ปส. จับผู้ค้ายาบ้า 8 เครือข่าย พบเชื่อมโยงกันหมด ยึดของกลาง 33 ล้านเม็ด

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. รองผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. , พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และผู้ที่เกี่ยวข้อง แถลงผลสกัดกั้นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ (นักบินตายแทน) ในห้วงเทศกาลสงกรานต์จำนวน 8 เครือข่ายทั้งในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน ผู้ต้องหา 22 คน ยาบ้ารวม 32,386,000 เม็ด และไอซ์ 4.4 กก. ตรวจยึดรถที่ใช้ก่อเหตุ 15 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน ยึดทรัพย์รวม 5,620,000 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 8 เครือข่ายนี้มีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กันหมด 

โดยคดีที่จับกุมและยึดยาเสพติดได้มากที่สุด ตำรวจกก.2 บก.ปส.3 จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย ยึดยาเสพติด 14,648,000 เม็ด หลังสืบสวนทราบว่าจะมีกลุ่มเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยใช้รถปิคอัพ กระทั่งกลางดึกวันที่ 19 เม.ย.67 พบรถปิคอัพเป้าหมาย 3 คัน บรรทุกสิ่งของลักษณะเป็นกระสอบจำนวนมาก บริเวณกระบะท้ายรถปิคอัพ 2 คัน และขับติดตามกันเป็นขบวนมุ่งหน้า ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยมีรถจักรยานยนต์หลายคันขับนำทาง ในทิศทางหลบเลี่ยงด่านยาเสพติดแก่งปันเต๊า ต.แม่นะ อ.เชียงดาว กระทั่งเวลา 01.40 น. ของวันที่ 20 เม.ย. 67 สามารถจับกุม นายวิจิตร ได้ที่ริมถนนโยธาธิการเชียงใหม่ ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ตรวจค้นรถ พบยาบ้าของกลาง ระหว่างนั้นผู้ต้องหาอีกราย คือ นายโกเอ๋อ อาศัยความมืดหลบหนีไปได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด 

พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ระบุว่า ทรัพย์สินที่ยึดได้ครั้งนี้รวม 5.6 ล้านบาท อาจจะเห็นดูไม่เยอะ แต่เป็นทรัพย์ที่ได้จากของกลางที่จับได้ ขณะนี้กำลังสืบสวนขยายผล หาทรัพย์สินส่วนที่ซ่อนอยู่จากบุคคบที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 50 ล้านเป็นอย่างต่ำ ทั้งนี้มีคำถามเข้ามามากมายว่าตำรวจจับยาเสพติดได้เพิ่มขึ้นกว่า 50% ในเกือบทุกๆรายการ โดยเฉพาะยาบ้าพุ่งไปถึง 60-70% เมืองไทยควบคุมยาเสพติดไม่ได้ ทำให้ระบาดไปทั่ว พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ชี้แจงว่า จริงๆแล้ว "ไม่ใช่" เรามีการระดมจับหนัก ทำให้ความต้องการของยาบ้าในแต่ละพื้นที่เพิ่มขึ้น และ เชื่อว่าจะต้องมีการส่งยาเข้ามาเพิ่มขึ้น เพราะความต้องการของชุมชน ขาดตอน ของขาด การทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เข้มงวด สร้างปัญหาให้ขบวนค้ายาเสพติด ลำเลียงลำบาก ผู้เสพหายาบ้ายากขึ้น

ปัจจุบันการลักลอบขนยา ระดับ 10,000 เม็ดน้อยลง 10% ประกอบกับ ป.ป.ส. ตร. มีนโยบายเปลี่ยนผู้ใช้เป็นผู้เสพเอามาบำบัด แทนการดำเนินคดีโดยให้โอกาสในครั้งแรก เป็นการลดปัญหาความต้องการลงไปอีกส่วนหนึ่ง หาก 2 สิ่งนี้มาประกบกันได้เมื่อไร ทำทั่วทุกชุมชนเชื่อว่าการแพร่ระบาดจะลดลง ซึ่งปีนี้ ตร. ตั้งเป้ากวาดลูกค้ารายย่อยในชุมชน 100,000 ราย 

สำหรับผลการดำเนินงานปราบปรามยาเสพติดในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในห้วงวันที่ 10 - 30 เม.ย. 67 พล.ต.ท.สำราญ ระบุภาพรวมสามารถปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญได้มากกว่า 300 เครือข่ายทั่วประเทศ จับผู้ต้องหาได้ 321 คน ยึดทรัพย์กว่า 369 ล้านบาท และในช่วงเดือนต.ค.ปี 2566 ถึงเม.ย.ปี 2567 สามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดได้สูงถึง 61,000 คน เพิ่มจากปีที่แล้วร้อยละ 35 และสามารถตรวจยึดยาเสพติดในแต่ละรายการเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อน โดยเฉพาะยาบ้าที่คิดเป็น 60% จะเห็นได้ว่า การจับกุมยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า ตำรวจ ทหาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะพยายามทุกวิถีทางเพื่อเอาจริงเอาจังกับปัญหายาเสพติดในการสกัดกั้น และกวาดบ้างอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นการบูรณาการร่วมกันแก้ปัญหาผู้เสพผู้ค้ารายย่อยในชุมชนโดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 

ด้านพล.ต.ท.ภานุรัตน์ เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศตามแนวชายแดน ว่า สกัดกั้นตามแนวชายแดนได้ความ 100 ล้านเม็ด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมบูรณาการป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าการจับกุมในพื้นที่ชั้นในของประเทศลดน้อยลง นั่นเป็นผลมาจากการระดมการกวาดล้างเครือข่ายค้ายาเสพติดตั้งแต่ต้นทาง จึงทำให้มีผลการจับกุมได้เป็นจำนวนมาก ไม่ให้เข้าถึงผู้ค้ารายย่อย แต่ในส่วนของกลุ่มผู้ผลิตยาเสพติดฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทำได้เพียงการสกัดกั้น การทำงานไม่สามารถเป็นลุกล้ำเข้าไปได้