หญิงไทยฝันสลาย แต่งงานกับชายจีน หวังชีวิตสวยหรู สุดท้ายพาลำบากบนเขา | คมชัดลึก

17 ก.ย. 2567 น.ส.เฟิร์น (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี อดีตพนักงานต้อนรับ ขอความช่วยเหลือ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด

 

หลังสาวถูกเอเจนซี่หาคู่หลอกให้ไปแต่งงานกับชายชาวจีนที่อ้างว่า เป็นนักธุรกิจ โปรไฟล์ดี มีคอนโดหรูหรา อยู่ประเทศจีน แต่ปรากฎว่า เมื่อไปถึงต้องใช้ชีวิต อยู่อย่างลำบากในบ้านเก่าบนภูเขา ไม่มีห้องน้ำ จนต้องหนีกลับมาประเทศไทย ภายหลังพบว่า เอเจนซี่ยังได้ฮุบเงินค่าสินสอดไป กว่า 700,000 บาท  นอกจากนี้ยังมีคลิปวีดีโอที่เธอถ่ายไว้ขณะหลบหนี

น.ส.เฟิร์น เล่าว่า ก่อนหน้านี้มีคนรู้จักมาแนะนำ มีเอเจนซี่ช่วยหาคู่ให้ไปแต่งงานกับชายชาวจีนที่อยากมีภรรยาเป็นคนไทย โดยจะได้ค่าสินสอดหลักแสน อยู่ดีกินดี มีครอบครัวที่ดี ตนจึงสนใจและลองคุยกับฝ่ายชายผ่านทางแอปพลิเคชั่นวีแชท ฝ่ายชายบอกโปรไฟล์ว่า เป็นนักธุรกิจ มีคอนโดหรูในเมือง ซึ่งคุยกันประมาณ 1 เดือน ตนจึงตอบตกลงที่จะไปจดทะเบียนสมรส และใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศจีน โดยเอเจนซี่ได้ให้เงินมา 9 หมื่นบาท ค่าสินสอด

 

ขณะที่ทางฝ่ายชายออกค่าใช้จ่ายการเดินทางให้ทั้งหมด ตนเดินทางไปถึงวันที่ 20 ส.ค. พอไปถึงก็มีแฟนของเอเจนซี่พาฝ่ายชายมารับ จากนั้นก็ขับรถไป แต่ระหว่างทางเริ่มเป็นการขึ้นภูเขา ห่างไกลเมืองไปเรื่อย ๆ ตนก็แปลกใจว่า จะมีบ้านคนอยู่แถวนี้จริงๆหรอ พอไปถึงพบว่า เป็นบ้านหลังสุดท้ายบนภูเขา ห่างไกลจากชุมชนมาก ลักษณะเป็นฟาร์มแกะ ไร่ข้าวโพด ตนก็ถามฝ่ายชายว่า ไหนบอกจะพามาอยู่คอนโดหรูในเมือง ฝ่ายชายก็บอกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยว ต้องมาช่วยแม่ทำงานก่อน แล้วเดี๋ยวจะพากลับลงไปอยู่ในเมือง

 

น.ส.เฟิร์น กล่าวอีกว่า ตอนนั้นตนไม่มีทางเลือกแล้ว ก็เลยลองอยู่ดูก่อน ฝ่ายชายได้พาไปจดทะเบียนสมรส แต่พอมาใช้ชีวิตอยู่ ปรากฎว่า ลำบากมากไม่มีห้องน้ำต้องตักน้ำใส่กะละมังมาไว้ในห้อง แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวแทนการอาบน้ำ ลำบากมาก ไม่มีห้องน้ำต้องตักน้ำใส่กะละมัง แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวแทนการอาบน้ำ ถ้าจะสระผมต้องรอสัปดาห์ละครั้ง ที่ฝ่ายชายจะพาลงไปใช้ห้องน้ำในชุมชน ส่วนการเข้าห้องน้ำ ก็ต้องไปขุดหลุมในไร่ข้าวโพด ตนจึงกลั้นไว้รอตอนไปสระผม ทำให้ท้องผูกและก็ไม่มีน้ำสะอาดให้กินด้วย

 

นอกจากนี้ ฝ่ายชายยังไม่ค่อยอาบน้ำ ทำงานในไร่ในฟาร์ม กล้บมาก็ถอดชุดแล้วนอนเลย ตนทนนอนด้วยไม่ได้ ต้องไปนอนที่โซฟา ฝ่ายชายก็ไปฟ้องเอเจนซี่ว่า ตนไม่ยอมนอนด้วย ซึ่งตนก็อธิบายปัญหาให้ฟัง แต่เอเจนซี่ก็ไม่ช่วยเหลืออะไร

 

กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ตนสบโอกาสตอนที่แม่ฝ่ายชายเข้าไปในไร่ข้าวโพด จึงหาทางหนีโดยต้องแอบเดินออกมาตามไร่ข้าวโพด ซึ่งเป็นขั้นบันไดที่มีเหวลึก ตอนนั้นรู้สึกเสี่ยงตาย แต่ถ้าอยู่ก็ไม่มีอะไรดี จึงเดินมาเรื่อยๆ ใช้เวลาเดินกว่าครึ่งวัน ก็มาพบกับชุมชน จึงขอให้ชาวบ้านช่วยมาส่งในเมือง และต่อรถบัส 4 ชั่วโมงมาที่สนามบิน เพื่อรอเที่ยวบินกลับกรุงเทพฯ 

 

ต่อมาเมื่อตนเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว จึงได้ติดต่อหาเอเจนซี่ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ปรากฏว่า เอเจนซี่บังคับให้ตนกลับไป เพราะไม่เช่นนั้นจะต้องจ่ายค่าปรับให้กับฝ่ายชาย 350,000 บาท เพราะฝ่ายชายได้ให้เงินค่าสินสอดมาแล้ว

 

ขณะที่ฝ่ายชายก็พยายามติดต่อมาหาตน และบอกว่า ทำไมถึงต้องหนี เพราะให้เงินค่าสินสอดไป 8 แสนบาท พอที่จะเลี้ยงดูทั้งครอบครัวได้แล้ว ยังไม่พอหรอ ทำให้ตนเพิ่งรู้ว่าเงินที่ฝ่ายชายให้มา เอเจนซี่เป็นคนเก็บไว้ และให้ตนมาแค่ 90,000 บาท และจนถึงขณะนี้ ตนก็ถูกเอเจนซี่ตามคุกคามและข่มขู่คนในครอบครัวว่า ถ้าไม่จ่ายค่าปรับ ก็จะฟ้องและบังคับให้เซ็นสัญญาเงินกู้ วันนี้จึงมาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้พาเข้าแจ้งความเอาผิดกับเอเจนซี่รายนี้ จึงอยากฝากเตือนผู้หญิงที่กำลังคิดจะหาแฟนเป็นคนจีนว่าให้ระวังด้วย

 

น.ส.เฟิร์น ยืนยัน ขณะอาศัยอยู่กับฝ่ายชายไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย แต่ถ้าหากทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ ก็จะโดนต่อว่าพูดจาไม่ดี ทั้งนี้ตนก็รู้มาว่า มีกรณีของผู้หญิงคนอื่นที่หาคู่ผ่านเอเจนซี่รายเดียวกัน แต่เมื่อไปใช้ชีวิตที่ประเทศจีนแล้ว ถูกฝ่ายชายทำร้ายร่างกายด้วย

 

ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า กรณีนี้จะต้องมีการตรวจสอบว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ เพราะทางเอเจนซี่ได้รับเงินจากชายจีนมา 800,000 บาท เพื่อทำการส่งหญิงไทยไป ซึ่งทีมงานจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ 

 

ฝากถึงผู้หญิงไทยที่อยากมีสามีเป็นคนจีนว่า ขอให้ระวัง เพราะเคยมีเคสที่ตนไปช่วยเหลือมาได้ เป็นหญิงชาวไทยที่ไปแต่งงานกับชายชาวจีน แต่มีลูกเป็นผู้หญิง จึงถูกทำร้ายทุบตีเพราะครอบครัวฝ่ายชายต้องการให้ได้ลูกชาย