ญาติคาใจ ตั้ง 2 ปมสงสัย หลังแม่ดับสลดในซาวน่า ไม่มีใครเห็นกว่า 5-6 ชั่วโมง ทนายตอบชัดฟิตเนสมีความผิดอย่างไร ต้องรับผิดชอบหรือไม่?
11 มิ.ย.2567 เวลา 13.00 น. ที่ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี นางสาววรางคณา สงวนนามสกุล อายุ 43 ปี (ลูกสะใภ้) พร้อมด้วยญาติ ได้เดินทางมารับศพ นางธันชนก สงวนนามสกุล ที่เสียชีวิตภายในห้องอบซาวน่าของฟิตเนสแบรนด์ดัง ของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ต.บางตลาด อ.ปากเกล็ด จ.นนทบุรี
ทางด้าน นางสาววรางคณา กล่าวว่า คุณแม่เป็นลูกค้าประจำของฟิตเนสแห่งนี้มาหลายปี ปกติคุณแม่จะไปใช้บริการตั้งแต่ 07.00 น. ถึง ประมาณ 14.00 น. แต่ครั้งนี้คือไม่ได้เล่นฟิตเนสตลอดหลายชั่วโมงตรงนี้ เพราะว่าแม่เขามีสังคม มีเพื่อนที่นั่น คือเล่นไปด้วย คุยกับไปเพื่อนด้วย ตามประสาชีวิตวัยเกษียณ
โดยวันเกิดเหตุ แม่ไปตั้งแต่ประมาณ 7 โมงเช้า โดยทางฟิตเนสโทรแจ้งญาติทราบอีกครั้ง ก็ประมาณ 6 โมงเย็น ซึ่งวันนั้นตนเองไม่ทราบว่า แม่มีเพื่อนไปด้วยหรือไหม? เบื้องต้นคุณแม่เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-10 ชั่วโมง กว่าจะมีคนไปเห็น
ตนสงสัยว่า หากเกิดเหตุอย่างนี้ ความปลอดภัยของผู้ใช้บริการของฟิตเนสอยู่ตรงไหน ประเด็นที่สองคือเครื่องตัดอุณหภูมิในห้องสตรีม ใช้งานได้หรือเปล่า? เพราะจากการตรวจสอบเมื่อวานเบื้องต้นคือมันร้อนมาก โดยพี่ยังไม่ได้ตามข่าวนะ ซึ่งมีคนแจ้งว่าสำนักข่าวบางสำนักให้ข้อมูลไปว่าเป็นความประมาทของผู้เสียชีวิต
ตนอยากฝากไปถึงสำนักข่าวที่ให้ข่าวว่า อย่าพึ่งสรุปนะคะ เพราะยังไม่ทราบเลยว่ามันเป็นแบบนั้นจริงหรือ ซึ่งวันนี้มารับศพ จะนำศพไปที่วัดผาสุข ย่านเมืองทองธานี ทั้งนี้ลูกสะใภ้เผยว่า คุณแม่เป็นคนแข็งแรง ออกกำลังกาย และทานอาหารคลีนอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งภายในห้องอบซาวน่าห้องที่คุณแม่ใช้ เป็นห้องที่มีคนสามารถเดินเข้าออกได้ ซึ่งมีประตูแต่ว่าไม่ได้ล็อกโดยลักษณะห้องเป็นห้องประตูกระจก แต่ในห้องมันมีควัน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะมองเข้าไปเห็นหรือเปล่า ซึ่งสถานที่แห่งนี้ก็น่าจะมีคนใช้บริการเยอะนะ
เกี่ยวกับเรื่องข้อกฏหมาย และความรับผิดชอบ ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เปิดเผยว่า จากข่าวที่หญิงสูงวัยเสียชีวิตคาห้องอบซาวน่า ในฟิตเนสแห่งหนึ่ง ถามว่าใครจะต้องรับผิดชอบ แล้วก็ต้องรับผิดชอบอย่างไรบ้าง? ต้องบอกว่าผู้ที่ให้บริการซาวน่า หรือว่าฟิตเนสมีหน้าที่สอดส่องดูแล และรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ที่มาใช้บริการ
ไม่ให้ถูกตู้อบจนสุกหรือจนไหม้จนเกิดความเสียหายหรือเกิดการเสียชีวิต ถ้าถามว่าจะผิดในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่ ก็คงไม่หรอก เพราะว่าเขาเปิดให้บริการในเรื่องของซาวน่า คงไม่มีเจตนาที่จะไปฆ่าคนตาย
แต่ว่าการปล่อยปละละเลยไม่ดูแลลูกค้าให้ดี จนปล่อยให้ลูกค้าไปใช้บริการซาวน่าแล้วอบจนสุกแล้วเสียชีวิต ตรงนี้ถือเป็นความประมาทของผู้ที่ให้บริการ เข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ในเรื่องของประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมีโทษจำคุกสูงสุดจำคุก 10 ปี ปรับ 200,000 บาท ในส่วนแพ่งแน่นอนทางผู้ให้บริการฟิตเนสหรือซาวน่า จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับญาติผู้เสียชีวิต
ทนายรัชพล กล่าวอีกว่า เพราะฉะนั้นตรงนี้การให้บริการซาวน่าฟิตเนสหรือสระว่ายน้ำอะไรก็ตาม เขาต้องมีการ์ดคอยดูแล เพราะฉะนั้นถ้าใครเปิดบริการลักษณะแบบนี้ จะต้องคอยดูแลสอดส่องลูกค้าให้ดี ไม่ให้เกิดอันตรายแก่กายหรือว่าจิตใจหรือว่าจนเสียชีวิต ไม่งั้นจะเข้าข่ายในเรื่องความผิดตามกฎหมาย และต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับญาติเขาด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง