หมวยญาติคนสนิท 'เสี่ยต้น' ให้เบาะแสเหตุลอบยิง คนเดียวในภาพวงจรปิด?

น.ส.หมวย ลูกพี่ลูกน้องของนายพิชิต กลีบจินดา หรือ เสี่ยต้น พยานปากสำคัญคดีคนร้ายลอบยิงเสี่ยต้น เมื่อวันที่ 8 เม.ย. เข้าให้ปากคำต่อพ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผู้กำกับ สน.วังทองหลาง โดยมีนางสาวณัฐปภัษร์ ธนภัคนันท์หิรัญ หรือ เจ น้องสาวเสี่ยต้น เดินทางมาด้วย  

 

น.ส.หมวย เล่าว่า หลังจากที่เสี่ยต้นถูกลอบยิงก็มาเล่าให้ฟัง บอกว่า สงสัยบุคคลคนนึง ซึ่งเป็นคนรู้จักและเคยมีปัญหากันมาก่อน เป็นปัญหาส่วนตัวในลักษณะของคนที่ไม่ชอบหน้ากัน แล้วทราบว่าเป็นคนคอยยุแยงให้ครอบครัวเสี่ยต้นแตกแยกด้วย 

 

ผู้สื่อข่าวถามภาพคนร้ายกับชื่อคนที่นายต้นเคยบอกว่าสงสัยใครลอบยิงนั้น คนเดียวกันหรือไม่ น.ส.หมวยตอบว่า บอกตำรวจไปหมดแล้วว่ายังไง ตนไม่เคยเจอ แต่ได้ยินว่านายต้นพูดคนนี้ ตนจึงไปเสริชค้นหาดูว่าคนนี้คือใคร เมื่อถามว่าคล้ายหรือไม่ ก็ขอดูภาพเทียบของตำรวจก่อน เชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานเทียบไว้หมดแล้ว ลักษณะ ท่าที ทรง คล้ายหรือเหมือนกันหรือไม่ 

นอกจากนี้ น.ส.หมวยยังเล่าถึงกรณีเมื่อวานนี้มีผู้ชายปริศนาโทรเข้ามาข่มขู่ตัวเอง พยายามจะสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคดีเสี่ยต้น ถามว่าเป็นใคร แต่ปลายสายไม่ยอมบอก ยังเรียกชื่อเธอ แล้วด่าหยาบคายว่า “ อีควาย ” ตัวเองจึงพยายามถามกลับไปว่า โทรมาทำไม อยากรู้เรื่องอะไร แต่ปลายสายไม่ตอบ ทั้งยังด่าตัวเองอีก ก็จึงได้มีการตอบโต้กัน ก่อนที่อีกฝ่ายจะวางสายไป

 

หลังเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ตัวเองจึงได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.บางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนจะทราบว่าทางตำรวจนครบาลได้มีการแถลงต่อสื่อมวลชน ว่า ถ้าพยานในคดีรู้สึกไม่ปลอดภัย ให้เดินทางเข้ามาพบตำรวจสน.วังทองหลาง ได้ วันนี้จึงพากันเดินทางเข้ามาพบผู้กำกับสน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินการเรื่องขอให้คุ้มครองพยาน

 

น.ส.หมวย เชื่อว่า สายปริศนาที่โทรศัพท์เข้ามาข่มขู่คุกคามตัวเอง นั้น มาจากกรณีที่ออกมาเคลื่อนไหว ค้นหาความจริงเรื่องเหตุลอบยิง และการเสียชีวิตของเสี่ยต้น ซึ่งส่วนตัวก็ยอมรับว่ามีความกังวล กลัวจะเป็นอันตรายกับตัวเอง ครอบครัว และกระทบกับหน้าที่การงาน แต่ก็ยืนยันจะเดินหน้าหาความจริงในคดีของเสี่ยต้นต่อไป เพราะก็ทราบว่า ใครเป็นคนร้ายที่ลอบยิงเสี่ยต้นเป็นใคร และชนวนเหตุมาจากอะไร

ส่วนเหตุการณ์การเสียชีวิตของเสี่ยต้นที่ จ.มหาสารคาม น.ส.หมวย กล่าวว่า ตนเองสนิทกับเสี่ยต้น เมื่อรู้ว่าเค้าจะเดินไป จ.มหาสารคาม ทั้งที่กำลังมีปัญหากับภรรยาอยู่ และพึ่งผ่านเหตุการณ์ถูกลอบยิง ตัวเองจึงได้ถามเสี่ยต้น ว่า ให้ไปเป็นเพื่อนหรือไม่ เพราะเป็นห่วง แต่เสี่ยต้น บอกว่า ไม่เป็นไร เขาไปเองได้

 

จนกระทั่งมาทราบว่าเสี่ยต้นเสียชีวิต ตัวเองก็ได้เดินทางไปที่จังหวัดมหาสารคาม พร้อมครอบครัวและญาติของเสี่ยต้นทันที ถึงช่วงค่ำ แล้วได้มุ่งตรงไปที่สภ.ยางสีสุราช เพื่อขอระงับการเผาศพ และสอบถามรายละเอียดการเสียชีวิต แต่ทางตำรวจแจ้งว่า ทางภรรยารวมถึงครอบครัวของภรรยาเสี่ยต้น ไม่มีใครติดใจสงสัย ซึ่งถ้าหากครอบครัวของเสี่ยต้น ประสงค์ที่จะส่งศพชันสูตร จะต้องดำเนินการเองและออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด จากนั้นตัวเองและญาติๆ จึงกลับไปปรึกษากันที่โรงแรมว่าจะทำอย่างไรต่อไป จนได้ข้อสรุปกันว่าศพของเสี่ยต้น ได้มีการตั้งสวดพระอภิธรรมแล้ว 1 คืน หากวันรุ่งขึ้น จะต้องนำร่างของเสี่ยต้นออกมาจากโลง เพื่อส่งชันสูตร ก็จะเป็นการไม่ให้เกียรติคนตาย และไม่ให้เกียรติภรรยาคนตายด้วย 

 

น.ส.หมวย จึงแนะนำให้หลวงพ่อ กับ แม่ของเสี่ยต้น ไปพูดคุยกับภรรยาเสี่ยต้นเป็นการส่วนตัว เพราะตัวเองเป็นคนนอก ซึ่งวันรุ่งขึ้นหลวงพ่อกับแม่ของเสี่ยต้น ก็ได้ไปพูดคุยกับภรรยาของเสี่ยต้น แล้วหลังจากนั้นแม่ของเสี่ยต้น ก็ได้ไปแจ้งกับทางตำรวจว่าไม่ติดใจสาเหตุการตายของลูกชายแล้ว จึงเป็นที่มาของการที่ไม่ได้ส่งศพชันสูตร

 

น.ส.หมวย บอกว่า ตัวเองติดใจการตายของเสี่ยต้นตั้งแต่แรก เพราะไม่คิดว่าคนอย่างเสี่ยต้น จะดื่มเหล้าจนไหลตายได้ แต่ในทางกลับกันตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะไปดำเนินการอะไรได้ ต้องปล่อยเลยตามเลย

 

ส่วนประเด็นที่คุณมด ภรรยาของเสี่ยต้น ได้แชทมาหา น.ส.หมวย หลังจากโฟนอินในรายการหนึ่ง นั้น มีการแชทมาหาจริง แล้วตอนนั้นก็ได้บอกไปว่า ตัวเองไม่เชื่อว่า มดเป็นคนทำ แล้วก็อยากให้มาช่วยหาความจริงด้วยกัน ว่าใครเป็นคนทำ เพราะนอกเหตุการณ์ลอบยิงนั้น ตัวเสี่ยต้นก็เคยมาบอก ว่า ไม่เชื่อว่าภรรยาเป็นคนทำ แต่สงสัยคนใกล้ชิด

 

นางสาวหมวย บอกว่า ตัวเองเป็นญาติของเสี่ยต้น ที่มีความสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วทางฝั่งของน.ส.มด ก็ให้ความเคารพนับถือ เวลาที่ทั้งคู่มีปัญหากันต่างฝ่ายต่างก็มักจะมาเล่าหรือปรึกษาปัญหาอยู่เสมอ ก่อนหน้านี้น.ส.มดเคยมาเล่าเรื่องที่เสี่ยต้นไปติดพันสาวคาราโอเกะ และเคยพากันมานอนที่บ้าน ย่านพัฒนาการ ซึ่ง น.ส.มด เห็นกับตามาแล้วครั้งนึง โดยหลังเกิดเรื่องตัวเองก็ได้ตักเตือนเสี่ยต้น ว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสมเพราะ บ้านเป็นพื้นที่ของครอบครัวไม่ควรทำแบบนี้ แต่ส่วนตัวก็ไม่ทราบว่า น.ส.มด โกรธแค้นในเรื่องนี้มากขนาดไหน แต่ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน หากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ก็จะรู้สึกโกรธมาก เพราะเป็นเรื่องการ “ หยามศักดิ์ศรี ”

 

ด้าน น.ส.เจ ยอมรับ ขณะนี้สังเกตุเห็นมีกลุ่มบุคคลมาติดตาม ตนและแม่ เช่น เมื่อวานนี้จะพาแม่ไปข้างนอก ระหว่างเรียกรถแท็กซี่ สังเกตุเห็นมี ข้างหลัง 2 คน ข้างหน้า 1 คน สะกิดเรียกกันว่าใช่ตนหรือไม่ ซึ่งได้ขอภาพกล้องวงจรปิดทางคอนโดไปแล้วว่าเป็นคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดหรือเป็นบุคคลนอก 

 

ส่วนที่สงสัยว่า การเสียชีวิตของพี่ชายนั้น เท่าที่คุยกับตำรวจก็สงสัยว่า มีการทำงานกันเป็นทีม เพราะเหมือนมีคนชี้เป้า มีคนปักหลักยิง มีคนนำหน้า ตอนนี้ทางตำรวจก็อยากจับทั้งแก๊งเลย เพื่อหาสาเหตุการก่อเหตุ คิดว่ามีความก้าวหน้าไปมากแล้ว 

 

เมื่อถามว่าคนร้ายทำงานกันเป็นทีม เพื่อมุ่งเป้าชีวิตพี่ชาย รู้สึกอย่างไร น.ส.เจ ตอบว่า ตอนนี้อยากให้กฎหมายพิสูจน์เรื่องนี้จริงๆ ทำงานเป็นทีมเพื่ออะไร หวังผลอะไรจากการยิง และเกี่ยวข้องอะไรจากการที่พี่ชายเสียชีวิตหรือไม่ ขยายผลไปในคดีการเสียชีวิตในพื้นที่ สภ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ตอนนี้ยังไม่ติดต่อมาว่าจะให้เข้าไปเมื่อไร คาดว่าจะรอผลจากทาง สน.วังทองหลาง  

 

ส่วนพี่ชายเคยไปสร้างความโกรธเคืองโกรธแค้นจนคนร้ายก่อเหตุ หรือไม่ จากที่คุยกันกับญาติ เช่น คุณหมวย เราไม่เคยมีการโกรธเคืองอะไรกัน เราคุยกันตามประสาญาติตามปกติ ถึงตนไม่คุยกับนายต้น แต่ตนยังทราบเค้าไปไหน ทำอะไร ซึ่งเค้ามีความขัดแย้งจริง แต่จะกับใครอะไรอย่างไร ต้องให้ตำรวจเป็นคนตอบ และความขัดแย้งดังกล่าวน่าจะมีต่อเนื่องเรื่อยๆสะสม เหมือนเราโกรธใครเรื่องเล็กน้อยบวกกันไปจนสะสมถึงขั้นพี่วันนึงเขาตัดสินใจทำแบบนี้ลงไป

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนฝังแค้นหรือไม่ น.ส.เจ ตอบว่า "ประมาณนั้น"

 

ส่วนระยะเวลาความขัดแย้งเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ไม่สามารถระบุได้ แต่เชื่อเป็นการสะสมขึ้นมา และมีการตัดสินใจ 

 

ส่วนภาพคนร้ายลอบยิง 1 ใน 2 คุ้นใครหรือไม่ น.ส.เจ กล่าวว่า มีส่วน บอกได้แค่นี้ ขอเวลาตำรวจทำงาน เพราะกำลังสืบสวนหาตัวคนร้าย