ไขคำตอบ ทำไมสภาพศพ 'CEO' ถึงผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด

วันที่23พ.ค.2567 กรณีการ ตายปริศนา ของ CEO หนุ่มไฟแรง ต้น พิชิต กลีบจินดา เจ้าของธุรกิจสอนนวด ที่บ้านพัก คุณมด ภรรยา ในจ. มหาสารคาม โดยน้องสาวฝ่ายชาย สงสัยสาเหตุการตาย

รวมถึงก่อนหน้านี้ พบว่า เสี่ยต้น เคยถูกคนร้ายลอบยิง แต่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด เหตุเกิดท้องที่ สน.วังทองหลาง กทม.

อย่างไรก็ดีในกรณีการเสียชีวิต น้องของ เสี่ยต้น พบความผิดปกติของ สภาพศพดำคล้ำผิดปกติ ก่อนเผา มือหงิกงอ ตัวดำคล้ำ ซึ่งสัปเหร่อวัด บอกว่าไม่เคยเห็นสภาพศพแบบนี้มาก่อน โดยน้องสาว เสี่ยต้น สงสัยว่าพี่ชายได้รับยาพิษหรือสารพิษ ขณะที่ พ.ต.อ.วัชรินทร์ สัตยาคุณ ผกก.สภ.ยางสีสุราช จ. มหาสารคาม ระบุว่า จะส่งกระดูกไปชันสูตรถึงสาเหตุการตายนั้น

ล่าสุด รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงกรณี สภาพศพดำคล้ำผิดปกติ และ การส่งกระดูกไปชันสูตร ว่า ศพไม่ได้ผ่านการฉีดสารฟอร์มาลีน แต่ใช้วิธีการรักษาศพด้วยการใส่โลงเย็น โดยทั่วไปหากความเย็นของโลงเย็นไม่มีปัญหา ตัวศพจะถูกรักษาสภาพไว้ได้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนใส่โลงเย็น ซึ่งจะไม่เข้าสู่กระบวนการเน่า และสีผิวจะยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

แต่หากเข้าสู่กระบวนการเน่าจริง ด้วยเหตุผลใดก็ตาม เช่น ระบบทำความเย็นของโลงเย็นมีปัญหาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ศพต้องบวมอืด ตาต้องถลน ลิ้นต้องจุกปาก แต่ในรายนี้ไม่พบลักษณะที่กล่าวมาทั้งหมด พบแต่เพียงสีผิวดำคล้ำ

จึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ที่จะต้องสืบค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ว่า มีตัวโรคใด ยาตัวใด หรือสารตัวใด เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้เกิดลักษณะดังกล่าวได้

สำหรับ การตรวจหาสารพิษจากเถ้ากระดูกนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจาก กระบวนการเผาอาจทำลายสารพิษบางชนิด ทำให้ตรวจหาได้ยากขึ้น ขณะที่เถ้ากระดูก ปนเปื้อนจากสิ่งต่างๆในเตาเผา เช่น โลหะหนัก ซึ่งจะส่งผลต่อการตรวจ และปริมาณสารพิษในเถ้ากระดูกด้วย ที่สำคัญการตรวจหาสารพิษจากเถ้ากระดูกไม่สามารถระบุปริมาณและสาเหตุของการเสียชีวิตได้อย่างแน่ชัด ดังนั้นการตรวจหาสารพิษจากเถ้ากระดูก จึงไม่ใช่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ชี้ขาด จำเป็นต้องประกอบกับหลักฐานอื่นๆเพื่อการสืบสวนสอบสวนที่ชัดเจน