เด็กเอนร้อง สายไหมต้องรอด ถูกลูกค้าซ้อมน่วม | คมชัดลึก

25 ส.ค.2567 ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 สาวผู้เสียหายซึ่งประกอบอาชีพเป็นสาวเอนเตอร์เทน เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกลูกค้าทำร้ายร่างกายน่วมไปทั้งตัว 

นางสาว เอ (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมาตนได้ไปรับงานเอนเตอร์เทนที่ โรงแรมแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 โดยมีการโทรมาชวนให้ไปกับนางสาว บี ซึ่งเป็นเด็กเอนเตอร์เทนอีกคนหนึ่งด้วยราคาค่าตัว 4 ชม. อยู่ที่1,500 บาท เป็นงานชงเหล้าและดื่มกับลูกค้า โดยมีลูกค้าเป็นผู้ชาย 2 คน 

 

เมื่อไปถึงโรงแรมช่วงเวลาประมาณตี 4 ลูกค้าได้เปิดห้องเอาไว้สองห้อง ภายในห้องมีลูกค้า 2 คน และนางสาว บี อีกหนึ่งคนโดยลูกค้าที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายตน เป็นลูกค้าของ นางสาว บี  ส่วนตนรับน่าทีชงเหล้าให้กับลูกค้าอีกคนหนึ่ง

 

จากนั้นนั่งดื่มกันไปสักพักถึงช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. นางสาว บี ได้ถามลูกค้าว่าจะต่อเวลาของตนอีกมั้ย เพราะรอบของตนจะครบ 4 ชม. ในเวลา 06.30 น. ตนจะได้อยู่เป็นเพื่อนน้อง (นางสาว เอ) เพราะรอบของน้องหมดเวลา 08.00 น. แต่ลูกค้าไม่ขอต่อเวลาและไล่ให้นางสาว บี กลับไปได้เลย

 

เมื่อนางสาวเอรู้สึกไม่สบายใจที่จะต้องอยู่คนเดียวเลยขอลูกค้าว่าหนูจะขอกลับด้วยเลยได้มั้ย เพราะที่คุยงานกันไว้ คือ ไม่รับงานเอนแบบ 1-1 ตอนนั้นผู้ก่อเหตุเริ่มดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ กระทั่งเวลา 06.30 น. ได้หมดเวลาของนางสาวบี  เธอจึงขอรับค่าตัว โดยผู้ก่อเหตุได้โอนเงินค่าตัวให้จำนวน 1,500 ก่อนยืนคุยกันสักพัก และเริ่มจะด่านางสาวบี และทะเลาะกัน ผู้ก่อเหตุได้ขอเงินค่าตัวคืนโดยพูดว่า "กูไม่อยากให้เงินมึงแล้วเงินกูเอาคืนมา"

ทั้งคู่โต้เถียงกันสักพักนางสาวบี ไม่อยากมีปัญหามากกว่านี้จึงยอมคืนเงินไป ก่อนจะเดินออกจากห้องไปที่รถ แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังคงตามไปด่าถึงที่รถ ก่อนจะเดินกลับมาหา นางสาวเอ และพูดว่า "มึงมานี่ดิ มึงจะอยู่ต่อคนเดียวได้มั้ย" ตนดูเวลาตอนนี้ก็ใกล้จะ 7 โมงเช้าแล้วอีกหนึ่งชม. ก็จะครบเวลา จึงตอบกลับไปว่าอยู่ได้เพราะไม่อยากมีปัญหาไปมากกว่านี้

 

ผู้ก่อเหตุจึงพาตนเดินไปหานางสาวบีที่รถเพื่อให้ไปบอกกับนางสาวบี ว่าเธออยู่ต่อคนเดียวได้ ก่อนกลับตนได้ยกมือไหว้ขอโทษนางสาวบี ที่ต้องมามีปัญหากับลูกค้าเพราะตน และหันไปไหว้ขอโทษผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุกับพูดกลับมาว่า "มึงไปไหว้พ่อมึงเถอะไม่ต้องมาไหว้กู กูไม่ใช่พ่อมึง" ตนจึงบอกว่า "พี่ทำไมมาพูดถึงพ่อถึงแม่คนอื่นแบบนี้" ด้านผู้ก่อเหตุไม่สนใจและสั่งให้ตนกลับเข้าไปในห้อง  จากนั้นนางสาวบี จึงยอมขับรถกลับไปโดยที่ไม่ได้ค่าตัว 

หลังกลับเข้ามาในห้องตนก็ได้ไปนั่งชงเหล้าให้กับลูกค้าของตัวเองต่อ สักพักผู้ก่อเหตุก็ได้เดินมานั่งข้างๆแล้วก็ด่าตน ก่อนยื่นแก้วให้ชงเหล้า และพูดว่า "มึงชงเหล้าให้กูสิ ชงดีดีอย่าให้บาดคอกู" ตนจึงตอบกลับไปว่า "ทำไมพี่พูดจาไม่ดีเลย หนูยังไม่ได้พูดอะไรไม่ดีกับพี่เลยน่ะ ตั้งแต่ข้างนอกแล้ว ถ้ามีคนพูดกับพี่แบบนี้พูดถึงพ่อพี่แบบนี้พี่จะรู้สึกยังไง" แต่ผู้ก่อเหตุตอบกลับมาว่า "ถ้ากูต่อยผู้หญิงกูผิดมั้ย" ก่อนจะชกเข้าที่เบ้าตาซ้าย

 

ทำให้ตนร่วงลงไปอยู่กับพื้นแต่ไม่พอยังมีการเตะและกระทืบซ้ำเข้าที่บริเวณแขนและใบหน้าอยู่หลายครั้ง และเหมือนว่าแก้วเหล้าจะหกไปโดนรองเท้าผู้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุจึงได้ถอดรองเท้าออก และสั่งให้ตนเอง เอารองเท้าเข้าไปซักในห้องน้ำ ขณะเข้าไปอยู่ในห้องน้ำตนเองจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกวีดีโอและใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ

 

 เท่านั้นยังไม่พอผู้ก่อเหตุเรียกตนออกมาแล้วให้ก้มใส่รองเท้าให้ ก่อนจะเตะเข้าไปที่กกหูแล้วทำการกระทืบซ้ำ ทำร้ายตบต่อยอยู่กว่า 5 นาที ด้านเพื่อนผู้ก่อเหตุได้เข้าช่วยห้ามปรามแต่ผู้ก่อเหตุสั่งให้ไปปิดประตูเอาไว้กันเสียงออก ตนได้แต่ร้องขอยกมือไหว้อย่าทำร้ายตนอีกเลย แต่ผู้ก่อเหตุไม่ฟังทำร้ายร่างกายจนพอใจ จึงจะปล่อยให้กลับแล้วก็ยังมีท้าให้ไปแจ้งความกับตำรวจได้เลย โดยบอกว่า บ้านตนรวยรู้จักคนเยอะไม่กลัวอะไรทั้งนั้น 

 

ต่อมาเวลา 12.00 น. ของวันเดียวกันตนเองพร้อมคุณแม่ได้เดินทางไปแจ้งความกับทางตำรวจ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ในข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยวันเดียวกันทางพนักงานสอบสวนจึงได้ตามตัวนายมิกซ์ ผู้ก่อเหตุให้มาเข้าพบ เพื่อพูดคุยกันฝ่ายนายมิกซ์ทำเพียงแค่ขอโทษผู้บาดเจ็บและอ้างว่าตนเมาไม่ได้ตั้งใจ และได้ช่วยเพียงค่ารักษาพยาบาลมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 

วันนี้จึงเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้ช่วยติดตามคดีและดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และให้ผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบในส่วนของค่าเสียหายทั้งหมด เพราะก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุอ้างว่ารู้จักผู้ใหญ่มากมาย จึงเกรงว่าเรื่องจะเงียบและไม่ได้รับความเป็นธรรม 

 

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เรื่องนี้จะประสานไปยัง ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ให้ช่วยเร่งตามคดีให้เร็วที่สุด ให้ดำเนินการกับผู้ก่อเหตุขั้นเด็ดขาด เพราะการที่มาทำกับผู้หญิงแบบนี้มันไม่ถูกต้องและไม่สมควรอย่างมาก และจะให้ผู้ก่อเหตุต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย ไม่ว่าจะค่ารักษาแผล หรือการที่น้องต้องขาดรายได้ ดูจากสภาพรอยแผลแล้วคงจะเป็นเดือนๆ เพราะงานของน้องต้องใช้น่าตาความสวยเพื่อทำงาน