วันที่ 14 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. ที่ สภ.เมืองนครพนม ครอบครัวของ น.ส.วิสุดา หรือน้องบี อายุ 23 ปี อดีตผู้ช่วยพยาบาลประจำห้อง ICU รพ.นครพนม ที่ถูกรถยนต์ SUV ยี่ห้อ Ford Territony สีเทา ทะเบียนประเทศลาวป้ายเหลือง แขวงคำม่วน สปป.ลาว มี Mrs.Bouneng (นางบุญเฮง) อายุ 50 ปี นักธุรกิจโชว์รูมรถยนต์อยู่นครหลวงเวียงจันท์ สปป.ลาว เป็นคนขับฝ่าไฟแดง บริเวณ 4 แยกบ้านดอนโมง ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม ฝั่งขาเข้าตัวเมืองพุ่งชนรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บรวม 10 ราย แยกออกเป็นรถวีออส 7 ราย
ในจำนวนนี้มีน้องบีซึ่งท้องแก่ใกล้คลอดอายุครรภ์ 8 เดือน ถูกคอนโซลหน้ากระแทกอย่างแรง กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมาส่ง รพ.นครพนม แพทย์รีบนำตัวเข้าดูแลรักษาในห้อง ICU ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของน้องบี แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ น้องบีทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตตายทั้งกลม แพทย์จึงผ่าท้องนำเด็กทารกออกมาเป็นเพศหญิง ที่มีความสมบูรณ์อวัยวะครบ 32
ส่วนฝั่งรถยนต์หรูคู่กรณี มีผู้บาดเจ็บ 3 คนเป็นหญิงทั้งหมด หนึ่งในนั้นเป็นแพทย์ประจำ รพ.แขวงคำม่วน สปป.ลาว อายุ 52 ปี มีบาดแผลขาหัก หลังแพทย์ รพ.นครพนม ผ่าตัดด้ามเหล็กให้แล้ว ผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนก็รีบออกจากโรงพยาบาล อ้างเพื่อกลับไปรักษาต่อที่แขวงคำม่วน เหตุเกิดบนทางหลวงแผนดินหมายเลข 22 (นิตโย) สายนครพนม-สกลนคร เวลาประมาณ 18.00 น.
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา การเดินทางมาโรงพักในครั้งนี้ เนื่องจากนางบุญเฮงคู่กรณี ได้นัดหมายเพื่อขอเจรจาไกล่เกลี่ยจ่ายค่าสินไหมทดแทน ปรากฏว่านางบุญเฮงกลับส่งตัวแทน และทนายความชาวไทยมาเจรจา โดยอ้างว่ายังบาดเจ็บซี่โครง นางรินดา อายุ 50 ปี แม่ของน้องบีที่นั่งรถวีลแชร์เนื่องจากสะโพกร้าว แพทย์แนะนำเคลื่อนไหวตัวให้น้อยที่สุด ตอบกลับไปว่าตนอาการหนักกว่าเยอะยังมาได้เลย
การเจรจาค่าสินไหมทดแทน ใช้ห้องศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน สภ.เมืองนครพนม โดยมี พ.ต.ท.ธานินทร์ กันภัย รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองนครพนม ร่วมรับฟังด้วย ซึ่งตัวแทนของนางบุญเฮงรวมทั้งทนายความ แจ้งกับครอบครัวผู้สูญเสียว่านางบุญเฮง เสนอเงินเยียวยารวมทั้งคนตายและคนเจ็บ เป็นเงิน 500,000 บาท ทุกคนพอได้ยินถึงกับอุทานร้องโห้เหมือนนัดกันไว้ ซึ่งทางตัวแทนนางบุญเฮงอ้างไม่มีเงินมากกว่านี้
ทางครอบครัวน้องบีจึงไม่ยอมรับข้อเสนอ พร้อมให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายไทย แต่ทางตัวแทนขอนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับนางบุญเฮงอีกครั้ง โดยนัดเจรจาเป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 22 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ ด้าน นางรินดา สีคำ แม่น้องบีผู้เสียชีวิตตายทั้งกลม กล่าวหลังจากออกจากห้องเจรจาว่า ยอมรับมันจุกอยู่ที่ลำคอ ราคาคนจนมันมีค่าแค่นี้เองเหรอ ตนต้องเสียลูกและหลานไปถึง 2 ชีวิต จึงไม่ขอรับเงินจำนวนดังกล่าว
ส่วน นายสมิง อายุ 56 ปี พ่อของน้องบี เปิดเผยว่าได้เสนอไป 10 ล้านบาท เพราะลูกสาวทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล รพ.นครพนม อายุ 23 ปี รับเงินเดือน 16,000 บาท มีอายุราชการเหลือ 57 ปี ถ้าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ จะได้รับเงินเดือนรวมทั้งสิ้น 10,944,000 บาท อีกทั้งเขาเป็นเสาหลักของครอบครัว การเสนอเงินเยียวยา 500,000 บาท ตนไม่ยอมรับเด็ดขาด ไหนลูกชายคนตายต้องกำพร้าแม่ ต้องเรียนหนังสือตรงนี้ใครจะรับผิดชอบ แต่เมื่อทางตัวแทนคู่กรณีขอไกล่เกลี่ยใหม่เป็นครั้งที่ 3 ตนก็ยินดีที่จะเจรจา พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่าแม้ครอบครัวยากจนแต่ก็มีศักดิ์ศรี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ก่อนหน้านี้ นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม ได้มอบหมายให้เลขามาพบพนักงานสอบสวน กำชับให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างรอบคอบ และตรงไปตรงมา ให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง