
ม็อบต่างถิ่นบุกยึดสวนปาล์มชาวบ้าน อ้างเรียกร้องที่ดินทำกิน
ชาวบ้านห้วยโต้ ผวาถูกม็อบต่างถิ่นบุกยึดสวนปาล์ม อ้างเรียกร้องที่ดินทำกิน แจ้ง จนท. ตั้งด่านหน้าหมู่บ้าน สร้างความไม่พอใจให้ผู้ชุมนุม หวิดปะทะกัน
เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2567 กลุ่มชาวบ้านที่อ้างเป็นผู้ชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกินมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ บ้านห้วยโต้ หมู่ 4 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ เพราะไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจค้นผู้เข้า-ออกหมู่บ้าน ทำให้กลุ่มม็อบดังกล่าว เข้า-ออกพื้นที่ไม่ได้ จนหวิดจะเกิดการปะทะกัน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่จุดตรวจดังกล่าวพบกับ นายวิชัย เพ็ชรรักษ์ ผญบ.หมู่ 4 เพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ทราบว่า เหตุที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ต้องมาตั้งด่านตรวจตราการเข้าออกพื้นที่ เพราะมีคำสั่งจาก นอภ.เมืองกระบี่ ให้เข้ามาดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ เพราะชาวบ้านห้วยโต้ร้องเรียนว่า กำลังได้รับความเดือดร้อน หวาดกลัวชาวบ้านอีกกลุ่มที่อ้างเป็นม็อบเรียกร้องที่ดินทำกินกว่า 200 คน ซึ่งเป็นกลุ่มชาวบ้านจากต่างถิ่น เข้ามาบุกรุกปักหลักกางเต้นท์ อยู่กินภายในสวนปาล์มของชาวบ้านตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยอ้างว่า มาจับจองพื้นที่ เพื่อรอรับการจัดสรร ทั้งๆ ที่พื้นที่เหล่านี้ เป็นที่ดินของชาวบ้านและที่ดินของเอกชน มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องทั้ง ส.ค.1 น.ส.3 และโฉนด ไม่ใช่ที่ดินป่าของรัฐแต่อย่างใด ทำให้ชาวบ้านเจ้าของพื้นที่อยู่กันอย่างหวาดกลัว เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ชาวบ้านไม่กล้าออกมาทำมาหากิน ไม่กล้ากรีดยาง หรือเข้าไปดูแลสวนปาล์ม เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่พบกลุ่มผู้ชุมนุม 200-300 คน ที่มาจากต่างจังหวัด และบางส่วนมาจากพื้นที่ จ.กระบี่ ต่างมาปักหลักกางเต็นท์พักอาศัยกันอยู่ในสวนปาล์ม ซึ่งตรวจสอบแล้วพบเป็นสวนปาล์มที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง มีทั้งของชาวบ้าน และบริษัทเอกชน เนื้อที่กว่า 1,300 ไร่ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน จึงมาปักหลักชุมนุมเรียกร้องให้รัฐจัดสรรให้
นางหนูเรียง ท่าดี อายุ 58 ปี ชาวบ้านเจ้าของพื้นที่รายหนึ่ง เผยว่า ตนเองมีที่ดินสวนปาล์มอยู่ในจุดเกิดเหตุ มีเอกสารครอบครองถูกต้อง ทำกินมานานกว่า 30 ปีแล้ว ก่อนนึ้อยู่กันอย่างสงบ ไม่เคยมีปัญหาอะไรในหมู่บ้าน จนเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มเรียกร้องที่ดินทำกินบุกเข้ามาอยู่ในพื้นที่ ทำให้ตนและชาวบ้านต่างพากันหวาดกลัว เพราะเป็นคนต่างถิ่น เข้ามาอยู่เพื่อจุดประสงค์อะไรก็ไม่รู้ ตนแทบไม่กล้าออกจากบ้านไปทำสวนหรือไปไหนมาไหนเลย จึงต้องขอให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยให้ และอยากให้เร่งเข้ามาผลักดันให้คนกลุ่มนี้ออกจากพื้นที่ไปด้วย เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่ดินที่รอการจัดสรร
ขณะที่กลุ่มชาวบ้านที่มาชุมนุมบางส่วน บอกว่า หลายคนไม่รู้เลยว่าที่ดินนี้เป็นที่ดินที่มีเจ้าของครอบครองถูกต้อง แต่มีแกนนำชุมนุมไปให้ข้อมูลและชักชวนให้มาปักหลักอยู่กัน เพื่อรอการจัดสรรที่ดินจากรัฐ ส่วนหลังจากนี้จะย้ายออกไปหรือไม่ ต้องรอคำสั่งของแกนนำอีกครั้ง