ข่าว

อดีตทหาร ถูกไล่ออกจากราชการ ไม่สำนึกตระเวนขโมยหัวทองเหลืองสายดับเพลิง

อดีตทหาร ถูกไล่ออกจากราชการ ไม่สำนึกตระเวนขโมยหัวทองเหลืองสายดับเพลิง

12 ส.ค. 2567

ตำรวจกองปราบ จับ อดีตทหารเคยก่อเหตุขโมยของหลวง ถูกไล่ออกจากราชการ ไม่สำนึกยังตระเวนขโมยหัวทองเหลืองสายดับเพลิง

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.ท.กิติภูมิ  ศรีแผ้ว สว.กก.5 บก.ป. พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจชุดปฏิบัติการ 3 กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม นายวิจิตร อายุ 32 ปี ได้ที่ ม.7 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร 


 
หลังจากที่ นายวิจิตร เคยรับราชการทหาร แผนกช่างทหารยศสิบเอก ของค่ายแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพร ก่อนโดนไล่ออกจากราชการ เนื่องจากไปขโมยของหลวงภายในค่าย ที่จังหวัดลพบุรี จากนั้นจึงเดินทางกลับมาใช้ชีวิตกับภรรยาชาวจังหวัดชุมพร โดยไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่งและออกตระเวนลักทรัพย์ในเวลากลางคืนภายในเขตอำเภอเมืองชุมพร โดยตระเวนลักทรัพย์คนเดียวใช้ จยย. เป็นยานพาหนะ 

อดีตทหาร ถูกไล่ออกจากราชการ ไม่สำนึกตระเวนขโมยหัวทองเหลืองสายดับเพลิง

ซึ่งสองครั้งล่าสุดได้ขโมยหัวทองเหลืองของสายดับเพลิงภายในห้างบิ๊กซี และครั้งล่าสุดเข้ามาขโมยหัวทองเหลืองจากสายดับเพลิง ที่โรงพยาบาลชุมพร แล้วนำไปแกะขาย กิโลกรัมละ 150-160 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ และสถานประกอบการ  สถานที่ราชการ เป็นอย่างมาก  


ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบว่า นายวิจิตร มาพักอาศัยอยู่ใน ม.7  ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบและร่วมกันวางแผนจับกุม จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว จนกระทั่งพบผู้ต้องหารายนี้มีตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงแสดงหมายจับและจับกุมตัว 

นายวิจิตร ยอมรับว่า ตนเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวข้างต้นจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมในตามหมายจับดังกล่าวมาก่อนและให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา   

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ถูกจับมาจัดทำบันทึกการจับกุมที่ ที่ สภ.เมืองชุมพร ต.ท่าตะเภา อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 
 


เบื้องต้นแจ้งข้อหา ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม