ปรากฏการณ์ "สมเพียร"สตช.ทุ่มช่วยตร.คุมฝูงชน | คมชัดลึก

  กรณี พ.ต.ท.ธวัช ข่ายม่าน อายุ 42 ปี สารวัตรอำนวยการ 7 ตร.ภ.จว.ตรัง หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงกับข้อมือขวาขาด หลังจากประสบอุบัติเหตุระหว่างกลับจากภารกิจควบคุมฝูงชนที่แยกราชประสงค์ แม้ยังรับไม่ได้กับสภาพความสูญเสียแต่ก็ได้รับกำลังใจจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 "การปูนบำเหน็จความดีความชอบ มีอยู่แล้วในระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถือว่าเป็นอุบัติเหตุระหว่างการปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน เพราะเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางกลับ สตช.รับปากจะดูแลไม่มีการละทิ้งอย่างเด็ดขาดและจะรับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อความสะดวกและต้องการดูแลผู้ป่วยให้ดีที่สุดพร้อมทั้งให้เงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บทุกนาย“ นี่คือคำยืนยันจากพล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่รีบบินด่วนมาดูแลตำรวจตรัง หลังจากได้รับอุบัติเหตุในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ช่วงสับเปลี่ยนกำลังตามคำสั่ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

 หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.ท.เอก พร้อมด้วยทีมแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ เดินทางลงไปดูอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และสั่งลำเลียงผู้บาดเจ็บ 3 รายเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ทันทีคือ ด.ต.ประสาน ชูสังข์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณสันหลัง, ส.ต.อ.ศราวุฒิ ฉูมี เจ็บบริเวณไหล่ขวาและซี่โครง และ ส.ต.ท.สนธยา คงแก้ว ขาหัก

 ขณะที่ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสตช. ได้นำเงินไปมอบให้แก่พ.ต.ท.ธวัช เป็นเงินจากสวัสดิการกองทุนข้าราชการตำรวจ จำนวน 1 แสนบาท กรณีแขนขาด และอีก 5 หมื่นบาท สำหรับอาการบาดเจ็บสาหัสจากการปฏิบัติหน้าที่ รวมเป็น 1.5 แสนบาท รวมทั้งได้รับการปูนบำเหน็จเงินเดือน 3 ขั้น

 "ข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกรณีดังกล่าวข้างต้นก็จะได้รับสิทธิ์เช่นเดียวกัน โดยได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก โดยการเดินทางสับเปลี่ยนกำลังให้ใช้รถยนต์ตู้ของทางราชการ หากไม่เพียงพอและจำเป็นต้องเช่ารถบัสโดยสาร ต้องตรวจสอบพนักงานขับรถให้สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัย" พล.ต.ท.พงศพัศแสดงความห่วงใย

 ด้านพล.ต.ท.วีระยุทธ สิทธิมาลิก ผบช.ภ.9 ฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรง เดินทางมามอบเงินสวัสดิการตำรวจภูธร ภาค 9 อีกจำนวน 5.2 หมื่นบาท เพื่อปลอบขวัญและเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนที่ประสบเหตุครั้งนี้

 ไม่เพียงแต่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสตช.และในพื้นที่เท่านั้น พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. เจ้าของพื้นที่ชุมนุมซึ่งร้องขอกำลังจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาคต่างๆ เข้ามาช่วยเสริมก็ลงไปดูแลและมอบเงินเพื่อเป็นกำลังใจเช่นกันเดียวกัน

 นี่อาจเป็นปรากฏการณ์ที่ดีสำหรับนายตำรวจระดับปฏิบัติที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้การดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากสตช.ถูกตำหนิจากสังคมและกำลังพลชั้นผู้น้อยอย่างรุนแรงกรณี พล.ต.อ.สมเพียร ที่ต้องเสียชีวิตทั้งๆ ที่เข้ามาร้องขอความเป็นธรรมต่อรักษาการผบ.ตร. ในวัยใกล้เกษียณ

 อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อฟ้าใกล้สางของวันที่ 4 พฤษภาคม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดตรังจำนวน 45 นาย กำลังเดินทางกลับบ้าน หลังจากปฏิบัติภารกิจควบคุมม็อบบริเวณแยกราชประสงค์เสร็จสิ้น

 รถทัวร์ปรับอากาศ 2 ชั้นเช่าเหมารับกำลังเจ้าหน้าที่จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ จ.ตรัง มี พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เป็นผู้ควบคุมกำลัง รถดังกล่าววิ่งมาตามถนนสายเอเชียเมื่อถึงหลักกิโลเมตรที่ 207 หมู่ 1 ต.น้ำพุ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี รถเกิดเสียหลักท่ามกลางความตกใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มคันรถ อึดใจนั้นรถได้พลิกคว่ำลงข้างทางชนเข้ากับเสาปูนซีเมนต์เกาะกลางถนนทำให้ช่วงล่างเสียหายทั้งหมด เด็กรถ 2 คนคือนายณัฐพล ประทับ อายุ 22 ปีกับนายธีระยุทธ สมบุญ อายุ 34 ปี ถูกรถทับตายคาที่ และตำรวจอีก 37 คนบาดเจ็บ รวมถึงพ.ต.อ.นุกูล

 หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีนับร้อยคน ทยอยนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลบ้านนาสารและโรงพยาบาลบ้านนาเดิม จำนวน 6 รายอาการสาหัสต้องส่งต่อโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะพ.ต.ท.ธวัช ข่ายม่าน อายุ 42 ปี ข้อมือขวาขาด และด.ต.สนธยา คงแก้ว อายุ 36 ปี กระดูกหักหลายแห่ง

 ส่วนนายนคร หมื่นนคร อายุ 45 ปี คนขับรถได้รับบาดเจ็บแผลฉีกขาดบริเวณศีรษะ เบื้องต้นเชื่อว่าอาจหลับในก่อนรถเสียหลักพลิกคว่ำดังกล่าว

สุวรรณี บัณฑิศักดิ์