สัปเหร่อ เล่าเอง สภาพศพ 'ซีอีโอหนุ่ม' สุดแปลก ไม่เคยเจอมาก่อน

วันที่ 19 พ.ค.2567 กรณีการ ตายปริศนา ของ นายพิชิต กลีบจินดา หรือ ต้น เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย ที่บ้านภรรยาใน จ. มหาสารคาม หลังจากมาหาภรรยาที่บ้านได้ไม่ทันข้ามวัน ต่อมาในวันเผาศพ เมื่อเปิดโลงออกมาพบสภาพศพดำคล้ำ คล้ายถูกวางยา น้องสาว นักธุรกิจหนุ่ม จึงมาร้องเรียน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ให้ช่วยด้านคดี

 

ล่าสุด นายบุญโฮม พรรษา ผู้ใหญ่บ้านโพธิ์ทอง หมู่ 9 ต.ดงเมือง อ.ยางสีสุราช จ. มหาสารคาม กล่าวว่า วันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตเพิ่งเดินทางมาถึงบ้าน มีการดื่มกินสังสรรค์กัน พอรุ่งสางตนก็ออกไปนา เอาวัวไปกินหญ้า ขากลับประมาณ06.00น. พบว่า นายพิชิต ตายแล้ว

ตอนนั้นตกใจ เพราะตอนแรกไม่รู้ว่า นายพิชิต มาบ้าน นั่งเครื่องบินมาลงอุบลราชธานีหรือที่บุรีรัมย์ ซึ่งช่วงนั้นอากาศร้อนมาก ร้อนสุด ๆ หมอสันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง

 

ผู้เสียชีวิต เป็นคนตัวใหญ่ ออกกำลังกาย มีกล้าม ร่างใหญ่ ตอนนั้นอากาศร้อน คนในหมู่บ้านก็ตายกันเยอะ พวกคนเฒ่าคนแก่ คนกินเหล้า ตายเยอะในช่วงสงกรานต์หรือเดือน เม.ย.2567 ที่มีอุณหภูมิสูงถึง 40-43องศา

ผู้เสียชีวิตนอนอยู่ที่เถียงนาน้อยที่ตั้งไว้ข้างบ้าน พอภรรยามาพบศพ ก็เรียกหาพี่น้อง เรียกหาผู้ใหญ่บ้าน และแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมาดู แพทย์มาชันสูตร ชาวบ้านใกล้เคียงก็ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกัน

 

แพทย์ลงความเห็นว่าเส้นเลือดในสมองแตก เลยให้ญาติฌาปนกิจศพได้ตามปกติ

 

น้องสาวคนที่ไปร้องกับทนายเดชา ไม่ได้เดินทางมางานศพ มีแต่น้องชาย แม่ พ่อที่บวชเป็นพระ และญาติมางาน ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ

 

ผู้เสียชีวิตกับภรรยา คบกันมา 15 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 3 คน ตอนนี้ภรรยาผู้เสียชีวิตอยู่กรุงเทพฯ มีธุรกิจส่วนตัวนวดสปา ที่บ้านหลังนี้มีแม่ยายและหลานอยู่

 

ด้านนายแสวง คะกะเนปะ อายุ 73 ปี สัปเหร่อวัดดงเมืองน้อย ต.ดงเมือง อ.ยางสีสุราช กล่าวว่า  เป็นสัปเหร่อมา 4 ปีแล้ว ไม่เคยเจอศพที่มีสภาพแบบนี้ สภาพศพดำ เขียวคล้ำ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ปกติคนตาย 2-3 วัน สภาพศพจะไม่ดำคล้ำแบบนี้ ตอนเปิดโลงมาก็ตกใจ ใบหน้าบวมคล้ำ ทำพิธีขอขมากรรมตามบทสวด จากนั้นก็ล้างหน้าศพ ให้ญาติมาล้างหน้าศพ ก่อนจะราดน้ำมันแล้วนำเข้าเตาเผา

 

เดือนเม.ย.2567 อากาศร้อนมาก ๆ มีคนตายอยู่ แต่สภาพไม่ใช่แบบนี้ ทราบมาว่าคนตายกินเหล้าแล้วเสียชีวิต ถามว่าผิดปกติไหม ก็คิดว่าผิดปกติ เพราะสภาพศพไม่เหมือนศพอื่น ๆ

 

มีคนมาพูดให้ฟังว่า มีการเปลี่ยนโลงเย็น เพราะโลงที่ใช้ตอนแรกไม่เย็น อาจจะทำให้สภาพศพเปลี่ยนแปลงได้ แต่ก็ไม่น่าจะขนาดนี้