ข่าว

ช่วย "เด็ก6ขวบ" ถูก"ครูต่างชาติ" ตบบ้องหูเลือดออก

ช่วย "เด็ก6ขวบ" ถูก"ครูต่างชาติ" ตบบ้องหูเลือดออก

02 ก.ย. 2567

กันจอมพลัง ช่วย "เด็ก6ขวบ" เข้าเรียนได้3เดือน ถูก"ครูต่างชาติ" ตบบ้องหูเลือดออก ผวาไม่กล้าไปเรียน ครูขอจ่าย 5,000 จบ

2ก.ย.2567 เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สน.พญาไท นาย กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" ได้พาแม่ของเด็กชายวัย 6 ขวบ เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์กลงล่าวโทษ ครูชาวฟิลิปปินส์ จากกรณีที่เด็กถูกครูชาวฟิลิปปินส์ใช้มือตบบ้องหูจนเลือดออก ซึ่งเด็กพึ่งจะย้ายเข้ามาเรียนได้แค่ 3 เดือน พอถามไปทางโรงเรียนกับไม่มีการช่วยเหลือใด ๆ และคุณครูบอก ขอจ่าย 5,000 บาท เพื่อจบเรื่อง ทางผู้เป็นแม่ไม่รับ เพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำกับเด็กคนอื่นอีก

 

กันจอมพลังกล่าวว่า เด็กชายวัย 6 ขวบถูกครูสาวชาวฟิลิปปินส์ ตบเข้าที่กกหู จากการที่เด็กไม่เข้าใจในสิ่งที่ครูสอน โดย กากบาทข้อสอบไปที่ตัว C ทั้งหมด ทำให้ครูเกิดความโมโห จึงลงมือตบไป 1 ครั้ง

 

โดยเด็กชายวัย 6 ขวบรายนี้ เพิ่งเข้าเรียนได้ประมาณ 3 เดือน ย้ายมาจากจังหวัดสระบุรีตามพ่อแม่ จึงอาจเรียนไม่ทันเพื่อนหรือยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ครูสอนซึ่งเป็นภาษาต่างประเทศทั้งหมด

 

กัน จอมพลัง กล่าวอีกว่า จิตวิญญาณของครู ควรต้องมีไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดและเชื่อว่าพฤติกรรมของครูไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเด็กชายรายนี้เป็นคนแรก น่าจะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว จากนี้จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการเข้ามาทำงานที่ประเทศไทยของครูสาวชาวฟิลิปปินส์รายนี้ด้วย

ขณะที่พ่อ-แม่ ของเด็กชายผู้เสียหายบอกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ ผู้บริหารโรงเรียน และครูสาวคู่กรณี พยายามเจรจาไกล่เกลี่ยโดยเสนอเงินให้ครั้งแรก 5,000 บาท พ่อกับแม่มองว่า ไม่ควรเจรจาและจบลงด้วยการเอาเงินมาปิดปาก จากนั้นครูก็พยายามเสนอเงินเพิ่มให้เป็น 10,000 บาท พ่อแม่ก็ไม่ยอม พร้อมยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

 

สำหรับ ลูกชาย หลังเกิดเหตุก็มีอาการหวาดระแวง วิตกกังวลและไม่ยอมไปเรียนหนังสือ ขณะที่อาการบาดเจ็บเริ่มดีขึ้นซึ่งตอนแรกหลังจากถูกทำร้ายร่างกายใหม่ๆ เลือดไหลออกมาทางรูหูตลอดเวลาและใบหน้าฝั่งซ้ายมีอาการบวม สวนทางคดีขอให้ตำรวจเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ด้านพันตำรวจเอกวัชรวีร์ ธรรมเสมา ผู้กำกับสน. พญาไท รับปากพ่อแม่ของเด็กและการจอมพลังว่าจะดำเนินคดีและให้ความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด เบื้องต้นได้ทำหนังสือสอบถามไปที่โรงเรียนดังกล่าวแล้ว ซึ่งโรงเรียนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนประเด็นการเข้ามาทำงานในประเทศไทยต้องตรวจสอบไปที่ตมว่าครูสาวชาวฟิลิปปินส์เข้ามาอย่างถูกต้อง มีใบอนุญาตการทำงานหรือไม่