
แม่ "ว่าที่ร้อยโทสุเทพ" ใจสลาย เผยคำพูดสุดท้ายก่อนลูกดับ
แม่ ว่าที่ร้อยโทสุเทพ" เหยื่อคนร้ายชิงทองใจสลาย เล่าคำพูดสุดท้ายก่อนลูกชายดับ เผยลูกชายรักครอบครัวมาก ออกจากบ้านจะกอดแม่ทุกครั้ง
9 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับ ยายแสง (สววนนามสกุล) อายุ 80 ปี แม่ของ ว่าที่ร้อยโท สุเทพ (สงวนนามสกุล) ผู้เสียชีวิต ซึ่งเล่าว่า ลูกชายเป็นคนดีมาก ดูแลตนกับป้าอีกคนที่ป่วยติดเตียง ครั้งสุดท้ายที่ลูกชายออกจากบ้านไป ก็ไม่ได้มีลางบอกเหตุอะไร ทุกครั้งที่ลูกชายจะออกไปทำงานหรือไปที่ไหน ก็จะกอดและบอกรักตนทุกครั้ง
ซึ่งตนก็จะบอกลูกชายเสมอว่า ไม่ต้องขับรถเร็วค่อยๆ ขับ ลูกชายเป็นคนที่รักตนและครอบครัวมาก มักจะแสดงความรักด้วยการกอดอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ตอนไหน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตำรวจมาหาตนสองครั้ง ในครั้งแรก คือลูกชายตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการชิงทอง ตนก็สวนกลับตำรวจไปว่าลูกชายเป็นคนดีไม่ก่อเหตุแบบนี้แน่นอน อย่ามาพูดเล่นกับยายแบบนี้ ยายทำใจไม่ได้ และยืนยันว่าลูกชายไม่ทำแน่นอน เป็นไปไม่ได้
ตำรวจมาหาครั้งที่สองมาบอกว่าลูกชายไม่ได้ทำ เอาเลือดมาให้ตนดูและก็ได้เก็บเยื่อยุกระพุงแก้มไปตรวจสอบว่าใช้ลูกชายยายหรือเปล่า ตนก็ได้ย้ำกับตำรวจว่า ถ้าเป็นลูกชายยายจริง อย่าพึ่งโทรบอกตน เพราะทำใจไม่ได้ หากถามว่าตอนนี้ทำใจได้หรือยัง ตนขอตอบว่าไม่ได้ ก็ต้องได้ เพราะว่าเหตุมันเกิดไปแล้ว
ตนก็ได้แต่คิดว่าบุญของลูกชายมาได้แค่นี้ ลูกชายอยู่กับตนมา 48 ปี ตนก็ภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้มาก ยายแสง แม่ของผู้เสียชีวิตเปิดเผยอีกว่า เมื่อก่อนนี้ลูกชายทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า อยู่ที่จังหวัดระยอง และได้มีครอบครัว แต่ได้เลิกกันแล้วมีลูก 1 คน และได้กลับมาอยู่กับแม่ได้ 4-5 ปี และได้ทำเกี่ยวกับคอร์สสอนออกกำลังกาย และยังได้รับตำแหน่ง อสม.ดีเด่นด้วย
ซึ่งได้ทำอาชีพไรเดอร์ ได้ประมาณปีกว่า ๆ เป็นรายได้เสริม หลังจากพูดคุยเสร็จ ก็ได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูบริเวณบ้าน ที่นอนของผู้เสียชีวิตก็ยังไม่ได้เก็บ ยังอยู่ที่เดิม และได้พาไปดูรูปถ่าย ที่ถ่ายคู่กับลูกชายไว้ในสมัยอดีต และได้เอารางวัล อสม. ดีเด่น มาให้ดู พร้อมกับบอกว่ารู้สึกภูมิใจกับลูกชายคนนี้เป็นอย่างมาก
หลังจากนี้หากคนร้ายจะมาขอขมาหรือขอโทษ แล้วจะให้อภัยหรือไม่ ตนยังตอบไม่ได้เพราะต้องพูดคุยกับครอบครัวอีกครั้งนึงก่อน แต่ก็อยากให้คนร้ายได้รับโทษถึงขั้นประหารชีวิต