ข่าว

ประวัติ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" จาก นักเลงเมืองพัทลุง สู่ นักโทษหนีคดีค่าหัวแรง

ย้อนประวัติ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" จาก เจ้าของอู่ซ่อมรถ นักเลงดังเมืองพัทลุง สู่ นักโทษหนีคดี ค่าหัวหลักล้าน ก่อนถูกจับกุมที่ อินโดนีเซีย

"เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ได้รายงานผ่านแพลตฟอร์ม X ล่าสุด "เสี่ยแป้ง นาโหนด" ได้ถูกจับกุมตัวแล้ว ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่ง "เสี่ยแป้ง" ถือเป็นนักโทษที่มีค่าหัวหลักล้าน มีคดีติดตัวมากมาย และได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2566 "ได้รับรายงานจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า "แป้ง นาโหนด" นักโทษหนีคดี ถูกจับกุมตัวแล้ว โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานความร่วมมือกับทางการอินโดนีเซียครับ"

 

"เสี่ยแป้ง นาโหนด" หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง เป็นชาว ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง เป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถชื่อดังและเป็นที่รู้จักกว้างขวาง  ก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองท้องถิ่น โดยลงสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง เมื่อปี 2562 แต่ก็สอบตก 

 

 

เส้นทางนักเลง ก่อคดีนับไม่ถ้วน

 

"เสี่ยแป้ง นาโหนด" เริ่มก่อคดีมาตั้งแต่ปี 2550 อุ้มฆ่าตำรวจ นปพ.สงขลา เหตุเกิดพื้นที่ ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง ต่อมาได้ก่อคดีอย่างต่อเนื่องทั้งที่เป็นคดีและไม่เป็นคดี โดยลงมือเองและให้ลูกน้องลงมือ

 

ในส่วนของรายได้หลักของ "เสี่ยแป้ง" ได้มาจากการทวงเงินจากธุรกิจผิดกฎหมาย อุ้มนักค้ายาเสพติดเรียกค่าไถ่ โดยเป็นที่รู้กันว่าทีมงานในการลงมือนั้นมักจะมีเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะตำรวจ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

 

ช่วง ปี 2562 ถือเป็นช่วงที่มีการก่อเหตุมากที่สุดในพื้นที่จังหวัดพัทลุง เช่น คดีเหตุยิงกันบริเวณด้านหน้าสำนักงาน ธกส.ท่ามิหรำ โดยมีทีมงานลูกน้องคนสนิทจำนวน 3 คน เป็นคนก่อเหตุใช้รถยนต์กระบะยิงคู่อริอย่างอุกอาจ เหตุการณ์ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด โดยศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต

 

จากเหตุการณ์นั้นทำให้ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" เก็บตัวเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะสร้างทีมงานใหม่ โดยมีคนวงในเผยว่ามีความสนิทสนมกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่ จ.พัทลุง เนื่องจากมีข้อมูลระบุว่า "เสี่ยแป้ง" มีญาติเป็นถึงนายตำรวจระดับผู้กำกับการในพื้นที่ อีกทั้งยังพบว่ามีความสนิทสนมและให้การดูแลนักการเมืองดังสงขลาขาใหญ่ธุรกิจสีเทา ซึ่งในสมัยนั้นแทบไม่มีใครกล้าแตะ

 

 

เสี่ยแป้ง นาโหนด

 

ก่อเหตุปล้นชิงตัวผู้ต้องหา
 

ด้วยอำนาจและอิทธิพลทำให้ "เสี่ยแป้ง" ถึงขั้นก่อเหตุปล้นชิงตัวผู้ต้องหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 8 และก่อคดีพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงพัทลุง ในขณะที่หน้าฉาก "เสี่ยแป้ง" พยายามสร้างภาพที่ดี พาตัวเองเข้าสู่เส้นทางการเมืองท้องถิ่น โดยมีแรงสนับสนุนจากนักการเมืองใหญ่เป็นทุน ทำให้ช่วงนั้นมักจะเห็น "เสี่ยแป้ง" ออกพบปะชาวบ้าน มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ยากไร้ผู้ป่วยติดเตียง ในพื้นที่ ต.ท่าแค และ ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง

 

แต่ฝันก็ไปไม่ถึง เมื่อ "เสี่ยแป้ง" ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวและส่งเข้าไปอยู่ในเรือนจำพัทลุง เป็นเวลา 20 ปี 6 เดือน เริ่มจองจำตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. 2565 โดยตลอดระยะเวลาที่อยู่ในเรือนจำ เสี่ยแป้ง ก็ยังมีอิทธิพล เนื่องจากมีลูกน้องหลายคนอยู่ในเรือนจำด้วย

 

 

ยกพวกทำร้ายนักโทษในเรือนจำ

 

ครั้งหนึ่งพบว่ามีการยกพวกทำร้าย นักโทษ ในเรือนจำที่เป็นคู่อริคนสำคัญ "ฉุย รักษ์จันทร์" ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงตำรวจกองปราบเสียชีวิต จนทางเรือนจำต้องแยกเรือนจำ โดย "เสี่ยแป้ง" ถูกนำไปฝากขังไว้ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช

 

 

เสี่ยแป้ง นาโหนด

 

 

หนีออกจากโรงพยาบาล

 

ในระยะหลัง "เสี่ยแป้ง นาโหนด" มักจะอ้างว่าป่วย จนต้องออกมารักษาตัวหลายครั้ง และที่สำคัญมีข้อมูลยืนยันว่าใน ช่วงที่มีการรักษาตัวก่อนหน้านี้ มักจะมีเพื่อนฝูงและทีมงานแวะไปเยี่ยมอยู่เสมอ กระทั่ง เสี่ยแป้ง ตัดสินใจหนีออกมาจากโรงพยาบาลวันที่ 22 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลเชิงลึกที่พบว่าในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนี้ พบเบาะแสว่ามีอดีตนักการเมืองพัทลุงคนหนึ่ง พร้อมด้วยตำรวจสังกัด สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี และเพื่อน ให้การช่วยเหลือด้วยการเปิดโรงแรมในตัวเมืองนครศรีธรรมราชให้

 

เสี่ยแป้ง นาโหนด

 

 

ถูกจับกุมตัวที่ อินโดนีเซีย

 

ภายหลังที่ เสี่ยแป้ง หนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ได้ทำการหลบหนีขึ้นบนเทือกเขาบรรทัด โดยทางการได้มีการตั้งค่าหัวนำจับในราคาหลักล้าน โดย "เสี่ยแป้ง" ได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ ที่ตามรอยเข้าไปเพื่อไล่ล่าจับกุม จนเกิดกระแสข่าวว่ามีการวิสามัญ ก่อนที่จะมีคลิปวิดีโอออกมายืนยันว่ายังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีการคาดการณ์ว่า เสี่ยแป้ง ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งน่าจะอยู่ใที่ระเทศอินโดนีเซีย

 

จนกระทั่งล่าสุดได้มีรายงานว่า "เสี่ยแป้ง นาโหนด" ถูกจับกุมตัวได้ที่ ประเทศอินโดนีเซีย โดยทางการได้ประสานความร่วมมือเพื่อนำตัวกลับไทย

 

 

ข่าวยอดนิยม