ดร.ธนกฤต ช่วยสาวถูกอดีตแฟนขังในบ้าน พร้อมทำร้าย ขู่กรีดหน้า ตัดข้อมือ | คมชัดลึก

หลังจากที่ น.ส.แอม (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ขอความช่วยเหลือ ดร.ธนกฤต จิตต์อารีย์รัตน์ ที่ปรึกษา รมว.กระทรวงสาธารณสุข ถูกอดีตแฟนกังขังหน่วงเหนี่ยวนานหลายวัน ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่จะกรีดหน้า ตัดเอ็นข้อมือ กรีดเท้า ตัดหู และได้ทำการตัดผมให้ไม่สามารถไปทำงานได้ ซึ่ง น.ส.แอม อยากกลับบ้านไปหาครอบครัว เนื่องจากบ้านพักอยู่ระแวกเดียวกันกับผู้ก่อเหตุ หวั่นเกรงว่าจะได้รับอันตราย

 

26 ก.ย. 2567 ที่ สน.ปทุมวัน ดร.ธนกฤต พา น.ส.แอม เข้าแจ้งความ โดยมี พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (รองผบก.น.6) ซึ่งมารักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน และตำรวจฝ่ายสอบสวน เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เข้าให้การช่วยเหลือ

น.ส.แอม เล่าว่า ตัวเองคบหากับฝ่ายชายได้ประมาณ 2 ปี จากนั้นได้ทะเลาะกับฝ่ายชายอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากฝ่ายชายอารมณ์แปรปรวนรุนแรง หึงหวง และฝ่ายชายมีประวัติเกี่ยวข้องกับการเสพยาเสพติด จึงตัดสินใจเลิกกับฝ่ายชายได้ 6 เดือน แต่ต่อมาฝ่ายชายพยายามง้อขอคืนดี ทำทีมาพูดจาด้วยดี 

 

จากนั้นได้ตกลงนัดเจอกันครึ่งทางแถววงเวียนใหญ่ เพื่อเคลียร์ปัญหา แต่หลังจากพบกันก็ถูกพามากักขังไว้ที่บ้านของฝ่ายชายย่านแขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 16-20 ก.ย.67 และโดนยึดหนังสือเดินทางไว้ เพราะตัวเองต้องไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อย 

 

ระหว่างที่ถูกกังขัง ก็ทะเลาะมีปากเสียงกัน ตนเองถูกฝ่ายชายใช้กรรไกรมาตัดผม ข่มขู่เอามีดจะมาทำร้าย กรีดหน้า โกนหัว จะตัดเอ็นข้อมือข้อเท้า และโดนกังขังอยู่ในบ้านของฝ่ายชาย ซึ่งมีโซ่ล็อคอยู่ด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง ทางเดียวที่จะหนีออกมาได้ คือ ระโดดออกด้านหลังห้อง ซึ่งเป็นอาคารสูงสามชั้น

แต่ตัวเองอาศัยจังหวะที่ฝ่ายชายไม่อยู่บ้านตะโกนขอความช่วยเหลือ หนีออกมาได้วันที่ 20 ก.ย. 2567 ช่วง 20.00-21.00 น. และก็ได้มาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีไว้ว่าโดนกักขังหน่วงเหนี่ยว

 

น.ส.แอม ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ให้ตัวเองสามารถกลับบ้านมาอยู่กับครอบครัวได้ เพราะปัจจุบันไม่สามารถไปทำงานได้ เนื่องจากถูกตัดผม และเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย หากกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านพักของตนเอง เพราะว่าอยู่ในละแวกเดียวกันกับอดีตแฟน ซึ่งได้ข่มขู่เอาไว้ ทำให้ตนเองต้องอยู่อย่างหวาดระแวง และกลัวอันตรายต่อชีวิต

 

ด้านดร.ธนกฤต กล่าวว่า ผู้เสียหายถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ขู่ฆ่า ถูกกล้อนผม แล้วระหว่างถูกกักขัง ถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วย พฤติกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นบุคคลดังกล่าวมีประวัติเรื่องการใช้ยาเสพติดมาก่อน โดยระหว่างอยู่ที่บ้านฝ่ายชาย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ถูกกักขังไว้นั้น มีแม่ของฝ่ายชายอยู่ในบ้านหลังนั้นด้วย แต่ไม่ได้ให้การช่วยเหลือ เนื่องจากเกรงจะถูกทำร้ายเช่นเดียวกัน ซึ่งผู้เสียหายอาศัยจังหวะที่ฝ่ายชายไม่อยู่ตะโกนเรียกให้คนที่อยู่ใกล้เคียงกันมาช่วยเปิดพังประตูออกมา จึงสามารถหลบหนีออกมาได้ โดยฝ่ายผู้เสียหายร้องขอเรื่องความปลอดภัยเพราะถูกข่มขู่หมายเอาชีวิตและทำร้ายร่างกายต่างๆ เพื่อไม่ให้ฝ่ายหญิงหนีไปไหนได้ 

 

ดร.ธนกฤต กล่าวว่า การใช้ความรุนแรงและทำร้ายร่างกายกันภายในครอบครัวไม่ควรเกิดขึ้น และไม่ควรถูกมองข้าม หากพบเห็นการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ควรต้องรีบเข้าให้ความช่วยเหลือและสร้างความเข้าใจกับทั้งสองฝ่ายให้มากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงที่อันตรายต่อชีวิตของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หลังจากนี้จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ กระทรวงยุติธรรม เข้ามาช่วยเหลือดูแลผู้เสียหาย

 

จากนั้นดร.ธนกฤต เจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองพยานจากกระทรวงยุติธรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจ พาผู้เสียหายกลับไปยังบ้านพักของตัวเองบริเวณย่านตลาดมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจสน.นางเลิ้ง โดยดูเรื่องความปลอดภัยในชีวิตให้กับผู้เสียหาย

 

น.ส.แอม กล่าวว่า ไม่ได้ กลับมาที่บ้านหลังนี้นานกว่า 6 เดือนแล้ว ต้องไปขอพักอาศัยกับเพื่อนที่อื่น เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย วันนี้ได้กลับมาบ้านเจอน้องเจอลูกก็รู้สึกดีใจ

 

ขณะที่รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ยืนยันว่า จะดำเนินคดีในทุกข้อหาที่พบว่า มีการกระทำความผิด และจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยดูในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้เสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายและส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพิจารณาออกหมายเรียกหรือหมายจับต่อไป