หนุ่มสวีเดน ถูกหญิงไทยหลอกแต่งงาน โอนเงินกว่า 3 แสน ทั้งที่ยังไม่หย่าสามี
หนุ่มสวีเดน ถูกหญิงไทยในแอปหาคู่หลอกแต่งงาน พร้อมโอนเงินค่าจัดงานกว่า 359,000 สุดท้ายได้แค่ผูกข้อมือ ค้นพบความจริงถึงกับช็อก มีสามีจดทะเบียนสมรสอยู่แล้ว แถมบุกโรงพักข่มขู่
นาย AHMET (อาเหม็ด) อายุ 42 ปี สัญชาติสวีเดน เข้าขอความช่วยเหลือนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังรู้จักผู้หญิงชาวไทยผ่านแอพหาคู่ ถูกหลอกให้โอนเงินสัญญาว่า จะแต่งงานด้วย แต่กลับพบว่ามีสามีเป็นคนไทยอยู่แล้ว ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า แถมยังถูกสามีฝ่ายหญิงข่มขู่
นายเอกภพ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายรู้จักกับสาวไทยผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ชื่อดังตั้งแต่ 17 มิ.ย. และพูดคุยกันเรื่อยมา ก่อนที่ช่วงปลายเดือน ก.ค. นายอาเหม็ดโดนหญิงหลอกว่า จะแต่งงานด้วย จึงตกลง แต่ก็ถูกฝ่ายหญิงหลอกให้ทยอยโอนเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่ง รวมกว่า 359,000 บาท เนื่องจากฝ่ายหญิงอ้างว่า ต้องการให้ผิดชอบค่าใช้จ่ายร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายหญิงออกเพียงแค่ฝ่ายเดียว
ก่อนที่จะเดินทางมาแต่งงานในช่วงปลายเดือน ส.ค. 2567 ที่ผ่านมาที่บ้านฝ่ายหญิงใน ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ซึ่งทางฝ่ายชายเองก็เต็มใจที่จะโอนเงินให้ เพราะทำไปด้วยความเชื่อว่า ความรักที่แท้จริง
เมื่อไปถึง จ.สุโขทัย ในวันที่ 25 ส.ค. ฝ่ายหญิงไทยได้พามาเปิดห้องพักชั่วคราว อ้างว่า ห้องพักชั่วคราวดังกล่าวเป็นของญาติฝ่ายหญิง แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้เป็นเวลา 2 วัน ในวันที่ 28 ส.ค. นายอาเหม็ดเริ่มรู้ตัวแล้วว่า ถูกหลอก จึงเดินออกมาจากรีสอร์ทที่พัก เพื่อมาขอความช่วยเหลือ
ก่อนจะมาเจอเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่กำลังไปช่วยน้ำท่วม จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กู้ภัยฟัง กู้ภัยจึงช่วยเหลือด้วยการติดต่อกับฝ่ายหญิง จนมีการพูดคุยและนัดกันไปแต่งงานในวันรุ่งขึ้น คือ วันที่ 29 ส.ค. เวลา 09.00 น. แต่เมื่อถึงเวลานัดหมาย ฝ่ายหญิงแจ้งกับนายอาเหม็ดว่า ผู้ใหญ่บ้านติดภารกิจมาไม่ได้ จึงขอเปลี่ยนจากงานแต่ง เป็นผูกข้อมือสู่ขอตามประเพณีแทน
หลังเสร็จพิธีสู่ขอวันที่ 30 ส.ค. ฝ่ายหญิงขอให้ทางกู้ภัยลบโพสต์ที่ถ่ายรูปเธอผูกข้อมือกับชาวต่างชาติ จากนั้นไม่นานได้มีผู้ชายท่านนึงโทรมาแจ้งกู้ภัย อ้างว่า ชายผู้นั้นเป็นสามีกับหญิงคนที่ผูดข้อมือและยังไม่ได้หย่ากับฝ่ายหญิง และเตรียมที่จะฟ้องนายอาเหม็ดด้วย ทางกู้ภัยจึงแจ้งเรื่องให้นายอาเหม็ดทราบ "เขาช็อคตกใจมาก! เพราะไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน" จึงได้ขอให้กู้ภัยพาไป สภ.ศรีสำโรง เพื่อแจ้งความเอาผิดกับฝ่ายหญิงที่มาหลอกลวง แต่ปรากฎว่าตำรวจไม่ยอมรับแจ้ง
นอกจากนี้สามีของฝ่ายหญิง ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นทหารอยู่ที่ จ.ตาก ได้บุกมาหาเรื่องนายอาเหม็ดถึงโรงพัก เข้ามาผลักหน้าอกและด่าคำว่าอวัยวะเพศชายเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้นายอาเหม็ดเกิดความหวาดกลัวมาก เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย อีกทั้งก็ต้องการเงินคืนด้วย จึงตัดสินในเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด
