"ชนินทร์" ปัดฉ้อโกง STARK ส่วนขนเงิน 8 พันล้าน ซุกต่างประเทศไม่เป็นความจริง
"ชนินทร์" ปัดฉ้อโกง STARK ส่วนขนเงิน 8 พันล้าน ซุกต่างประเทศไม่เป็นความจริง ยันไม่ได้ถูกจับกุม แต่ต้องการกลับมาสู้คดี
นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และนายแพทย์ ชัยวัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดี DSI ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนาย "นายชนินทร์ เย็นสุดใจ" อดีตผู้บริหารบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาในคดีทุจริต "หุ้น STARK" หลังหลบหนีคดีอยู่ที่ เมือดูไบ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์
โดยนายจักรพงษ์ บอกว่า เรื่องดังกล่าว ทาง "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับกรณีนี้เป็นอย่างมาก ได้ให้ตนเองติดตามตั้งแต่ตนเองดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในขณะนั้น ดำเนินการในทางลับมาโดยตลอด ซึ่งคดี "หุ้น STARK" สร้างความเสียหายและผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยทั้งรายเล็ก และรายใหญ่ ซึ่งถือว่าคดีนี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ
สำหรับการติดตามตัวตัว ตั้งแต่ นายชนินทร์ หลบหนีออำไป ใช้เวลา 8 เดือน ในการติดตาม ตั้งแต่หาตัวว่าหลบไปประเทศไทย จากเมื่อทราบว่าอยู่ที่ ดูไบ ก็ได้ประสานกับราชการทางดูไบทันที จนกระทั่งมีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้
จากการคุยเบื้องต้น นายชนินทร์ มีการร้องขอความเป็นธรรม กังวลเรื่องความปลอดภัย บอกว่าตอนอยู่ที่ดูไบ โดนคุกคาม และเมื่ออยู่ที่ดูไบนายชนินทร์ใช้ชีวิตแบบนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง
ด้านพันตำรวจตรี ยุทธนา บอกว่าขั้นตอนหลังจากนี้ จะคุมตัวนายชนินทร์ไปสอบปากคำที่ ตึกดีเอสไอ แจ้งข้อหา แจ้งสิทธิต่างๆ และจะส่งตัวให้อัยการพรุ่งนี้ช่วงบ่ายเพื่อส่งฟ้องศาล ซึ่งดีเอสไอได้คัดค้านการประกันตัว
ด้านนายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความของ นายชนินทร์ เผยกับสื่อมวลชนว่า ความจริงแล้วนายชนินทร์ไม่ได้อยากหลบหนี ตั้งใจอยากจะกลับบ้าน และยืนยันว่านายชนินทร์ไม่ได้ทำความผิดอะไร ส่วนที่มีข่าวบอกว่า มีการขนเงิน 8 พันล้านไปต่างประเทศนั้น ไม่เป็นความจริง ไม่รู้ข่าวออกไปได้ยังไง
ส่วนที่เดินทางกลับครั้งนี้ ก็เพราะอยากจะกลับบ้านจึงประสานกลับมาสู้คดี ไม่ใช่การจับกุม เพราะที่ดูไบ มีนักโทษหนีคดีจำนวนมาก ถ้าจะจับทำไมไม่จับคดีอื่นด้วย เพราะคดีที่นายชนินทร์โดนมีอีกหลายคน ที่มีพฤติกรรมแบบเดียวกัน แต่ทำไมถึงไม่โดนหมายจับ ไม่โดนฟ้อง ส่วนตัวนายชนินทร์ไม่ได้กังวลอะไร พูดคุยปกติ คุยกันล่าสุดยังบอกว่า เจอกันเมืองไทย เดี๋ยวก็ได้กลับแล้ว
นอกจากนี้ นายเรืองศักดิ์ ยังบอกอีกว่า ก่อนที่นายชนินทร์จะหนีออกไปต่างประเทศ ทางครัวครอบของนายชนินทร์บอกกับตนเองว่า นายชนินทร์โดนคุกคาม อยู่ไทยไม่ได้แล้ว จึงจะหนี ซึ่งตนมาทราบทีหลัง ถ้าทราบก่อนก็จะบอกว่าอย่าหนีเลย ควรสู้คดี แต่ครอบครัวกลัวเรื่องความปลอดภัย เมื่อถามว่าใครคุกคาม ตนเองก็ไม่ทราบว่าใคร นายชนินทร์ไม่ได้บอก ซึ่งการคุกคามคนอื่นที่โดนคดีก็โดนเช่นกัน หลังจากที่หนีตนก็ไม่ได้คุย นายชนินทร์ไม่ได้ใช้มือถืออีกเลย
ตนยังทราบว่า นายชนินทร์ ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมให้กับดีเอสไอ และอัยการชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมด ทั้งเส้นทางการเงิน และข้อมูลต่างๆแต่ทางดีเอสไอและอัยการบอกตนกลับมาว่า จะรับเรื่องไว้เฉยๆ แต่ไม่รับพิจารณา เพราะตัวผู้ต้องหาไม่ได้มายื่นด้วยตัวเอง ทั้งนี้ทนายได้ตั้งคำถามทิ้งท้ายว่าทำไมบุคคลที่มีพฤติกรรมเดียวกับนายชนินทร์ กลับไม่ถูกตั้งข้อหา หรือ ถูกออกหมายจับเลย
ส่วนหลีกทรัพย์ประกันตัว ยอมรับว่ากะทันหัน ยังไม่ได้เตรียม แต่ก็จะปฏิบัติตามกฎระเบียบทุกอย่าง หากศาลไม่ประกันก็จะยอมรับสภาพ ซึ่งตนเชื่อถึงความยุติธรรมของศาล แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้ประกันไหม เพราะคนอื่นที่โดนคดีก็ไม่ได้ประกันเหมือนกัน