิงตัวเองดับ
28 ก.ย. 2567 น.ส.กิ๊ก น.ส.กบ และ น.ส.เอ 3 ในผู้เสียหายเบื้องต้น 93 ราย เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.มานพ อัษรณรงค์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อให้เอาผิด น.ส.วิลาสินี หรือ แม่ติ๊ก อายุประมาณ 35 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ในข้อหาฉ้อโกง หลอกให้เล่นแชร์ปล่อยเงินกู้ คาดว่าน่าจะมีคนถูกหลอกมากกว่า 100-200 คน ทั่วประเทศ
โดย น.ส.กิ๊ก 1 ในผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเล่นแชร์กับ น.ส.ตุ๊กติ๊ก หรือ เรียกในวงแชร์ว่า "แม่ติ๊ก" สูญเงินไปทั้งหมดกว่า 400,000 บาท ตนเล่นแบบรับเงินก้อนเดียว พอเขาแกล้งล้ม จึงไม่มีโอกาสได้เงินกับเขา นอกจากนี้ยังมีอีกมุมหนึ่ง คือ หลอกให้เราลงทุนเพื่อได้เงินดอกระยะสั้น จะได้ดอกเบี้ยง 1-3 เปอร์เซ็นต์ จะได้ค่าตอบแทนภายใน 2 วันหรือ 3 วันแล้วแต่คนจะไม่เหมือนกัน
แม่ติ๊กจะบอกตลอดเวลาว่า "ฉันเป็นเมียตำรวจ" มีระดับรู้จักกับนายใหญ่ โดยจะระบุสั้นๆว่ารู้จัก "นาย" สาเหตุที่เชื่อ เพราะโปรไฟล์เขาดี ชอบทำบุญ ล่าสุดเอาเงินไปบริจาคมูลนิธิที่บุรีรัมย์ให้ไปช่วยน้ำท่วมครั้งละ 100,000 บาท ทั้งยังใช้ของแบรนเนมที่ดูน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะการจัดงานวันเกิดของแม่ติ๊ก เขาจะไม่ว่างบอกว่ายุ่งคอยรับนายที่จะมาร่วมงานวันเกิด
ด้าน น.ส.กบ ผู้เสียหายอีกคน เล่าว่า ตอนนี้ได้มีการแยกกันแจ้งความ กลุ่มหนึ่งจะไปร้องที่กองปราบเพื่อขอความช่วยเหลือ ตอนนี้มีผู้เสียหายตั้งแต่หลักหมื่นไปถึงหลัก 3 ล้านบาท มูลค่าความเสียหายเฉพาะกลุ่มพวกตน 93 คน เสียหายไปประมาณ 50 ล้านบาทขึ้นไป ไม่รวมกับจังหวัดอื่น ซึ่งคาดว่าจะมีอีกเป็นจำนวนมาก น่าจะเกินกว่า 100 ล้านบาท ตอนแรกดูเหมือนว่าจะไม่ได้หลอก แต่เขาใช้เงินมากในการสร้างโปรไฟล์ เอาเงินของพวกตนเปย์ความสุขให้กับตนเองและครอบครัว ต่อมายังทราบอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยทำในลักษณะนี้มาแล้ว ด้วยการหลอกเอาเงินพอได้เงินหนีไปต่างประเทศ 2 ปี แล้วกลับมาด้วยสภาพใบหน้าเปลี่ยนไป
น.ส.กบ เล่าอีกว่า หลังจากสมาชิกรู้ว่าว่าถูกหลอก ได้แชตทวงเงินกันสารพัด แม่ติ๊กใช้วิธีสกปรกอีกคือสัญญาว่าจะคืนเงินให้ทั้งหมด แต่ขอทยอยจ่ายให้ สมาชิกดีใจที่จะได้รับเงินคืน แต่ปรากฏว่าโอนเข้าบัญชีแต่ละคนครั้งละ 100 บาทเท่านั้น และพยายามโอนมาเป็นประจำ ส่วนตัวเชื่อว่า เขาจะเลี่ยงให้เป็นคดีแพ่งหรือไม่ ตนไม่ทราบ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลว่า ประมาณ 21.40 น. ของวันที่ 27 ก.ย. 2567 ตำรวจ สภ.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พบรถยนต์กระบะยี่ห้อ ฟอร์ด รุ่น แรนเจอร์ สีดำ ทะเบียนกรุงเทพ ชนแท่นแบริเออร์บริเวณหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.)สาขาโชคชัย ตรวจสอบภายในรถพบ ด.ต.ณัฐพล ศิริเวชกุล อาบุ 42 ปี ตำแหน่งผบ.หมู่ (นปพ.) กก.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์ ผู้ได้รับบาดเจ็บนั่งบริเวณที่นั่งคนขับสันนิษฐานเป็นผู้ขับรถดังกล่าว
จากนั้นได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งรักษาตัวที่ โรงพยาบาลโชคชัย ซึ่งภายหลัง ด.ต.ณัฐพลฯ ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเบื้องต้นพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บริเวณศรีษะด้านขวา ด.ต.ณัฐพลฯ และพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ รุ่น พี 320 ตกอยู่บริเวณที่พักเท้าด้านคนขับ จำนวน 1 กระบอก
สอบถามเพื่อนร่วมงาน ทราบว่า ภรรยาของผู้ตายกำลังถูกดำเนินคดีเรื่องความผิดตาม พ.ร.บ.การเล่นแชร์ ในพื้นที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า ขณะเกิดเหตุผู้ตายขับรถยนต์อยู่ ได้โทรศัพท์คุยกับภรรยา แล้วเกิดความเครียด จึงได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าว ยิงฆ่าตัวตัวตาย แล้วรถยนต์เสียหลักไปเฉี่ยวชนกับแท่งแบริเออร์
สำหรับ น.ส.วิลาสินี ก่อนหน้านั้นเคยทำในลักษณะเดียวกัน และทราบว่าสามีเป็นคนเคลียร์ปัญหาให้ พอกลับมาจากต่างประเทศมีพฤติกรรมเช่นเดิม ซึ่งอาจจะทำให้ ด.ต.ณัฐพล หมดกำลังใจที่จะสู้กับภรรยาคนนี้ต่อ จึงคิดสั้นดังกล่าว