"อดีตภารโรง" หัวร้อน เผยถึงสาเหตุ "ยิงถล่ม" เพื่อนหลาน 5 นัด ดับ 1

10 มิ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2567 เวลา 21.00 น. ร.ต.อ.ชัชวิน ศรีแก้วหล่อ รองสว.สอบสวน สภ.เมือง หนองบัวลำภู รับแจ้งเหตุ ยิงกันตาย ในบ้านพักหลังหนึ่ง ที่บ้านข่าดอนเข็ม ต.หัวนา อ.เมือง จ. หนองบัวลำภู จึงพร้อม ฝ่ายสืบสวน สภ.เมือง หนองบัวลำภู สืบจังหวัด หนองบัวลำภู เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน  และ แพทย์ รพ. หนองบัวลำภู

 

ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านชั้นเดียว ทราบชื่อ ผู้เสียชีวิต  นายเขียว (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ชาว จ. หนองบัวลำภู

 

โดยตำรวจได้ควบคุมตัว นายบัวเรียน (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี อดีตภารโรง โรงเรียนแห่งหนึ่ง ผู้ก่อเหตุ ที่รอมอบตัวอยู่ พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม. เอาไว้

 

โดย นายบัวเรียน ก่อเหตุ ยิง ใส่ ห้องหลานชาย  ขณะที่ นายแดง (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี หลานชายและ เพื่อนหลานชาย อยู่ในห้อง 4-5 คน โดยหนึ่งในนั้นมีเด็กผู้หญิงอยู่ด้วย จนเป็นเหตุให้ นายเขียว เพื่อนหลานชาย เสียชีวิต หลังเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นที่มั่วสุมอยู่พากันวิ่งหลบหนีไป

สอบสวน นายบัวเรียน รับว่า ใช้อาวุธปืน ยิง เข้าไปใน ห้องหลานชาย 5 นัด เนื่องจากพาเพื่อนมามั่วสุมดื่มน้ำกระท่อมส่งเสียงเอะอะ และเปิดเพลงเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านแทบทุกวัน ต่อมาทราบว่า เพื่อนหลานชาย เสียชีวิต 1 คน

 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบรอยกระสุนปืนที่ฝาผนังห้อง ยิงทะลุเข้าไป 5 รู แต่ไม่พบหัวกระสุน คาดว่าน่าจะทะลุหน้าต่างออกไป

 

นางทองเรียบ ภรรยานายบัวเรียน กล่าวว่า นายแดง หลานชาย มักพาเพื่อนมามั่วสุมเป็นประจำทุกวัน สร้างความรำคาญให้กับตนและสามีอย่างมาก วันนี้นายแดง พาเพื่อนมามั่วสุมอยู่ในบ้านหลังเล็ก แล้วปิดประตู ห้องไม่ให้ใครเข้าไปรบกวน เปิดเพลงเสียงดังสนั่น เคาะประตูเรียกก็ไม่เปิด

 

เวลา 20.00 น นายบัวเรียน สามีกลับมาจากไปทำงานให้ ผอ.คนหนึ่ง ในเขต ต.ป่าไม้งาม จึงบอกให้ไปเรียก หลานชาย เพื่อห้ามปราม และให้แยกย้ายกัน จากนั้นนายบัวเรียน มีอาการหงุดหงิด เดินไป เคาะประตูเรียก หลานชาย หลายครั้งก็ไม่เปิด จึงตะโกนว่า “ไม่เปิดจะยิงเข้าไป” แต่ก็ยังไม่เปิดประตู

 

ด้วยความโมโหสุดขีด นายบัวเรียน เดินมาหยิบปืนของลูกชาย ตนตกใจมากพยายามห้ามว่าอย่าทำ แค่สั่งสอนก็พอ แต่ไม่กล้าเข้าไปขวาง เพราะกลัว จากนั้นเห็นนายบัวเรียน ผลักประตูชั้นนอกเข้าไป แล้วกระหน่ำยิง จนหมดแมกกาซีน ประมาณ 5 นัด ก่อนเดินกลับมาบ้านอีกหลังในบริเวณเดียวกัน ตนตกใจมาก มารู้ภายหลังว่า กระสุนปืนถูกเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่อยู่ในห้อง จึงรีบโทรแจ้งศูนย์กู้ชีพ 1669 ส่วน

 

หลังเกิดเหตุ มีชาวบ้านมามุงดูจำนวนมาก รวมถึงญาติของนายเขียว ผู้เสียชีวิต ส่งเสียงโวยวาย และประณามการก่อเหตุของนายบัวเรียน จนเจ้าหน้าที่ต้องมาเจรจา จนยอมสงบลง

 

ต่อมา ที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมือง หนองบัวลำภู นายบัวเรียน ให้การว่า อาวุธปืนเป็นของลูกชายที่เป็นทหาร ตอนแรกที่ยิงหวังจะขู่เท่านั้น โดยไม่เห็นตัวคนอยู่ในห้อง เนื่องจากประตูปิดมิดชิด

 

สาเหตุที่หงุดหงิด เนื่องจากเสียใจและผิดหวังกับหลานชาย ที่ทำตัวไม่เหมาะสม ประพฤติตนเกเรไม่ไปเรียน ทั้งๆที่ตกลงกันแล้วว่าจะไปเรียนวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จังหวัดขอนแก่น จ่ายเงินค่าหนังสือ ค่าเทอม ค่าใช้จ่ายต่างๆ หมดแล้ว แต่ถึงเวลาก็ยังไม่ไปเรียน จนอาจารย์ที่วิทยาลัยโทรมาตามเมื่อวานนี้ ตนกล่อมว่าไปเข้าเรียนสักปีก่อนค่อยย้ายกลับมาแล้วตาจะซี้อ รถจยย.รุ่น PCX ตามที่หลานอยากได้ แต่ไม่ยอมไปเรียน

 

สำหรับ หลานชาย พ่อแม่แยกทางกัน แม่ไปทำงาน ที่ประเทศเกาหลี จึงทำหน้าที่เลี้ยงดูหลานแทนแม่ เบื้องต้นตำรวจ แจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา

 

ช่วงสาย วันนี้ ที่สภ.เมือง หนองบัวลำภู น.ส.ปรียานุช อายุ 32 ปี แม่ของนายเขียว เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ชัชวิน ศรีแก้วหล่อ ร้อยเวร เจ้าของคดี โดยแจ้งว่า ขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของผู้ต้องหา ที่มีญาติเป็นทนายและมีลูกชายเป็นทหาร เกรงว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม

 

น.ส.ปรียานุช เล่าว่า นายเขียว เป็นลูกชายคนเดียว เมื่อตนเลิกกับพ่อของนายเขียว ตนก็ไปทำงานที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ ลูกชายอยู่กับตนที่กรุงเทพฯ เพิ่งกลับมาบ้านเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา แล้วได้พบรักกับเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ในหมู่บ้านใกล้กัน จึงไม่กลับกรุงเทพฯ ตนเห็นว่าห้ามไม่ได้ จึงตัดสินใจไปสู่ขอ หมั้นหมายกัน และ ตกลงจะให้แต่งงานกัน

 

ปัจจุบันลูกชายมักจะไปนอนค้างที่บ้านแฟนสาว พบทราบเหตุตนตกใจแทบช็อก รีบเดินทางกลับมา ทั้งนี้ญาติของตนที่ไปดูที่เกิดเหตุ และเกิดกระทบกระทั่งกับญาติฝ่ายผู้ต้องหา เล่าว่า ญาติฝ่ายผู้ต้องหาบางคน มีปากเสียงกัน และพูดขึ้นมาลอยๆว่า อยากตายอีกศพเหรอ ตนรู้สึกกังวล เกรงว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม เนื่องจากฝ่ายผู้ต้องหา เป็นนักภารโรงเก่า รู้จักกับ ข้าราชการจำนวนมาก มีลูกชายเป็นทหารและมีญาติเป็นทนายความ จึงขอคัดค้านการประกันตัว

 

ขณะที่ร้อยเวรแจ้งว่า ขอให้ญาติผู้ต้องหาไปยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาที่ศาล เมื่อตำรวจส่งตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง ตนรู้สึกสบายใจขึ้