9 ส.ค.2567 เวลา 13.00 น. ที่ บก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา นางบี (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี เดินทางไปพบ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามคดีที่ลูกสาววัย 5 ขวบ ของบางบี ถูกนายฮิม (นามสมมุติ) ตาเขย อายุ 72 ปี ล่วงละเมิดทางเพศและถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ
ล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ ได้รายงานว่า หลังนางปวีณาประสานมา ได้ทำการสอบปากคำเด็กร่วมกับสหวิชาชีพและรวบรวมพยานหลักฐาน จนออกหมายจับนายฮิม (นามสมมุติ) ตาเขย ที่ก่อเหตุและทำการจับกุมตัวได้แล้ววันนี้
สืบเนื่องจากวันที่ 2 ส.ค.2567 นางบี อายุ 46 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณา ผ่านทางโทรฯ สายด่วน 1134 แจ้งว่า ทุกวันพ่อแม่ออกไปทำงานลูกก็จะอยู่กับญาติพี่น้องและบางครั้งแม่ก็ฝากลูกไว้กับน้องสาวยายและตาเขย
จนวันหนึ่งช่วงต้นเดือนก.ค.2567ที่ผ่านมา เอาโทรศัพท์มือถือมาไล่ดูเพราะจะเปลี่ยนเครื่องใหม่และเอาเครื่องเก่าไว้ให้ลูกเล่น ในคลังภาพพบว่ามีคลิปวิดีโอลูกสาว 2 คลิป ถูกบันทึกไว้เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2567 เป็นคลิปขณะที่นายฮิม ตาเขย ตั้งกล้องถ่ายขณะกำลังเล่นกับลูก ในลักษณะอนาจาร แม่รับไม่ได้ ไม่คิดว่านายฮิมจะทำแบบนี้ จึงเล่าให้สามีฟังแ ล้วตัดสินใจเข้าแจ้งความที่สภ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะติดต่อมายังมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยติดตามคดี
จากการสอบปากคำ เด็กหญิงให้การชัดเจนตามคลิปหลักฐาน และบอกอีกว่า "ตาเขยทำหนูแล้วให้เงิน 20 บาทไปซื้อขนม"
โดยในวันนี้ นางปวีณา ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.โชติวัฒน์ ว่าพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับนายฮิม ตาเขย ในข้อหา กระทำอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี พร้อมทำการจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ขณะนี้อยู่ระหว่างแจ้งข้อหา และทำการสอบสวนก่อนจะคุมตัวไปฝากขังศาลในวันที่ 10 ส.ค.2567นี้
นางปวีณา จึงได้พาสองแม่ลูกเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมรับรองเอกสารผู้เสียหายทางคดี โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะประสานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ครอบครัวผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยาผู้เสียหายทางคดี
นางปวีณา กล่าวขอบคุณ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ และทีมงาน ที่ทำงานช่วยเหลือดูแลบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชนและจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ขอฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่าน หลายคนอาจต้องทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรจะปล่อยลูกให้ห่างไกลสายตา หรืออาจจะต้องคอยสังเกตความผิดปกติของลูก เพราะเด็กๆ ที่ถูกกระทำจะกลัวจนไม่กล้าบอกใคร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง