ข่าว

น้องสาว เผย เห็นหน้าคนร้ายลอบยิง 'เสี่ยต้น' ชัด ข้อมูลใกล้เคียงคนที่สงสัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คืบหน้าคดีลอบยิง 'เสี่ยต้น' น้องสาวเผย เห็นภาพคนร้ายชัด 1 คน ข้อมูตำรวจและญาติ เชื่อมโยงคนที่สงสัย รอตำรวจสรุป ยืนยันออกมาเรียกร้องเพื่อพ่อแม่ ไม่ได้หวังสมบัติ ส่วนแม่เสี่ยต้น ตอนนี้จิตใจย้ำแย่ ขณะที่ลูกจ้าง ยืนยัน 2สามีภรรยาเป็นคนดี รักกันมาก

น.ส.ณัฐปภัษร์ ธนภัคนันท์หิรัญ หรือ เจ น้องสาวของนายพิชิต กลีบจินดา หรือ เสี่ยต้น เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย เดินทางมาที่ สน.วังทองหลาง เพื่อติดต่อขอรับโทรศัพท์มือถือของผู้เป็นแม่คืนจากตำรวจ หลังจากตำรวจได้นำมาดูดข้อมูลการใช้โทรศัพท์ เพื่อไปตรวจสอบหาความเชื่อมโยงทางคดีหลังพบเบาะแสของคนร้าย

 

น.ส.ณัฐปภัษร์ กล่าวว่า ในมือถือของแม่ข้อมูลการโทรเข้าโทรออกหลังเกิดเหตุ โดยพบว่าพี่ชายคือ เสี่ยต้น ได้พูดคุยกับแม่และแม่ก็ไปหาพาไปกินข้าว พาไปรดน้ำมนต์   

ส่วนกรณีเสี่ยต้นถูกยิง ได้โทรไปหานายเต้ ซึ่งเป็นน้องชาย และเสี่ยต้นบอกกับนายเต้ในประเด็นที่บอกใครไม่ได้นั้น น.ส.ณัฐปภัษร์ กล่าวว่า ตนเองก็ทราบและได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปหมดแล้ว ซึ่งพี่ต้นกับเต้ได้คุยกันทั้งก่อนหน้าถูกยิงและหลังจากถูกยิง ยืนยันว่าการเดินทางไปที่ร้านอาหาร มีการชักชวนกันเกิดขึ้นจริง ส่วนใครชวนใครขอให้ตำรวจเป็นคนสรุป ขณะนี้ก็เริ่มมีหน้าที่ต้องสงสัยมาแล้วหากมีการออกหมายจับก็จะเห็นกันเอง

   

น.ส.ณัฐปภัษร์ ยอมรับว่า ตนเห็นภาพของผู้ต้องสงสัยจากที่ตำรวจให้ดูแล้ว ซึ่งพบว่ามีบุคคลที่หน้าชัด 1 คน ส่วนจะเป็นคนใกล้ตัวหรือไม่ และเป็นคนที่ตนเองหรือพี่ชายรู้จักหรือไม่ ขอให้ตำรวจเป็นคนสรุป  

น.ส.ณัฐปภัษร์ ธนภัคนันท์หิรัญ น้องสาวเสี่ยต้น

เมื่อถามว่า ผู้ต้องสงสัยคนนี้เป็นคนที่เสี่ยต้นเคยเล่าให้นายเต้ฟังหรือไม่ และเป็นคนที่เสี่ยต้นรู้จักหรือไม่นั้น ขอให้ตำรวจเป็นคนดำเนินการ แต่มีแนวโน้มที่ดีและคดีคืบหน้าไปมาก เพราะคำให้การที่ตนเองและญาติๆให้กับตำรวจไป สอดคล้องกับภาพผู้ต้องสงสัย ทำให้ตำรวจจึงมุ่งไปทางนี้

 

เมื่อถามว่าเคยคิดมาก่อนหรือไม่ว่าผู้ต้องสงสัยคนนี้จะเป็นคนก่อเหตุ น.ส.ณัฐปภัษร์ กล่าวว่า มีใกล้เคียง เพราะเรามีการพูดคุยกันหลายคนในกลุ่มญาติว่าน่าจะเป็นคนลักษณะนี้ จึงได้ส่งข้อมูลให้กับตำรวจ ตำรวจจึงได้มาขอดูดข้อมูลจากโทรศัพท์แม่และญาติๆเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง

 

ส่วนผู้ต้องสงสัยเคยเป็นประเด็นต่อกับพี่ชายมาก่อนหรือไม่นั้น น้องสาวเสี่ยต้น ระบุว่า เมื่อดูจากสภาพแวดล้อมและความน่าจะเป็น จึงได้สรุปข้อมูลของญาติๆไปในหลายอย่าง พอมีกล้องวงจรปิด จึงสอดคล้องกับข้อมูลที่ได้คุยกัน ซึ่งตนไม่มีข้อมูลทั้งหมด แต่ญาติคนอื่นๆ มีข้อมูลของผู้ต้องสงสัยและปมความขัดแย้ง แต่ก็ขอให้รอตำรวจสรุปมูลเหตุจูงใจดีกว่า 

 

เมื่อถามว่า เป็นคนนี้กี่เปอร์เซ็นต์ที่เชื่อว่าก่อเหตุ น.ส.ณัฐปภัษร์ กล่าวว่า มีลักษณะใกล้เคียง ส่วนจะเชื่อมโยงกับแชทลับหรือไม่ ตนเองไม่ทราบเพราะตนเองไม่ได้มีข้อมูลทั้งหมด ถ้าเป็นบุคคลนี้มูลเหตุมาจากเรื่องไหนนั้น มูลเหตุก็มาจากหลายอย่าง แต่ทั้งหมดขอให้รอตำรวจเป็นคนสรุป

 

ส่วนคดีการเสียชีวิตที่ สภ.ยางสีสุราช จ.มหาสาคามนั้น น.ส.ณัฐปภัษร์ กล่าวว่า ตำรวจได้นัดตนเองกับหลวงพ่อไปให้ปากคำเพิ่มเติม เป็นข้อมูลทั้งหมดที่มีโดยเฉพาะข้อสงสัยการเสียชีวิต ซึ่งทางนั้นริการจับตัวคนร้ายที่ สน.วังทองหลาง ก่อน เพราะหากจับคนร้ายได้ ก็จะขยายผลได้ง่ายขึ้นด้วย 

 

น.ส.ณัฐปภัษร์ เล่าว่า เมื่อวานนี้ แม่ของตนเองได้ย้ายจากบ้านย่านพัฒนาการไปอยู่คอนโด ยอมรับ แม่สภาพจิตใจแย่มาก หากมีอะไรก็ขอให้ติดต่อผ่านตนเองคนเดียว เพราะหลังจากนี้ต้องมีการขึ้นศาล จึงต้องรักษาตัวให้ดีขึ้น ย้ำว่าสภาพจิตใจของแม่ ตอนนี้แย่มากจากการดูข่าวเพราะโดนโจมตีหนักมาก โดยเฉพาะประเด็นเรื่องหวังเงิน ซึ่งตามกฎหมายตนเองไม่มีสิทธิ์ได้อยู่แล้วแต่ตนเองทำเพื่อพ่อกับแม่ 

 

ส่วนที่ย้ายไปคอนโด เพราะภรรยาของเสี่ยต้นไล่ไปหรือไม่ ก็ขอให้ตำรวจเป็นคนสรุป และให้ตำรวจแจ้งเลยว่าใช่หรือไม่ ตอนนี้ตนเองก็เอาหลานไปฝากญาติแล้ว เพราะหลังมีข่าวก็มีผลกระทบกับการใช้ชีวิตและทำงานลำบากเพราะต้องเดินเรื่องทางคดี

พนักงานของสถาบันสอนสปาและเสริมความงาม

ขณะที่เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ทางพนักงานสอบสวนของ สน.วังทองหลาง ได้เรียก 3 พนักงานของสถาบันสอนสปาและเสริมความงาม ซึ่งเป็นธุรกิจของของเสี่ยต้นและภรรยา ส่วนใหญ่เป็นพนักงานที่ทำงานมากับเสี่ยต้น เกิน 5 ปีแล้ว 

 

น.ส.เอ หนึ่งในพนักงานที่ถูกเรียกมาสอบปากคำ เปิดเผยว่า ตนเองทำงานมานานกว่า 12 ปี ยืนยันว่าตัวของพี่ต้นและคุณมดทั้งสองเป็นคนดีมาก ดูแลพนักงานทุกคนเป็นอย่างดี และมีความเสมอภาค เท่าที่ได้เห็นและสัมผัสทั้งคู่ดูรักกันดีไม่ได้มีปัญหาหรือทะเลาะอะไรกันให้เห็นมาก่อนแต่อย่างใด ทั้ง 2 คน ถือว่ารักกันมานาน สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยกันมาตั้งแต่ไม่มีอะไร ปัญหาชีวิต ปัญหาครอบครัวพนักงานก็ไม่เคยเห็นหรือทราบเลย ส่วนปัญหาอย่างอื่นตัวเองไม่ขอพูดถึงเพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย

 

สำกหรับวันนี้ตำรวจเรียกมาสอบปากคำ ในประเด็นตัวเองทำงานกับเสี่ยต้น มากี่ปีแล้ว การอยู่การกินเป็นยังไงบ้าง 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ