นายทินกร (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ผู้เสียหาย เข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังจากเคยเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวคนนึงที่ทำอาชีพเป็นพีอาร์ มีผู้ชายเลี้ยงดูแต่สาวคนดังกล่าวถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ตัวเองจึงให้เงินไป 2 หมื่น เพื่อไถ่ตัวเองออกมา แต่ปรากฏว่า ตัวเองถูกทำร้ายร่างกายจนน่วม
นายทินกร เล่าว่า รู้จักและพูดคุยกับผู้หญิงคนนึงผ่านแอพพลิเคชั่น ฝ่ายหญิงก็เริ่มเล่าปัญหาชีวิตให้ฟังว่า เธอเป็นสาวพีอาร์ไปรู้จักกับผู้ชายคนนึง ซึ่งเป็นคนเลี้ยงดูเธอ ให้เงิน ให้ทอง แต่ช่วงหลัง ไม่ได้ให้เงินใช้แล้วและทำร้ายร่างกายด้วย พร้อมกับเล่าว่า ชายคนนั้นตามรังควานส่งคนมาติดตามคุกคาม เคยขับรถไล่ จะชนสาวพีอาร์ ทุบกระจกให้ลงจากรถ รวมถึงเหยียบหน้าเอาปืนจ่อด้วย สาวพีอาร์บอกว่า ทนไม่ไหวแล้ว เพราะถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้ตลอดระยะเวลาที่เลี้ยงดูประมาณ 7-8 เดือน จึงขอเลิก แต่คนเลี้ยงลูกบอกว่า ถ้าอยากจะขอเลิกก็ให้นำเงินที่ให้ไปมาคืนทั้งหมด 2 หมื่นบาท
นายทินกร เล่าต่อว่า ตอนนั้นตนรู้สึกสงสาร เชื่อใจ อยากให้สาวพีอาร์มีชีวิตที่ดี ไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ชีวิตของคนคนนึง ไม่ควรถูกรังแกขนาดนี้ ตนจึงตัดสินใจ ให้เงินไป 2 หมื่นบาท เพื่อให้น้องไถ่ตัวเองออกมา และเมื่อโอนเงินให้คนที่เลี้ยงดูเรียบร้อยแล้ว ฝ่ายนั้นก็โกรธแค้นมาก และไปสืบหาว่า เอาเงินมาจากไหน พอมารู้ว่า ตนเป็นคนให้ ก็ให้คนมาทำร้ายร่างกาย ทั้งหมด 4-5 ครั้ง ตลอดระยะเวลา ร่วม 2 ปี ตั้งแต่ปี 2565
ครั้งแรกที่ถูกทำร้ายเกิดขึ้นวันที่ 23 ก.พ. 2565 ตนนั่งกินก๋วยเตี๋ยวหน้าเซเว่นกับฝ่ายหญิงอยู่ คนที่เลี้ยงดูตรงปรี่เข้ามาทำร้ายร่างกายตน แล้วบอกว่า "มายุ่งเรื่องชาวบ้าน" ตนจึงหนีเข้า สน.สุทธิสาร จากนั้นอีกฝ่ายอ้างว่า รู้จักตำรวจยศใหญ่ มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ โดยมีการไกล่เกลี่ยกัน 1 ครั้ง ซึ่งอีกฝ่ายได้ " ขอโทษ" จากนั้นคดีก็เงียบหาย
วันที่ 1 มิ.ย. 2565 ตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์ อยู่แต่ปรากฏว่ามีชายไม่รู้จัก ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบด้านขวา แล้วใช้เท้าถีบจักรยานยนต์จนล้ม ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ
วันที่ 9 ก.ย. 2566 ตนอยู่ในบ้าน แต่อีกฝ่ายตามมาถึงหน้าบ้าน โดยไปถามเพื่อนบ้านว่าตนอยู่ในบ้านไหม จากนั้นตนก็ถูกทำร้ายคาบ้านตัวเอง
วันที่ 30 ก.ค. 2567 มีชายไม่ทราบชื่อ 4 คน มาขู่ตนอีก บอกว่า จะทำร้ายร่างกาย ตนจึงกลัวมาก เลยมาลงบันทึกประจำวันไว้ เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้าย แต่อีกฝ่ายก็ไม่หยุดราวี วันที่
วันที่ 1 ส.ค. 2567 และ วันที่ 5 ส.ค. 2567 อีกฝ่ายให้คนมาทำร้ายร่างกายถึงหน้าบ้าน ตนก็วิ่งหนีเอาตัวรอดเข้าไปในบ้าน แต่คนพวกนั้นก็ตามเข้ามาทำร้ายถึงในบ้านอีก
ขณะที่ฝ่ายหญิงเห็นว่า ตนถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้ ก็รู้สึกสงสาร จึงตัดสินใจขาดการติดต่อไป เพราะไม่อยากให้ตนได้รับบาดเจ็บ แต่ถึงแม้ว่าจะเลิกรากับฝ่ายหญิงไปแล้ว ฝ่ายคนเลี้ยงดูก็ยังให้คนมาทำร้ายร่างกายตนไม่เลิก โดยตนรู้ว่าอีกฝ่ายได้จ้างคนมาทำร้ายตนถึง 5 ครั้ง มาแต่ละครั้ง ก็จะมาหลายคน พูดจาข่มขู่ อ้างว่า "สะกดคำว่าตายไม่เป็นหรอ เดี๋ยวกูสะกดให้" บางคนพกอาวุธมีดมาด้วย โดยทุกครั้งที่ถูกทำร้ายร่างกายตนไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ตลอด ที่ สน.สุทธิสาร 1 ครั้ง และ ที่ สภ.คลองหลวง 4 ครั้ง แต่ไม่เคยได้รับการติดต่อมาเลย
นายทินกร เชื่อว่า อีกฝ่ายรู้สึกโกรธแค้นและอาฆาตที่ตนยื่นมือเข้าช่วยเหลือน้องผู้หญิงคนนี้ ประกอบกับทราบมาว่า อีกฝ่ายเป็นคนมีฐานะ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ชอบอ้างว่ารู้จักกับตำรวจยศใหญ่ จึงไม่เกรงกลัวกฎหมาย ตนจึงอยากให้ตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ อยากให้อีกฝ่าย ได้รับผลกรรมที่ทำไว้ อย่าคิดว่าเงินคุณจะซื้อได้ทุกอย่าง สักวันกรรมจะตามสนอง ส่วนเงิน 20,000 บาท ตอนนี้ตนก็ยังไม่ได้คืน แต่เชื่อว่า เราได้ทำสัญญาใจกันแล้ว คิดว่ายังไงฝ่ายหญิงก็ต้องคืนในสักวัน
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า หลังจากนี้จะประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรปทุมธานี สภ.คลองหลวง ให้เข้ามาติดตามความคืบหน้า เพื่อดำเนินการ เพราะมีหลักฐานทั้งคลิปภาพ และเชื่อฝีมือ สภ.คลอง ทั้งนักสืบฝีมือดี เป็นโรงพักเกรดเอ เหตุใดจึงไม่เร่งดำเนินดำเนินคดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง