ข่าว

"บิ๊กเต่า"  เค้นสอบปากคำ "ไต้ก๋งเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน" ล่องหนทั้ง 3 ลำ

"บิ๊กเต่า" เค้นสอบปากคำ "ไต้ก๋งเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน" ล่องหนทั้ง 3 ลำ

18 มิ.ย. 2567

"บิ๊กเต่า" เค้นสอบปากคำ "ไต้ก๋งเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน" ล่องหนทั้ง 3 ลำ ยังปากแข็งปัดเชื่อมโยง "โจ้" ส่วนการจับกุมเรือน้ำมันเถื่อน ยืนยันจับกุมโดยชอบ ตาม พ.ร.บ.เพิ่มอำนาจป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางน้ำ 2496

 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว (บิ๊กเต่า) รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา เพื่อสอบปากคำนายสมชาย ทำหน้าที่เป็นไต้ก๋งเรือกำไรเงิน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ (บิ๊กเต่า) เปิดเผยว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นคนเแรกมาสอบปากคำ และเป็น 1 ใน 8 ผู้ต้องหา ในคดีลูกเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำ ที่ยึดคืนกลับมา มาสอบปากคำก่อนเป็นคนแรก


เบื้องต้นผู้ต้องหาไม่ให้การใดๆ เกี่ยวกับเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง และขณะนำตัวเข้าห้องสอบปากคำก็ไม่ได้พูดอะไรกับสื่อมวลชนที่รอทำข่าว ทั้งยังมีท่าทีค่อนข้างตึงเครียด และหลังสอบปากคำเสร็จสิ้น ทราบว่าผู้ต้องหาไม่ยอมให้การใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนคดีในคดีเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง


สำหรับขั้นตอนในคดีเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง ทันทีที่สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดแล้วเสร็จ จะนำข้อมูลมาประชุมร่วมกันเพื่อเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้งหมด รวมทั้งพิจารณาออกหมายจับผู้สั่งการ ซึ่งจากการสืบสวนในทางลับ พบความเคลื่อนไหวของตัวนายโจ้ ปัตตานี อยู่ที่บ่อนการพนันฝั่งประเทศไทยเพื่อนบ้าน

กลุ่มผู้ต้องหาคดีลูกเรือน้ำมันเถื่อนของกลางล่องหนปริศนา

บช.ก.ตรวจสอบน้ำมันเถื่อนกลางทะเล



และจากกรณีประเด็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับการเข้าจับกุมเรือน้ำมันเถื่อนทั้ง 5 ลำ ของตำรวจ บก.รน. หรือตำรวจน้ำ ตำรวจกองปราบ และ ตำรวจ บก.ปอศ. เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา ว่าเป็นการจับกุมชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากสถานที่จับกุมเรือน้ำมันเถื่อนทั้ง 5 ลำดังกล่าวอยู่นอกเหนือน่านน้ำไทย ตามที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น 
 

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการยืนยัน จากนายตำรวจระดับสูงที่มีความชำนาญด้านข้อกฎหมาย ว่าการจับกุมเรือน้ำมันเถื่อนเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น เป็นการจับกุมโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยอาศัยอำนาจหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.เพิ่มอำนาจป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางน้ำ 2496 ที่ สามารถเข้าตรวจสอบเรือต้องสงสัยกระทำผิดได้ แม้ว่าเรือดังกล่าวจะลอยลำอยู่กลางทะเลในพื้นที่น่านน้ำ เขตเศรษฐกิจจำเพาะ (Exclusive Economic Zones) ก็ตาม
 

เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนกลางทะเลล่องหน



และขณะนี้ เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ ที่ถูกขโมยท่าเรือสัตหีบ หลังจากเข้าเทียบท่าเรือตำรวจน้ำสงขลาแล้วเมื่อคืนที่่ผ่านมา  ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ขึ้นเรือเพื่อเก็บหลักฐาน โดยแบ่งเป็น หลักฐานทางเคมีฟิสิกส์ จำพวกการดัดแปลงสภาพเรือ การเคลื่อนย้ายน้ำมัน การดัดแปลงสภาพเครื่องยนต์ และหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสภาพเรือ
 

ขณะที่งานทางนิติวิทยาศาสตร์ มุ่งเน้นลายนิ้วมือ และ DNA ของผู้ต้องหาทั้ง 8 คนรวมถึงบุคคลที่อาจจะขึ้นเรือ หรืออยู่บนเรือ ระหว่างการหลบหนีไป ซึ่งจะต้องระบุตัวบุคคลให้ได้ว่า มีใครอยู่บนเรืออีกหรือไม่ นอกจาก 8 คนที่สามารถควบคุมตัวได้แล้ว ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 8 คนเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ ของกลางเอาไว้ก่อน และเรือทั้ง 3 ลำจะถูกจอดอยู่ที่ท่าเรือตำรวจน้ำสงขลา เนื่องจากการเคลื่อนย้ายไปที่ท่าเรือสัตหีบนั้น ต้องใช้เวลาและ เสี่ยงต่อเรือ ที่ได้รับความเสียหาย