
สืบนครบาล รวบ ไอ้แบงค์หื่น อนาจารหญิงสูงวัย 59 ปี อ้างแอบชอบมานาน
สืบนครบาล ไล่ตามจับ "แบงค์ ปากช่อง" กว่า 20 วัน ก่อเหตุบุกห้องหญิงสูงวัย 59 ปี หวังชิงทรัพย์ สุดท้ายเปลี่ยนใจบังคับอนาจาร อ้างแอบชอบมานาน
สืบนครบาลจับกุมนายสุรพงษ์ (สงวนนามสกุล) หรือแบงค์ ชาวนครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีข่มขื่นหญิงสูงวัย 59 ปี นานกว่า 2 ชั่วโมง คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 67 หญิงผู้เสียหายนอนหลับอยู่ในห้องพักของแมนชั่นแห่งหนึ่ง ย่านศรีนครินทร์
จู่ๆเกิดอาการหายใจไม่ออก เมื่อได้สติตื่นขึ้นก็พบว่า ตนเองถูกคนร้ายกำลังใช้หมอนกดลงบนหน้าอยู่ แรงขืนไม่สามารถต้านทานน้ำหนักตัวคนร้ายที่ทับร่างเธออยู่ ทำได้เพียงพยายามส่งเสียงอู้อี้ที่คงไม่มีใครได้ยินจนเธอใกล้สิ้นแรง คนร้ายข่มขู่เธอ “อย่าร้องนะ......เงินอยู่ไหน” เธอพยายามส่งเสียงผ่านหมอนว่า “ยอมแล้ว” พร้อมกับบอกตำแหน่งของทรัพย์สิน
คนร้ายเริ่มคลายแรงลงและเอาหมอนออกจากใบหน้าผู้เสียหาย เหตุการณ์เหมือนจะจบลง แต่กลับเลวร้ายกว่าเดิม เมื่อคนร้ายไม่มีท่าทีสนใจทรัพย์สิน แต่กลับคว้าผ้ามามัดปิดตาผู้เสียหายไว้ แล้วชักมีดคัดเตอร์มาจี้คอบังคับ ก่อนจะลงมือขืนใจโดยใช้มีดคัดเตอร์กดจี้ที่หน้าท้องอยู่ตลอดเวลา และบอกว่า “ผมชอบป้ามานานแล้ว” จากนั้นอุ้มเข้าห้องน้ำผู้เสียหายอาศัยจังหวะนั้นรวบรวมสติสุดท้ายใช้จังหวะคนร้ายเผลอวิ่งหนีออกมาจากห้องอย่างสุดชีวิต
คนร้ายวิ่งไล่ตามออกมาจากห้องพักอย่างกระชั้นชิด ก่อนที่คนร้ายใช้มือคว้าแขนไว้ได้ แต่ผู้เสียหายสลัดหลุดมาได้ เพราะน้ำมันมะพร้าวที่คนร้ายทา ก่อนจะวิ่งกรีดร้องลงจากแมนชั่นไปขอความช่วยเหลือ
จากนั้น ร.ต.ท.หญิงณัฐพร พุ่มกระจ่าง รอง สว.(สอบสวน) สน.พระโขนง เดินทางมาถึงและเข้าไปตรวจสอบในห้องพักที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายดันลืมกระเป๋าเอกสารและบัตรประจำตัวทิ้งไว้ในห้อง จึงส่งหลักฐานออกหมายจับคนร้ายรายนี้ได้ในทันที ซึ่งก็คือ นายสุรพงษ์ หรือแบงค์
โดยแผนประทุษกรรมของคนร้ายรายนี้อุกอาจ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบนครบาลเร่งติดตามไล่ล่าในทันที กว่า 20 วันที่ชุดสืบสวนไล่ล่าติดตามคนร้ายที่หลบหนีอย่างสุดชีวิตไปในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ , จ.นครนายก , จ.นครราชสีมา อาศัยนอนริมป่าข้างทางเพื่อหลบเจ้าหน้าที่ จนท้ายสุดชุดสืบสวนได้สืบทราบว่า คนร้ายได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านพักติดภูเขาในพื้นที่ อ.ป่าโมง จ.นครราชสีมา
ซึ่งสารวัตรแจ๊ะได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปกว่า 10 นาย บุกเข้าไปจับตัว แต่ก็ได้พลาดท่าเมื่อคนร้ายได้ยินเสียงรถยนต์มาแต่ไกล ไหวตัวแอบหลบมุดออกทางรูลวดหนามไปก่อนเพียงไม่กี่วินาที ก่อนจะหลบหนีเข้าไปในป่าหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างฉิวเฉียด และหลบหนีเข้ามาเร่ร่อนในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ
ต่อมาชุดสืบสวนได้รับเบาะแสจากเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.พระโขนง ว่า พบชายต้องสงสัยตำหนิรูปพรรณคล้ายกับคนร้ายนอนอยู่บริเวณใต้สะพานกลับรถตรงข้ามห้างซีคอนแควร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ จ.กรุงเทพฯ ชุดสืบสวนจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบและพบว่า เป็นคนร้าย จึงสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ในที่สุด หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ดำเนินคดีต่อไป
ในชั้นจับกุม นายสุรพงษ์ หรือแบงค์ ให้การภาคเสธ ให้การว่า ตนเองเป็นโรคร้ายคงจะมีอายุอยู่ได้ไม่เกิน 5 ปี จึงหลบหนีอย่างสุดชีวิต โดยในวันที่เจ้าหน้าที่ไปจับกุมตนเองได้ใช้ประสบการณ์ที่เคยหนีเจ้าหน้าที่จากวงไพ่ โดยใช้หลักการไม่วิ่งหนี แต่มุดแอบอยู่ใกล้ๆเจ้าหน้าที่ โดยยอมรับว่าตนไม่ได้เล่นของหรือไสยศาสตร์ใดๆเป็นประสบการณ์ล้วนๆ ส่วนในทางคดียืนยันว่าตนเองไม่เคยก่อเหตุข่มขืนคนสูงอายุมาก่อน แต่ในคดีนี้ยอมรับว่าได้เข้าไปทางห้องร้างข้างห้องผู้เสียหาย ก่อนจะแอบเข้าไปทางประตูหลังห้อง จากนั้นจึงลงมือกระทำไป แต่ไม่สามารถสอดใส่อวัยวะเพศได้ เพราะได้ทำการดัดแปลงอวัยวะเพศมา จึงอนาจารจนสำเร็จความใคร่ ส่วนมีดที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นของผู้เสียหายไม่ใช่ของตนเอง
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า เป็นอุทธาหรณ์เตือนภัยหญิงสาวทุกท่านที่พักอาศัยอยู่คนเดียวเพียงลำพัง โปรดเพิ่มความระมัดระวังในการเข้า - ออก รวมถึงการล็อคประตูและหน้าต่างภายในห้อง เพราะเราไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าจะมีคนร้ายประเภทนี้ ติดตามสะกดรอยจนทราบที่พักอาศัยของท่านเมื่อใด เพราะแผนประทุษกรรมของคนร้ายรายนี้ ถือได้ว่าเป็นภัยต่อสังคมโดยเฉพาะหญิงสาวอย่างร้ายแรง หากประชาชนท่านใด พบหรือทราบว่ามีบุคคลที่มีพฤติกรรมในลักษณะเช่นนี้ โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ สืบนครบาล IDMB
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายได้กระทำโดยใช้อาวุธ , กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายเป็นการกระทำโดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศของบุคคลนั้น ได้กระทำโดยใช้อาวุธ , ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยผ่านสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยมีอาวุธ , บุกรุก โดยมีอาวุธ ในเวลากลางคืน”
และพบประวัติเคยถูกดำเนินคดีอาญา 3 คดีดังนี้
1.วันที่ 9 ก.ค. 55 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ลักทรัพย์” พื้นที่ สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง
2.วันที่ 18 เม.ย. 58 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ยักยอกทรัพย์” พื้นที่ สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง
3.วันที่ 12 ก.ค. 60 ถูกดำเนินคดีข้อหา “เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษฯ” พื้นที่ สภ.หมูสี จ.นครราชสีมา



