ย้อนไทม์ไลน์ สาวสวยสุดช้ำ หมอวินิจฉัยผิด จนเสียโฉม มองเกือบไม่เห็น
09 ก.ย. 2567
ย้อนไทม์ไลน์ สาวสวยพนักงานไอที เสียโฉมเพราะหมอวินิจฉัยผิดพลาด ฉีดยาแก้แพ้ จนมองเกือบไม่เห็น ผิวหนังพุพองทั้งตัว ต้องนอนไอซียูนานเป็นเดือน สุดท้ายพบว่าเป็น โรคสตีเวนส์จอห์นสัน
กลายเป็นประเด็นที่สังคมจับตา กรณีหมอโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง วินิจฉัยผิดพลาด ทำให้ นางสาวศศินันท์ อายุ 31 ปี สาวพนักงานไอซี กำลังเปิดช่องขายของทางยูทูบ สาวสวยหน้าตาดี ต้องมาเสียโฉม
แรกเริ่มจากการเจ็บป่วยด้วยอาการตาแดงและเจ็บคอ แต่แพทย์ฉีดยาจนมองไม่เห็น และแพ้ยาจนผิวหนังพุพองทั้งตัว อาการโคม่าต้องรักษาในห้องไอซียู สุดท้ายจากสาวสวย กลับต้อมาเสียโฉม
ย้อนไทม์ไลน์ ตั้งแต่การเข้ารักษา ช่วงเวลาที่หมอวินิจฉัยผิดพลาด จนทำให้สาวสวยต้องเสียโฉม และไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้
- 18 มิ.ย. 2567 มีอาการตาแดง ซื้อยามากินเอง แต่ไม่ดีขึ้น
- 20 มิ.ย. 2567 เข้ารักษาที่โรงพยาบาลชื่อดัง ย่านพหลโยธิน หมอวินิจฉัยว่าต่อมทอนซิลอักเสบ ฉีดยาแก้แพ้ 1 เข็ม แล้วให้กลับบ้าน
- วันเดียวกัน หลังกลับมาบ้านได้ไม่นาน เริ่มมีอาการแน่นหน้าอก ผื่นขึ้นเต็มตัว ตาเริ่มมองไม่ชัด ปากบวม โทรศัพท์ไปสอบถามที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจึงนัดให้มาพบแพทย์เฉพาะทางในวันที่ 21 มิ.ย. 2567
- 21 มิ.ย. 2567 แพทย์เฉพาะทางวินิจฉัยโรคว่า เป็นโรคอีสุกอีใส และฉีดยาแก้แพ้ตัวเดิมเพิ่มให้อีก แล้วให้แอดมิดนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล หลังฉีดยาไปไม่นาน อาการเริ่มหนักขึ้น ผื่นแดงขึ้นเยอะกว่าเดิม ตาซ้ายมองไม่เห็น ตาขวามองเห็นเพียง 50 % จึงรีบแจ้งพยาบาล
- 22 มิ.ย. 2567 หมอรีบนำตัวเข้าห้องไอซียู และฉีดยาแก้แพ้ตัวเดิมให้อีก เป็นเข็มที่ 3 จนมึนเบลอ ไม่ร่ายกายเริ่มชาไม่มีความรู้สึก
- 29 มิ.ย. 2567 ยังรักษาอยู่ในไอซียู แต่อาการไม่ดีขึ้น ทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่ง โดยโรงพยาบาลแห่งใหม่วินิจฉัยว่าเป็นโรคสตีเวนส์จอห์นสัน ระดับ10” (ความผิดปกติของผิวหนังและเยื่อเมือกบุผิวชนิดรุนแรง โดยอาจเกิดจากการติดเชื้อหรือการตอบสนองของร่างกายต่อยาบางชนิด)
- รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งที่ 2 อีก 1 เดือน 15 วัน อาการผื่นแดงหยุดลุกลาม แต่ตายังมองไม่ค่อยเห็นเหมือนเดิม โรงพยาบาลแห่งที่ 2 ส่งตัวกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งแรก
- รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งแรก 1 เดือน ทางโรงพยาบาลให้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน ทั้งที่ตายังมองไม่ค่อยเห็น และมีแผลตกสะเก็ดจากผื่นที่ขึ้นตามใบหน้าและร่างกาย โดยอ้างว่าเดี๋ยวจะนัดมารักษาตามอาการอีกครั้ง
- ปัจจุบันตาขวามองเห็นเพียง 50% ส่วนตาซ้ายมองเป็นฝ้าสีขาว จะเดินไปไหน ต้องมีคนจุงมือตลอด