ข่าว

หนุ่มสุดช้ำ พาแฟนสาวเข้าบ้านได้ 3 ดือน โดนฉกทอง 57 บาท

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หนุ่มปล่อยโฮ พาแฟนสาวเข้าบ้านได้ 3 ดือน โดนฉกทอง 57 บาท ขายเอาเงินโอนให้ญาติเกลี้ยง ตำรวจตามจับได้แต่คดีไม่คืบ งงคำตอบ ผู้ต้องหาไม่พูด ก็ทำอะไรไม่ได้

27 พ.ค. 2567 นายอนุพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ถูกแฟนสาวขโมยทองไป 57 บาท ไม่กี่วันตำรวจจับผู้ต้องหาได้ แต่ไม่พบของกลาง เงินมีการโอนออกไปให้ญาติพี่น้อง ตอนนี้ไม่รู้คดีไปถึงไหนแล้ว  ถามตำรวจได้คำตอบว่า ถามผู้ต้องหาไม่พูด ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ ให้ไปถามที่ศาลเอง ตอนนี้ผู้เสียหายเครียดมาก  ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร

นายอนุพงศ์ เล่าว่า ตนเองเป็นพนักงานบริษัทเอกชน  และครอบครัวทำธุรกิจขนส่ง พอตนมีรายได้ก็จะซื้อทองมาเก็บไว้ รวมกว่า 57 บาท โดยเก็บทองไว้ในลิ้นชักตู้ที่บ้าน ภายในห้องนอน 27 บาท  และอีก 30 บาท เป็นทองคำแท่ง ตนฝากไว้ที่ร้านทองชื่อดังแห่งหนึ่งย่านเยาวราช ที่มีมาตรฐานการป้องกันสูง

กระทั่งเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ตนเองพาแฟนสาวที่คบกันมา 6 ปี เข้ามาอยู่ในบ้าน ด้วยแฟนตนเป็นคนเรียบร้อย ขยันทำงานบ้าน ทางครอบครัวตนเองจึงรักและไว้ใจ ไม่ได้ระแวงอะไร  ต่อมาวันที่ 2 พ.ค. 2567 ตนมีความจำเป็นต้องใช้เงิน จึงนำทองที่เก็บไว้ในตู้ น้ำหนัก 27 บาท ออกไปจำนำ แต่โรงจำนำแจ้งว่าทองทั้งหมดเป็นของปลอม ทำให้ถึงกับช็อก จึงรีบเดินทางกลับมาที่บ้าน แล้วนำเรื่องนี้มาพูดคุยในครอบครัว แต่คนในบ้านก็ไม่มีพิรุธใดๆ

หนุ่มสุดช้ำ พาแฟนสาวเข้าบ้านได้ 3 ดือน โดนฉกทอง 57 บาท

นายอนุพงศ์ เล่าย้อนไปเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2567 แฟนสาวเคยให้คนโอนเงินเข้าบัญชีตน 1,200,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นเงินของพี่สาว พี่สาวเลิกกับสามีแล้วแบ่งมรดกกัน และพี่สาวเอารถแบ็คโฮที่ได้มาจากการแบ่งมรดกไปขาย พี่สาวไม่อยากเอาเงินเข้าบัญชี กลัวสามีรู้ ตนจึงหลงเชื่อโอนเงินให้ไป พอตนโอนเงินให้ไปแล้ว ก็มาดูสลิปคนที่โอนเงินเข้า ปรากฏว่าเป็นบัญชีของร้านทอง ตนถามแฟนไปว่าทำไมเป็นชื่อร้านทองโอนเข้ามา ตอบว่าพี่สาวขายรถแล้วนำเงินไปซื้อทองก่อน จึงให้ร้านทองโอนเข้ามา

จากนั้นตนเริ่มสงสัยแฟนสาวทันที ช่วงตอนกลางคืนจึงแอบเอาโทรศัพท์ของแฟนสาวมาดู พบข้อความในแอป Facebook ถามเพจร้านขายทองปลอมต่างๆ ว่า มีทองลายนี้ไหม พร้อมส่งรูปของตนให้ดู ซึ่งติดต่อไปหลายร้านมาก และมีการนัดหมายเข้าไปดูทองกัน ตนจึงถามแฟนอีกครั้งว่า ได้เอาทองตนไปไหม แต่เธอก็ยืนยันว่าไม่ได้เอาไป และยอมพิสูจน์ตนเองไปที่โรงพัก ตนกับแม่จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สน. ประชาชื่น ตำรวจให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน และถ้ามีคนน่าสงสัยให้มาแจ้งอีกครั้ง

หนุ่มสุดช้ำ พาแฟนสาวเข้าบ้านได้ 3 ดือน โดนฉกทอง 57 บาท

นายอนุพงศ์ กล่าวต่อว่า วันรุ่งขึ้นตนจึงเดินทางไปที่ร้านทองชื่อดังแห่งหนึ่งย่านเยาวราช ที่ฝากทองคำแท่งไว้ 30 บาท ทางร้านแจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2567 มีผู้หญิงที่เคยมาซื้อทองกับตน มาขายทอง 30 บาทที่ฝากไว้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ให้กลับไปทำเอกสารมาใหม่ เพราะเอกสารไม่ครบ

จากนั้นวันที่ 25 เมษายน 2567 ผู้หญิงคนเดิมได้นำบัตรประชาชนตัวจริงของตน, สำเนาใบฝากทอง มีการปลอมลายเซ็นโดยเขียนทับด้วยปากกาสีน้ำเงิน, หนังสือมอบอำนาจ และอ้างว่าตนเกิดอุบัติเหตุนอนอยู่โรงพยาบาล  ไม่สามารถมาขายทองด้วยตนเองได้ ทางโรงจำนำจึงจ่ายเช็คเงินสดเข้าบัญชีตนไป พอตนรู้อย่างนี้ตนถึงกับร้องไห้ทันที

จนแปลกใจว่าตอนมาซื้อของที่นี่ และทำใบฝากท้องไว้ ทางร้านทองระบุมาตรการความปลอดภัยไว้อย่างชัดเจนว่า "ไม่มีใครสามารถมานำทองหรือขายทองที่ฝากไว้ได้ นอกจากเจ้าของเท่านั้น แต่ถ้าเจ้าของตายจะต้องนำใบมรณบัตรมาแสดง ถึงจะได้ทองออกไป" แต่ร้านทองกับให้เงินกับคนอื่นไปง่ายมาก  ช่วงกลางคืนตนจึงเข้าไปแจ้งความเพิ่ม และสอบปากคำเอาผิดกับแฟนตนเองทันที

พอตนเดินทางกลับมาที่บ้านก็ไม่พบแฟนสาวแล้ว มีการขนของออกไปจนหมด จึงโทรศัพท์ไปถาม ได้คำตอบว่าไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้แล้ว ตนจึงบอกไปว่า วันที่ 16 พ.ค. นี้ ให้ไปพบกันที่ สน. ประชาชื่น เพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์  พอถึงวันนัดหมายแฟนสาวได้เดินทางมาตามนัด และตำรวจได้สอบปากคำ โดยแฟนสาวได้ปฏิเสธว่าไม่ได้นำทองไป แต่ตำรวจได้มีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดชัดเจนแล้ว จึงควบคุมตัวแฟนสาว ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา

สิ่งที่ตนอยากรู้ตอนนี้คือ ผู้ต้องหานำทองไปขายที่ร้านไหน เพราะมีเข็มขัดนาคอายุ 100 กว่าปี ที่ได้มาจากบรรพบุรุษ ถูกขโมยไปขายด้วย เข็มขัดเส้นนี้มีมูลค่าทางจิตใจกับครอบครัวตนมาก ตนอยากจะไปซื้อคืน และตนอยากรู้อีกอย่างหนึ่งคือว่า ร้านทองมีส่วนผิดไหม ที่ให้ของคนที่ไม่ใช่เจ้าของไปง่ายดายแบบนี้   และตำรวจจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาหรือไม่ ว่าได้เงินไปแล้วโอนเงินให้ใครบ้าง คนที่ได้รับโอนเงินมีส่วนผิดไหม

หนุ่มสุดช้ำ พาแฟนสาวเข้าบ้านได้ 3 ดือน โดนฉกทอง 57 บาท

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สน.ประชาชื่น เพื่อสอบถามเรื่องคดีความ ได้รับคำตอบจากพนักงานสอบสวนว่า ตอนนี้กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าถูกโอนไปให้ใครบ้าง ที่ทำคดีล่าช้าเพราะต้องรอเอกสารจากธนาคารส่งมา หากพบว่าผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้อง จะดำเนินคดีทุกคน

ส่วนเรื่องว่านำทองไปเก็บไว้ไหน ทางผู้ต้องหาไม่ยอมปริปากพูด อ้างว่าจำไม่ได้อย่างเดียว แต่ยอมรับสารภาพว่าได้นำทอง 30 บาทไปขายจริง แต่อ้างว่าแม่ของแฟนเป็นคนสั่งให้เอาไปขาย แต่ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ คำให้การของผู้ต้องหาแต่อย่างใด  หลังจากนี้จะเรียกผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำเพิ่ม

logoline