ข่าว

“ทนายตั้ม” จวกตำรวจทำงาน 2 มาตรฐาน เล่นบิ๊กโจ๊ก - อุ้มบิ๊กต่อ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด แถลงข่าวกรณี 2 บิ๊กตำรวจที่มีส่วนพัวพันในคดีฟอกเงิน เหมือนกัน แต่กลับถูกดำเนินคดีแบบสองมาตรฐาน เป็นความเหมือนที่แตกต่าง

ทนายตั้ม เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ สำนักงานทนายษิทรา ตึกเอ็มไพร์ ชั้น 24 ถ.สาทร นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม แถลงข่าวกรณี 2 นายตำรวจมีส่วนพัวพันในคดีฟอกเงิน เหมือนกัน แต่กลับถูกดำเนินคดีแบบ 2 มาตรฐาน 

 

นายษิทรา กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าตนเองไม่ได้ทำเพื่อชาติ แต่เป็นการทำเพื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ตนเองมีความสนิทสนมนานหลายปี แต่ยืนยันว่าวันนี้ไม่มีเรื่องเพื่อนพี่น้องเป็นการทำเพื่อชาติ ใครจะโกรธก็ต้องโกรธ ตนจะดำเนินคดีทั้งสองฝ่ายให้ถึงที่สุด 

 

โดยนายษิทรา ได้เปิดแผนผังแสดงความเชื่อมโยงระหว่างบัญชีม้าจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ bnk master ที่มีความเชื่อมโยงไปถึงนายตำรวจทั้งสองคน โดยกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้น พบว่ามีเงินจากเว็บพนันออนไลน์โอนเข้าบัญชีม้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชาถืออยู่จำนวน 4 บัญชี และโอนไปยังบัญชีครอบครัว รวมทั้งมีการโอนไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใจกลางกรุงเทพมหานครจำนวน 4 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลให้กับครอบครัว 

 

และยังมีการโอนเข้าไปยังบัญชีของน้องชายและแม่เดือนละ 5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีอาญากับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้อย่างแน่นอน แต่เรื่องของวินัยนั้นตนเองไม่ทราบรายละเอียดขั้นตอนแต่มองว่ามีการกระทำเป็นขบวนการเร่งรัดให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที ก่อนที่ตำรวจจะส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.อีกครั้ง

เส้นเงินเว็บ BNK ขณะที่การดำเนินคดีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ นั้น ตนเองได้นำพยานหลักฐานทั้งเส้นทางการเงินและอื่นๆไปร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน.เตาปูน และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บก.ปปป.) นั้น ยังไม่มีความคืบหน้า พนักงานสอบสวนอ้างว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบ เส้นทางการเงินและตรวจสอบต้นทางของบัญชีต่างๆ ซึ่งมองว่า เป็นการดำเนินการ 2 มาตรฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

พร้อมตั้งคำถามว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว จะกล้าดำเนินคดีกับผู้บังคับบัญชา คือบิ๊กต่อหรือไม่ ทั้งที่หลักฐานที่ตนเองนำไปส่งให้นั้นชัดเจนว่า มีการโอนเงินจากบัญชีม้า ไปยังภรรยาของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และเครือญาติชัดเจน ทั้งยังพบว่าเงินถูกใช้จ่ายเป็นค่านิติบุคคลให้กับคอนโดมิเนียม 3 แห่ง รีสอร์ทหรูชื่อดังที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรถอีกหลายคัน แต่ไม่ขอระบุว่าเจ้าของอสังหาฯดังกล่าวเป็นใคร เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหาครอบครัว

 

“ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ต้นทางมาจากบัญชีม้าบัญชีหนึ่งของณัฐพงศ์ ที่มีเงินเข้าจากเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เฉพาะบัญชีนี้เดือนละ 80 ล้านบาทยอดรวมทั้งหมดมีมากกว่า 800 ล้านบาท และพบว่าเงินจากบัญชีนี้ถูกโอนต่อเป็นทอด และเชื่อมโยงไปยังปลายทางคือบัญชีของเครือญาติและคนสนิท พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ในลักษณะเดียวกันกับกรณีของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงเป็นเหตุให้ตั้งข้อสงสัยว่า การดำเนินการของพนักงานสอบสวนมี 2 มาตรฐาน พร้อมตำหนิการทำงานของพนักงานสอบสวนว่า หลักฐานขนาดนี้ดำเนินคดีไม่ได้ก็ไปชิงหมาเกิด จึงตั้งคำถามว่า การที่ไม่มีใครกล้าดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เนื่องจากมีเบื้องหลังดีหรือไม่ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีก็ไม่กล้ายุ่งเช่นกัน “ 

ทนายตั้ม ตนขอให้ประชาชนช่วยสนับสนุนตนเองด้วย เพราะตนเองยอมตาย เสียสละ ทำเพื่อชาติ ในอนาคตอาจจะโดนยิงตายก็ได้ และถ้าทำให้ส่วยน้อยลง ตนเองก็อาจได้ขึ้นสวรรค์ก็ได้ และต่อไปนี้จะทำเพื่อประชาชน ใครที่โทรศัพท์มาปรึกษาคดีกับตนในหมายเลขโทรศัพท์เดิมก็จะไม่คิดเงินอีกต่อไป และหากหลักฐานที่ตนยื่นไปเป็นเท็จ ก็ดำเนินคดีกับตนเองได้ 

ทั้งนี้ พรุ่งนี้ ตนจะนำข้อมูลเส้นทางการเงินของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ไปให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ที่ บก.ปปป. เวลา 10.00 น.  ส่วนบิ๊กเต่าจะอยู่พบตัวเองหรือไม่ก็ไม่เป็นไร และให้ขอดูการกระทำของตนเอง ที่กล้าเอาผิดกับทั้งสองฝั่งเป็นตัวอย่าง และในวันพฤหัสนี้ (25 เม.ย.) จะไปพบพนักงานสอบสวนที่ สน.เตาปูนเพื่อให้ปากตำเพิ่มเติมด้วย

ส่วนคดีของบิ๊กโจ๊กที่มีความผิดจากการรับเงินจากเว็บพนันออนไลน์นั้น เชื่อว่าผิดจริง และในฐานะทนายความมองว่าค่อนข้างจะเหนื่อยแล้ว แต่ต้องเป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้คดีต่อไป แต่ศาลจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ทั้งนี้ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบิ๊กโจ๊ก ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองอ้างว่าได้รับข้อมูลมาสักพักแล้ว และ เพิ่งมาประมวลข้อมูลช่วงสงกรานต์ และตั้งใจจะนำไปแถลงก่อน ก.ตร. แต่พี่โจ๊กถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนจึงไม่ได้ดำเนินการตามที่ตั้งใจ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ