10 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีหนุ่มแว่นก่อเหตุพกปืนชิงสร้อยคอทองคำ 2 เส้น เส้นละ 2 บาท รวมน้ำหนัก 4 บาท มูลค่า 160,000 บาท กลางร้านทองในยูดีทาวน์ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังข้างสถานีรถไฟ ทราบชื่อต่อมาคือนายประพันธ์ (สงวนนามสกุล) หรือ โย อายุ 45 ปี ชาว อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
โดยตำรวจตามไปจับกุมได้ที่ห้องเช่าใน จ.ขอนแก่น หลังติดตามตัวได้จากกล้องวงจรปิด โดยเจ้าตัวสารภาพ อดีตเคยเป็นเชฟมือดีที่ต่างประเทศ กลับมาบ้านช่วงโควิดไม่มีงานทำ คิดไม่ตกจึงก่อเหตุดังกล่าว โดยมีคลิปขณะ ตำรวจเข้าจับกุมนายประพันธ์ในห้องพักที่ จ.ขอนแก่น เมื่อเจ้าตัวเจอ ตร. เข้าจับกุมมีอาการสีหน้าซีด
เจ้าหน้าที่อ่านหมายศาลฯ และเข้าจับกุม เจ้าตัวยอมรับที่ทำไปเพราะหมดหนทางแล้ว หลังก่อเหตุได้วิ่งหนีหลบหนีข้ามทางรถไฟ แว่นตาที่ใส่ก็หล่น รวมทั้งสร้อยคอทองคำอีก 1 เส้นด้วย คาดว่าจะหล่นบริเวณทางรถไฟ
ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุทำไป เพราะชีวิตสุดๆ แล้ว อยากหาเงินเอาไว้ใช้จ่ายในครอบครัวประคองชีวิตไปเท่านั้น หลังจับกุมตัวได้ ตร.ชุดสืบสวนภาค 4 จึงคุมตัวนายโยมายัง สภ. เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ชิงทรัพย์ในกลางคืน”
ล่าสุด เวลา 20.30 น. ตร.ชุดสืบสวนภาค 4 ได้คุมตัวนายประพันธ์ หรือ นายโย เดินทางมาถึง สภ.เมืองอุดรธานี รีบพาเข้าพบกับ พ.ต.ท.นิวัฒน์ กุลศรี รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อสอบปากคำทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ฯ คุมตัวนายโย ลงจากรถ นายโย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ตัดสินใจก่อเหตุเหตุเพราะตนไม่มีเงิน ไม่คิดวางแผนอะไรมาก่อน หาเงินเอาไว้ใช้จ่ายเพื่อประคองชีวิตครอบครัว
ตอนแรกนั่งรถตู้ตั้งใจมายืมเงินเพื่อน แต่คิดว่าเพื่อนคงลำบากเหมือนกัน เลยเปลี่ยนใจชิงเอาทอง หวังจะมีเงินต่อชีวิต และครอบครัวไปสักระยะ แต่สุดท้ายก็ถูกจับกุม สำหรับผม แต่ก่อนตัวทำงานเป็นเชฟที่ต่างประเทศ จากนั้นก็เดินทางกลับมาประเทศไทยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เพราะพิษโควิด-19 ไม่มีงานทำ คิดหนักมาตลอด ห่วงแต่ภรรยาลูกชาย
สำหรับทองอีกเส้นหนึ่งที่หายไปนั้น ตนก็ไม่รู้ว่าระหว่างทางหลบหนีนั้น วิ่งข้ามทางรถไฟน่าจะหล่นแถวนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลอะไรไหมหลังถูกจับ นายโยบอกว่า กังวลมากกังวลว่าเรื่องลูก ห่วงเขามาก แต่ที่ทำไป ยอมรับทำไปเพราะชีวิตสุดๆ แล้ว อยากขอโทษสังคม ขอโทษร้านทอง เจ้าตัวพูดไปน้ำตาไหลสะอื้นร้องไห้ใช้ผ้าปิดใบหน้าตลอดเวลา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง