ข่าว

นักธุรกิจหนุ่มดับปริศนา เคยถูกลอบยิง

นักธุรกิจหนุ่มดับปริศนา เคยถูกลอบยิง

19 พ.ค. 2567

เปิดข้อมูลวันเกิดเหตุ นักธุรกิจหนุ่มเคยถูกลอบยิง มีคนบุคคลใกล้ชิดโทรนัดมาเจอ ด้าน ผกก.วังทองหลาง ยืนยัน แม้ผู้เสียหายเสียชีวิต ยังทำคดีต่อเนื่อง

จากกรณีน้องสาวของนายพิชิต กลีบจินดา หรือต้น อายุ 44 ปี เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย เข้าร้องเรียนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หลังสงสัยว่าพี่ชายที่เสียชีวิตเมื่อกลางเดือนเมษายน ที่ผ่านมา อาจถูกฆาตกรรม เนื่องจากสภาพศพพี่ชายมีใบหน้าเขียวคล้ำ มือหงิกงอ น้ำตาไหลเป็นสายเลือด และแพทย์ลงความเห็นสาเหตุการตายไม่ชัดเจน ขณะเดียวกันพี่ชายยังเคยถูกลอบยิงในพื้นที่รับผิดชอบ สน.วังทองหลาง และคดีนี้ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้

 

ล่าสุด พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง กล่าวว่า หลังจากนายพิชิต เสียชีวิต ทาง สน.วังทองหลาง จะต้องนำรายละเอียดคดีของพื้นที่ สภ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม มาเป็นข้อมูลประกอบเพื่อหาว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ 

สำหรับคดีพยายามฆ่านายพิชิต หลังเกิดเหตุผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สน.วังทองหลาง โดยเจ้าตัวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีบุคคลใกล้ชิดโทรศัพท์นัดหมายให้ออกมาทานข้าวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านเลียบด่วนรามอินทรา นายพิชิต จึงเดินทางมาด้วยรถตู้โตโยต้าอัลพาร์ด เมื่อถึงสถานที่นัดหมายแล้ว บุคคลใกล้ชิดเกิดเปลี่ยนใจยกเลิกนัด ระหว่างที่นายพิชิต เดินทางกลับมาถึงช่วงก่อนขึ้นทางด่วน มีคนร้าย 2 คน ขี่จักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตามมาประกบด้านซ้าย แล้วชักปืนออกมารัวยิง 4 นัด แต่กระสุนไม่โดนนายพิชิต

ส่วนประเด็นผู้เสียหายมีความขัดแย้งกับใครจนถูก ลอบยิง ผกก.สน.วังทองหลาง ระบุว่า ตำรวจไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องเจ้าตัวมีรายได้ค่อนข้างมากแต่เกินอายุ เรื่องทำกรมธรรม์ประกันภัยไว้หลายฉบับ หรือเรื่องขัดแย้งส่วนตัวอื่นๆ ซึ่งตำรวจต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ก่อนว่าคนร้าย 2 คน เป็นใคร เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ เมื่อจับกุมคนร้ายได้แล้ว ก็จะเชื่อมโยงไปถึงผู้จ้างวาน หรือผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายไม่รู้จักกับนายพิชิต และถูกจ้างวานมาก่อเหตุ

พ.ต.อ.เจษฎา กล่าวอีกว่า ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้สืบสวนหาตัวคนร้ายมาตลอด ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ และมาทราบภายหลังว่าผู้เสียหายคดีซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ สน.วังทองหลาง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 เมษายน อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้เสียหายจะเสียชีวิตแล้ว คดีนี้ก็ยังไม่สิ้นสุดลง โดย สน.วังทองหลาง ยืนยันว่าคงดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน สืบสวนหาตัวคนร้ายต่อเนื่อง ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปมาก