
ลูกนายก อบต. ค้ายาเสพติด หารายได้เสริม
ลูกนายก อบต. ถังแตก เงินไม่พอใช้ หันมาขายยาเสพติดหารายได้เสริม สุดท้ายโดนรวบคาห้องพัก พร้อมของกลางจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ไล่ล่าจับกุมกระทั่งรถยนต์เสียหลักพุ่งลงข้างถนนพระราม 2 กม.78+200 เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ได้ ตรวจค้นในรถพบ ยาบ้า ซุกซ่อนในกระดาษไขเป็นมัด รวม 4 มัด มัดละ 2,000 เม็ด รวม 8,000 เม็ด จึงนำตัวมาสอบสวน ที่ สภ.ยี่สาร
สอบสวนเบื้องต้นนายชัยรัตน์ รับสารภาพว่า เคยติดคุกคดีค้ายาไอซ์ เมื่อ 6 ปีก่อน ที่ สภ.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และออกจากคุกมาเมื่อ 2 ปีก่อน มาทำงานรับจ้างส่งน้ำแข็งได้เงินเดือนๆละ 12,000 บาท แต่เงินไม่พอใช้ในครอบครัว เนื่องจากแม่ขายอาหารตามสั่ง พ่อรับจ้างขับรถส่งหมู เมื่อ 3 เดือนก่อนจึงตัดสินใจหันมาค้ายาบ้า แบบลับๆกลัวพ่อกับแม่รู้ มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท ล่าสุดรับมา 8,000 เม็ด จากคนใน ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ. ราชบุรี เพื่อนำจำหน่ายให้วัยรุ่นในพื้นที่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ชุดสืบสวน สภ.ยี่สาร ได้รับแจ้งจากฝ่ายปกครองว่ามีบุคคลต่างพื้นที่ 2 คน เข้ามาอยู่ในห้องพักไม่มีเลขที่ ม.2 ต.แพรกหนามแดง อ.เมือง จ. สมุทรสงคราม ท่าทางมีพิรุธ และในช่วงกลางคืนมักมีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามามั่วสุมเป็นประจำ จึงได้ร่วมกับฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าว พบนายสมพงษ์ อายุ 41 ปี พร้อมนางสาวฑิติยา 31 ปี พบ ยาบ้า 2,191 เม็ด และยาไอซ์ 3.5 กรัม ปืนขนาด .38 ไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก กระสุนปืน 12 นัด ซุกซ่อนในรถกระบะอีซูซุสีดำ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ยี่สาร
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสมพงษ์ เป็น ลูกนายก อบต. คนหนึ่ง ในจ. ราชบุรี แต่รายได้ไม่เพียงพอจึงหันมาขาย ยาบ้า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา นายสมพงษ์ จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์ ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย , โดยกระทำเพื่อการค้า และ มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนางสาวฑิติยา แจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป