ข่าว

อึ้ง รพ.สลับตัวลูก พ่อเอะใจ เล่าย้อนไทม์ไลน์ ถึงได้ลูกตัวจริงคืน

16 ก.ย. 2567

พ่อ เอะใจ ใบหน้า คิ้ว เสื้อผ้า ลูกแรกเกิดเปลี่ยนไป ขอตรวจ DNA ล่าสุดโอ้ละพ่อ ลูกชาวพม่า รพ.ยอมรับผิดพลาดจริง คาดเกิดขึ้นขณะนำเด็กไปตรวจ  

งานเข้า โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อเกิดเหตุสลับตัวทารก  ซึ่งเรื่องราวถูกเปิดเผยจาก คุณพ่อรายหนึ่งออกมาโพสต์สงสัย ใบหน้า คิ้ว และเสื้อผ้าของลูกเปลี่ยนไป จึงขอตรวจ DNA โดยระบุว่า 

 

#เหตุการณ์เด็กแรกเกิดสลับตัวกัน!!!
ลูกสาวผมเกิดวันที่ 11/8/67 น้องหายใจเร็วเลยต้องแยกห้องกับแม่..แม่นอนห้องพักฟื้นลูกนอนห้องอภิบาลแล้วต้องมีการให้ยาฆ่าเชื้อ 7 วัน โรงพยาบาลให้เยี่ยมได้ 18:30-20:00 น. ผมกับแฟนก็ไปเยี่ยมตั้งแต่วันที่ 12 ในห้องอภิบาล เขาห้ามถ่ายรูป แต่ผมก็แอบถ่ายลูกผมไว้ทุกวัน ไว้ส่งให้แม่ผมดู ส่งให้ญาติๆผมตามปกติ วันที่ 13-14-15-16 ผมก็ไปเยี่ยมปกติ ผมก็แอบถ่ายรูปลูกผมไว้ทุกวัน 

 

พอวันที่ 17 ส.ค. 2567 ไปเยี่ยมหน้าลูก ผมเปลี่ยนจากผมยาวก็สั้น จากมีคิ้ว คิ้วก็หาย ป้ายชื่อที่ข้อมือซ้ายกับขาขวาก็หาย เสื้อผ้า ผ้าขนหนู ก็ไม่ใช่ของลูกผม สอบถามพยาบาลก็ตอบว่า ป้ายชื่อหายไปไหนครับ เขาบอกว่า อาจหายตอนอาบน้ำ แล้วเสื้อผ้าในกล่องอ่ะครับอาจจะสลับกันได้ ตอนแรกกะว่า จะเดินดูเด็กทุกคน แต่มีเด็กข้างๆมีการเอกซ์เรย์เลยต้องออกจากห้องก่อน 
 

วันที่ 18 ส.ค.2567 ลูกผมครบกำหนดให้ยาฆ่าเชื้อ ก็กลับบ้านก็ไปรับกลับบ้าน ผมมองลูกที่ได้กลับมาบ้าน มองยังไงก็ไม่ใช่ลูกผม สับสนกับตัวเองว่าใช่หรือไม่ใช่ ดูรูปที่ถ่ายไว้กับตัวจริงตลอด จนวันจันทร์ผมได้โทรไปสอบถามโรงพยาบาลอีกทีว่า "ผมสงสัยว่าไม่ใช่ลูกผม ช่วยให้โรงบาลการันตีหรือพูดให้ผมสบายใจหน่อยได้ไหมว่า คนนี้เป็นลูกผม" เขาก็บอกว่า ลูกของคุณพ่อไม่เหมือนเด็กคนอื่น ลูกคุณพ่อต้องให้ยา 7 วัน ที่ข้อมือจะมีรอยช้ำจากการถูกเจาะเลือด มันก็มีจริง ผมก็ถามไปอีกว่า "แล้วทำไมผมสั้นลง คิ้วหายไป" เขาก็บอกว่า เด็กหน้าเปลี่ยนทุกวัน จนคืนวันอังคารผมทนไม่ไหวเลยโพสต์ลงในกลุ่มข่าวกระทุ่มแบนให้เพื่อนๆดูว่า เด็กในรูปคนเดียวกันไหม..ส่วนใหญ่บอกว่า คนละคนแนะนำให้ไปโรงพยาบาล ตรวจ DNA รวมกับ ในใจก็คิดว่า คนละคน

 

อึ้ง รพ.สลับตัวลูก พ่อเอะใจ เล่าย้อนไทม์ไลน์ ถึงได้ลูกตัวจริงคืน

 

เช้าวันพุธที่ 21 ส.ค. 2567 จึงรีบพาลูกกับแฟนไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจสอบ แล้วก็เล่าเหตุการณ์ให้พยาบาลฟังทั้งหมด เริ่มการเจาะเลือดผม แฟนผมเด็กที่ผมนำกลับบ้าน ผลออกมาคือเด็กกรุ๊ป B ผมกรุ๊ป AB แฟนผมกรุ๊ป A ผมโกรธและโมโหมาก เสียใจมาก สงสารลูกผมมาก 

 

แล้วรอง ผอ. ก็มาคุย ผมบอกทำยังไงก็ได้ผมขอเจอลูกผมตัวจริง ทางโรงพยาบาลก็หามาจนเจอ และมีการเจาะเลือด ทั้งสองครอบครัว ครอบครัวเขา B ทั้งบ้าน ส่วนลูกผม AB ผมได้คุยกับอีกครอบครัวนั้น เขาบอกว่า น่าจะสลับวันเสาร์ เพราะเขาก็ว่าอยู่ทำไมลูกเขามีคิ้ว ทั้งที่ตอนแรกไม่มี 

ครอบครัวนั้นเป็น(พม่า)นะครับ ลูกผมถูกให้ยาฆ่าเชื้อเกิน ลูกพม่าถูกให้ยาฆ่าเชื้อขาด กำหนดคือต้อง 7 วัน ตามที่พยาบาลบอกผม 

 

วันแรกที่ลูกผมแยกห้องกับแม่เขาแล้ว ก็ไม่รู้ว่า จะมีผลอะไรไหม ตอนนี้ที่ทางโรงพยาบาลรับผิดชอบ คือ เจาะเลือดให้ฟรี แล้วก็พาไปตรวจ DNAที่โรงพยาบาลรามา ตอนนี้รอผล DNA แล้วจะนัดไกลเกลี่ยกันอีกที 

 

ครอบครัวเราควรทำยังไงดี #เสียใจมากๆถ้าเราไม่มีหลักฐานรูปถ่าย เราคงเลี้ยงลูกคนอื่นไปจนโตไปแล้ว รอการอัปเดตอีกครั้งหลังจากผล DNA ออกจะมาเล่าให้ฟังว่า ทางโรงพยาบาลเขารับผิดชอบอย่างไรบ้างนะครับ

 

#อัปเดตล่าสุด 15 ก.ย. 2567 ผล DNA ออกแล้ว ผมได้ไปคุยกับทางโรงพยาบาลมาแล้ว วันศุกร์ที่ 13 ก.ย. 2567 ผลก็เป็นไปตามนั้น เด็กสลับตัวกันจริง ทางโรงพยาบาล จึงรับผิดชอบโดยให้สิทธิรักษาลูกผมฟรีแบบพิเศษ ที่เขาว่า คือ ไม่ต้องต่อคิว ถ้าจะไป ให้โทรไปบอกเขาว่าเป็นไร เขาจะเตรียมทำเอกสารไว้ให้จนน้องอายุครบ 20 ปี บริบูรณ์แค่นั้น ผมจึงขอค่าเยียวยาจิตใจไปสองแสนบาท โดยแบ่งให้บ้านของพม่าด้วยหนึ่งแสนบาท

 

โดยสองครอบครัวไม่ได้เข้าไปคุยพร้อมกันนะครับ คุยคนละวัน แต่ที่หมอบอกเขาจะให้สิทธิเหมือนกันครับทั้งสองครอบครัว โดยทางโรงพยาบาลบอกว่า รักษาฟรี ทำได้เลยทันที ส่วนเงินเขาให้รอไปอีก 2 อาทิตย์ แต่ไม่รับปากนะว่าจะได้ครบไหม อาจจะครบหรือไม่ครบ เขาจะไปลงขันรับบริจาคกันก่อน..มีแบบนี้ด้วยเหรอครับ??

 

ไม่เป็นไรรอก็รอครับ เรื่องแบบนี้ทางโรงพยาบาลน่าจะทำให้จบให้เร็วที่สุด ไม่น่าปล่อยเวลาให้มันนานเดี๋ยวมันจะเป็นเรื่องใหญ่ฝากด้วยครับเพื่อนๆทำไรอย่าประมาททำไรควรมีหลักฐานยืนยันในกรณีนี้ถ้าผมไม่มีหลักฐานยืนยันจบครับลูกผมไปอยู่พม่าแล้ว!!!
#ผมมาโพสต์เป็นกรณีศึกษาใว้นะครับ

 

 

ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รับรายงานจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครแล้ว ยอมรับเป็นความผิดพลาดของโรงพยาบาลจริง คาดว่าเกิดเหตุสลับตัวขณะนำเด็กไปตรวจ โดยเมื่อพ่อของเด็กท้วงติงถึงความผิดปกติ รพ.ได้ดำเนินการส่งตรวจดีเอ็นเอ โดยวันนี้ 16 ก.ย. 2567 โรงพยาบาลนัดพ่อแม่ของเด็กมาพูดคุย เพื่อไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหาย ซึ่งตนได้มอบหมายให้ปรับแผนการดูแลเด็ก ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำ เพราะการติดป้ายชื่อเด็กอาจไม่เพียงพอ