ข่าว

ตาสุดช้ำ ไว้ใจให้ช่างซ่อมกดเงินให้ สูญเงินกว่า 40,000 บาท

ตาสุดช้ำ ไว้ใจให้ช่างซ่อมกดเงินให้ สูญเงินกว่า 40,000 บาท

11 ก.ค. 2567

ตาวัย 95 ปีสุดช้ำ ไว้ใจให้ช่างซ่อมกดเงินค่าจ้าง 3,000 บาท เช็กดูอีกทีสูญเงินกว่า 40,000 บาท วอนติดตามตัวมาลงโทษ

11 ก.ค. 2567 เวลา 11.00 น. ที่สภ.เมืองนนทบุรี นายปราโมทย์ (สงวนนามสกุล) ตาอายุ 95 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี ว่า ตนได้ว่าจ้างนายเจษฎา (สงวนนามสกุล) หรือ เจ อายุ 33 ปี ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นช่างที่ใช้บริการมานานกว่า 7 ปี

ตาสุดช้ำ ไว้ใจให้ช่างซ่อมกดเงินให้ สูญเงินกว่า 40,000 บาท

ให้มาซ่อมเครื่องซักผ้า และตู้น้ำหยอดเหรียญ หน้าห้องเช่าของตน ซอยวัดเขมาภิรตาราม ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา ก่อนจะถูกนายเจ ช่างซ่อมรายนี้แอบกดเงินจากบัตรเอทีเอ็มเกินค่าจ้าง

ตาปราโมทย์ เล่าว่า หลังจากนายเจเข้ามาซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเสร็จแล้ว ได้เรียกค่าซ่อมเป็นเงิน 3,000 บาท ตนได้ให้บัตรเอทีเอ็มกับนายเจ ไปกดเงินออกมาเพื่อจ่ายค่าจ้างเหมือนที่เคยใช้เป็นประจำ ซึ่งทุกครั้งหลังกดเงินเสร็จ นายเจจะนำบัตรเอทีเอ็มมาคืนให้ตามปกติ เหมือนที่เคยทำทุกครั้ง ซึ่งตนก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร

ตาสุดช้ำ ไว้ใจให้ช่างซ่อมกดเงินให้ สูญเงินกว่า 40,000 บาท

 

จนมาวันที่ 5 ก.ค. 2567 ตนได้นำเงินรายได้จากค่าเช่าห้องไปเข้าบัญชี พอตรวจสอบยอดเงินพบว่า ในวันที่ 29 มิ.ย. 2567 นายเจได้กดเอาเงินค่าจ้างไป 3,000 บาท แล้วยังกดเอาเงินไปอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 40,000 บาท พอทราบเรื่องจึงเดินทางเข้าแจ้งความตำรวจ ให้ช่วยติดตามตัวนายเจษฎา หรือ เจ มาดำเนินคดี

ตาสุดช้ำ ไว้ใจให้ช่างซ่อมกดเงินให้ สูญเงินกว่า 40,000 บาท

 

ในเบื้องต้น ตำรวจได้โทรศัพท์ติดต่อนายเจษฎา ช่างซ่อม แต่ปรากฏว่าได้ปิดโทรศัพท์มือถือ ไม่สามารถติดต่อได้ ทางตำรวจได้รับแจ้งความแล้วไว้ พร้อมประสานกับทางธนาคาร ที่นายเจษฎา นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน และจะออกหมายเรียกนายเจษฎา มาสอบปากคำว่า มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่?