ข่าว

ตำรวจพบหลักฐานความเชื่อมโยง “ผู้จ้างวาน“ เสี่ยต้น

รองผบช.น. ชี้คดีลอบยิง “เสี่ยต้น” และการเสียชีวิตปริศนาเชื่อมโยงหลักฐาน ”ผู้จ้างวาน“ เร่งหาหลักฐานรวบยกแก๊ง

กรณีน้องสาวของนายพิชิต กลีบจินดา หรือต้น อายุ 44 ปี  เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย เข้าร้องเรียนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หลังสงสัยว่าพี่ชายที่เสียชีวิตเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาจถูกฆาตกรรม นอกจากนี้ยังพบว่า เสี่ยต้น ถูกคนร้ายประกบยิง พื้นที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนไปเสียชีวิตปริศนาที่บ้านพักใน จ.มหาสารคาม

 

 

พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. ได้เรียกประชุมทีมสืบสวนคลี่คลายคดีเสี่ยต้น ทั้งตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีในทั้ง 2 พื้นที่ เบื้องต้นทั้ง 2 คดี ตำรวจได้มีการสอบปากคำพยานไปแล้ว 25 ปาก ทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์กับรูปคดี ซึ่งก็ได้มีการตรวจสอบข้อมูลคำให้การของพยานต่างๆ นำมาวิเคราะห์และพิสูจน์ทราบข้อมูลแล้ว ถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก

ส่วนประเด็นการก่อเหตุที่ตั้งไว้ ยืนยันว่า จากการตรวจสอบไม่พบเรื่องความขัดแย้งทางธุรกิจและไม่พบว่าไปมีเหตุทะเลาะวิวาทกับใครมาก่อน จึงตัด 2 ประเด็นนี้ทิ้งไป เหลือประเด็นความขัดแย้งอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติม แต่จากพยานหลักฐาน มีความชัดเจนว่า คดีลอบยิง ในพื้นที่สน.วังทองหลาง เป็นการใช้มือปืนรับจ้างไปก่อเหตุ และมีผู้จ้างวาน 

 

 

จากภาพวงจรปิดปรากฎภาพ 2 คนร้าย คนหนึ่งเป็นคนขับรถ อีกคนที่นั่งซ้อนมาเป็นมือปืน นอกเหนือจาก 2 คนนี้เป็นกลุ่มผู้ใช้จ้างวาน และจัดเตรียมอาวุธ ในส่วนของ 2 คนร้ายที่ลงมือลอบยิงเสี่ยต้น นั้น พบว่า มีทั้งยังวนเวียนอยู่ในพื้นที่นครบาล และออกนอกพื้นที่ไปแล้ว แต่ตำรวจมีเบาะแสพอสมควรและอยู่ระหว่างจัดกำลังไล่ล่า แต่ก็เชื่อว่าคนร้ายติดตามการทำงานของตำรวจอย่างใกล้ชิดเช่นกัน

จากการประสานข้อมูลกับตำรวจภูธรภาค 4 พบว่า คดีลอบยิงและคดีการเสียชีวิตปริศนาของเสี่ยต้น มีความเชื่อมโยงกัน ทั้งกลุ่มบุคคล เหตุการณ์ และแรงจูงใจ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์และรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดว่าจะไปสู่คดีฆาตกรรมด้วยหรือไม่ ซึ่งการทำงานของตำรวจในคดีนี้ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้รอบคอบและเพียงพอ ก่อนจะขอศาลออกหมายจับ ยืนยันว่าหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงผู้จ้างวาน มีความคืบหน้ามากเช่นกัน

ข่าวยอดนิยม