
สังเวย 2 ศพ ผัวง้อไม่สำเร็จรัดคอเมียดับคาบ้าน ก่อนลาโลกตาม
สังเวย 2 ศพ ผัวง้อไม่สำเร็จรัดคอเมียดับคาบ้าน ก่อนลาโลกตาม ลูกสาวเผยพ่อเคยขู่ฆ่าหลายครั้ง ล่าสุดพบพิรุธปมเชือกมัดมือผัว
12 มิ.ย. 2567 เวลา 10.00 น. ตำรวจรับแจ้งเหตุ พบผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่ บ้านคำน้ำเย็น ต.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผกก.สภ.พังโคน มอบหมายให้ พ.ต.ต.สุพัฒนชัย นภาสกุล พนักงานสอบสวน สภ.พังโคน ออกตรวจสอบ พร้อมด้วย จนท.พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร และสมาคมกู้ภัยสว่างพังโคน
เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณภายในบ้าน ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ พบร่างของผู้ชาย และผู้หญิงเป็นสามีภรรยากัน จำนวน 2 ศพ โดยศพแรกเป็นหญิง ชื่อ ละอองดาว สงวนนามสกุล อายุ 47 ปี ภรรยา รูปร่างท้วม สวมเสื้อสีฟ้ากางเกงสีส้มขาสั้น สภาพลิ้นจุกปากมือข้างขวาวางอยู่บนอก หงายหน้า นอนเสียชีวิตอยู่ใต้ศพของผู้ชาย
ทราบชื่อต่อมา ชื่อ นายสมบัติ สงวนนามสกุล อายุ 52 ปี สามี สวมเสื้อสีเทา กางเกงขาสั้นสีดำ เสียชีวิตโดยการใช้เชือก ลาโลกลงมาจากคานบ้าน จากลักษณะการเสียชีวิตของทั้งคู่ คาดว่านายสมบัติสามี น่าจะแอบเข้าไปก่อเหตุภายในบ้าน ขณะที่นางละอองดาว นอนอยู่ในบ้านคนเดียว โดยการใช้เชือกเป็นอาวุธไปรัดที่คอของนางละอองดาวกระทั่งเสียชีวิต
ต่อมานายสมบัติก็ใช้เชือกก่อเหตุสลด เพื่อหนีความผิดและเสียชีวิตตาม จนท. ได้ทำการนำร่างของทั้งคู่ มาตรวจร่างกายเพื่อชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นบนร่างกายไม่พบบาดแผล ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต เกิดจากขาดอากาศหายใจทั้งคู่ ขณะที่ปมในการก่อเหตุคาดว่าน่าจะน่าจะเป็นการของ้อขอคืนดี แล้วภรรยาไม่ยอมดีด้วย จึงก่อเหตุลักษณะนี้
อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่เกิดขึ้น ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของทั้งคู่ จนท. จึงส่งมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ขณะที่ นางแอม ลูกสาว กล่าวว่า พ่อกับแม่ได้เลิกรากัน ปัจจุบันแยกบ้านกันอยู่ ซึ่งแม่อยู่กับครอบครัวตนที่บ้าน โดยมีตน-สามี แม่ และลูกอยู่ด้วยกัน
ส่วนพ่อแยกอยู่อีกหลั งซึ่งติดกัน เมื่อเช้ามืดเวลาประมาณ 04.00 น. แม่ได้เดินออกมาส่งตนไปทำงาน ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็น ต่อมาช่วงเช้าพอลูกของตนตื่นปรากฏว่าไม่เห็นยาย จึงโทรศัพท์ติดต่อมาหาตน ตนจึงถามกลับไปว่าตาอยู่ที่ไหน? ลูกก็ตอบกลับไปว่า ตาก็ไม่เห็นเหมือนกัน ตนจึงรีบออกจากที่ทำงานและกลับบ้านทันที
พอมาถึงบ้านเมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องของแม่ ถึงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อพบร่างของแม่และพ่อเสียชีวิตไปแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบ นางแอม ยังกล่าวต่ออีกว่า ภายหลังจากพ่อและแม่ได้เลิกรากัน พ่อนั้นมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ขู่ฆ่าแม่และล่าสุดบอกว่าต่อไปมึงจะไม่ได้เลี้ยงหลานนะ
คนในครอบครัวก็รู้สึกหวาดผวากับคำข่มขู่ จึงพยายามป้องกันโดยการปิดล็อกบ้านอย่างแน่นหนา และได้ติดกล้องวงจรปิดไว้รอบบ้าน ซึ่งโชคไม่ดี ก่อนหน้านี้เกิดฟ้าผ่าจึงทำให้กล้องวงจรปิดไม่สามารถใช้งานได้ทั้งหมด อีกทั้งยังมาเกิดเหตุสลดกับครอบครัวขึ้นแบบนี้อีก
ขณะที่ นายเจียม พี่ชายนายสมบัติ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อวานน้องชายออกไปหาเห็ดจึงให้ตนมาเฝ้าบ้าน ต่อมาเวลา 23.00 น. ตนรอไม่ไหวจึงกลับบ้านไปก่อน แต่ที่ตนแปลกใจคือก่อนน้องชายออกไปหาเห็ด มาขอเงินตนแล้วพูดเชิงสั่งเสียว่า ที่นายังไม่ได้ไถหว่านให้ทำแทนเลยนะ คงไม่ได้ทำต่อไปจะคอยเฝ้าดูแต่เมีย จึงรู้สึกแปลกใจ
ภายหลังจากน้องชายได้เลิกรากับเมีย ก็มีความพยายามง้อขอคืนดีอยู่ตลอด จนกระทั่งเคยนำขันธ์ 5 มาขอคืนดีกับภรรยาก็มี ขณะเดียวกันในช่วงเวลาหนึ่งปีมานี้ น้องชายมีอาการซึมเศร้า เคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกญาติช่วยไว้ทัน ครั้งที่สองกินยาพิษแต่ญาติก็นำส่งโรงพยาบาลทัน มาครั้งนี้ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุและเสียชีวิตทั้งผัวและเมีย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบภาพถ่ายในที่เกิดเหตุ พบว่ามีภาพถ่าย นายนายสมบัติ สงวนนามสกุล ผู้เสียชีวิต สามีของ นางละอองดาว ปรากฎว่านายสมบัตินั้น อยู่ในลักษณะมัดมือไพล่หลัง ด้วยเชือกไนล่อน ในภาพจะเห็นได้ว่าปมที่มัดข้อมือนั้นมัดไม่แน่นหนาลักษณะหลวม จึงทำให้มีข้อสงสัยในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผกก.สภ.พังโคน ได้ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นนั้น เราตั้งปมเป็นสามีฆ่าภรรยาไว้ก่อน และเมื่อเกิดเหตุลักษณะการเสียชีวิตผิดปกติของสามีที่มีมือไพล่หลังนั้น ทางตำรวจเองยังไม่ทิ้งข้อสงสัยทั้งหมด โดย พฐ.จว.สกลนคร ได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุโดยละเอียด เพื่อคลายข้อสงสัยที่เกิดขึ้น โดยการเก็บหลักฐานที่เชือกใช้ก่อเหตุ และเชือกที่ไพล่หลังไปตรวจหาว่ามีคนอื่นมาเกี่ยวข้องหรือไม่
รวมทั้งเก็บหลักฐานของคนในครอบครัวด้วย แต่หากประเมินจากแรงจูงใจ ความเป็นไปได้มากที่สุดคือน่าจะไม่มีบุคคลภายนอก เพราะสามีเองนั้นขู่จะทำร้ายร่างกายภรรยาให้ถึงแก่ชีวิต และตัวสามีเองก็พยายามลาโลก ถึง 2 ครั้ง ก่อนจะมาเกิดเหตุครั้งนี้
และเป็นไปได้ที่ผู้ก่อเหตุจะมัดมือตัวเองแล้วเอาขาก้าวรอดหว่างแขนเอามือไปไว้ด้านหลังเพื่อป้องกันการช่วยเหลือตัวเอง แล้วปีนตู้เสื้อผ้าใกล้ๆ ขึ้นไปจบชีวิต อย่างไรก็ตามแม้กล้องวงจรปิดรอบบ้านหลายตัวจะชำรุด แต่ จนท. สืบสวนจะไปขอมาตรวจสอบว่า จะกู้ข้อมูลได้หรือไม่ และรอผลตรวจจาก พฐ. โดยละเอียดว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพื่อยืนยันว่าเหตุการณ์ การเสียชีวิตของทั้ง 2 สามีภรรยานี้ ไม่มีบุคคลอื่นมาเกี่ยวข้อง.