ข่าว

ใจดำกว่านี้มีอีกไหม ! แจ้งจับแม่ลูก 4 ลักทรัพย์ หลัง 7 ขวบ หิ้วกระป๋องน้ำติดมือมาด้วย

แม่ลูก 4 ร้องมูลนิธิฯ ถูกแจ้งจับลักทรัพย์ หลังลูกชายวัย 7 ขวบ หิ้วกระแป๋งน้ำราคา 45 บาท ขณะย้ายของออกจากห้อง เหตุค้างจ่ายค่าเช่าห้อง

4 ก.ย. 2567  น.ส.กุสุมาลย์ หรือกิ๊ก เจนการ อายุ 39 ปี แม่ลูก 4 หอบลูกเดินทางมาร้องเรียนที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังถูก เจ้าของห้องเช่าแจ้งจับข้อหาลักทรัพย์ และไล่ออกจากห้องเช่าเนื่องจาก ติดคาห้องเช่า เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง เดือนละ 1,000 บาท หลังจากย้ายออกจากห้องเช่าได้ 5 เดือน จู่ๆก็มีหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนสภปากคลองรังสิตจังหวัดปทุมธานีโดยกล่าวหาว่า ตน ลักทรัพย์ ให้ไปพบพนักงานสอบสวน ตนไม่มีเงินแม้กระทั่งค่ารถที่จะไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ตัดสินใจขายหม้อหุงข้าวไปในราคา 300 บาทเพื่อเป็นค่าเดินทาง และถูกจับพิมพ์ลายนิ้วมือ

น.ส.กุสุมาลย์ บอกว่า สาเหตุที่ถูกเจ้าของห้องเช่าแจ้งข้อหาลักทรัพย์ เนื่องจากในช่วงย้ายของออกจากห้องเช่า ลูกชายอายุ 7 ขวบ ด้วยความไร้เดียงสา ได้หิ้วกระแป๋งน้ำ ราคาแค่ 45 บาทออกมาด้วย  หลังจากที่เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่า ให้เอากระแป๋งน้ำมาคืน แต่เรื่องก็ไม่จบ เพราะ เจ้าของห้องเช่า ยังแจ้งอีกว่า ตนขโมยกระจกเงา ราคา 100 บาท และกุญแจ ล็อคตู้ไฟราคา 20 บาท รวม 3 รายการมูลค่า 165 บาท จากห้องเช่าไป ซึ่งตนยืนยันได้ว่า ระหว่างที่เช่าอยู่ ไม่มีกระจกบานดังกล่าว และกุญแจที่ว่าอยู่ในห้องเช่าเลย แถมยังประจานตนเอง และด่าทอ ใน Facebook ให้กับคนอื่นฟัง และทำไม เขาถึงต้องใจดำ กับตนขนาดนี้

 

 

น.ส.กุสุมาลย์ เล่าด้วยเสียงเศร้าว่า ปัจจุบัน ตน เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เคยขายลูกชิ้นปิ้ง แต่ได้หยุดขายมาหลายปี เนื่องจากผ่าตัดหัวเข่า ก็มีลูกชายคนโต อายุ 19 ปี เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการหาเลี้ยงครอบครัว ก็ถูกกลุ่มวัยรุ่น 8 คนรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ทางตำรวจจับตัวกลุ่มวัยรุ่นได้ทั้งหมด และเจรจาเยียวยา ชดใช้ให้กับลูกชาย คนละ 625 บาทต่อเดือน เป็นเงิน 5,000 บาท สุดท้ายก็ไม่มีการชดใช้เงินให้ตามที่ตกลง  

 

จากเรื่องที่เกิดขึ้น  ตน หมดหนทางไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้ว จึงได้ทักไปที่ Facebook ของมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนวานยุติธรรมในสังคม ร้องเรียนขอความเป็นธรรม

 

ทางด้าน ว่าที่ร้อยตรี รภัทรสิทธิ์ รองประธานมูลนิธิ กล่าวว่า ที่น่าแปลกใจ คือพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี มีการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ในวันที่ 2 สิงหาคม 67 ภายในวันเดียวกัน 2 ใบ และ ห่างกันไม่ถึงอาทิตย์ ก็นำหมายเรียกไปให้ผู้ต้องหาถึงบ้านทั้ง 2 ใบ ในวันเดียวกัน แถมยังมีการโทรศัพท์ทวงค่าเช่าห้องกับผู้ต้องหา ให้กับเจ้าของห้องเช่า ทำแบบนี้ถ้าต่อไปมีคดีตำรวจทั่วประเทศไม่ต้องทวงค่าเช่าห้อง แทนผู้เสียหายเหรอ ก็อยากให้ตำรวจมีการสอบปากคำทำคดีให้ละเอียดกว่านี้ เพราะถ้าแม่ลูก 4 คน นี้ไม่ไปตามหมายเรียก ถึงตอนนั้นคงไม่มีเงินจะประกันตัวสู้คดี ก็ต้องติดคุก และลูกๆทั้ง 3 คนที่ยังเล็กจะอยู่กับใคร

 

เคสนี้เป็นเคสที่น่าสงสารผู้ต้องหามาก ที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ซึ่งทางมูลนิธิ จะประสาน และทำเรื่องขอความเห็นใจขอความช่วยเหลือไปที่ทางสำนักอัยการ เพื่อดูว่าผู้ต้องหามีเจตนาหรือไม่ กับการที่ถูกผู้เสียหายแจ้งความข้อหาลักทรัพย์แบบนี้

แม่ลูก 4