ปีนี้อุบัติเหตุลดลง 'ผช.ผบ.ตร.' เผย เมาแล้วขับ สำนึกล้วนๆ ห้ามเมาไม่ได้
สงกรานต์ปีนี้ อุบัติเหตุ 1,564 ครั้ง อันดับ 1 ขับรถเร็ว ส่วน 'เมาแล้วขับ' รองลงมา 'ผช.ผบ.ตร.' เผย เป็นเรื่องสำนึกล้วนๆ ตำรวจห้ามเมาไม่ได้
พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการจราจร และอุบัติเหตุ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ทั่วประเทศ ประชุมวีดีโอ conference
เป็นการสรุปผลดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 11 -15 เมษายน พบว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุ สะสม 5 วัน พบเกิดอุบัติเหตุ 1,564 ครั้ง พบผู้เสียชีวิต 206 คน และผู้บาดเจ็บ 1,593 คน จากการเปรียบเทียบ พบว่า สถิติลดลงกว่าปีที่ผ่านมา
สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ เกิดจากการขับรถด้วยความเร็ว มากสุด ร้อยละ 43.19 รองลงมาคือ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.92 และอันดับสามคือ ขับรถตัดหน้าแบบกระชั้นชิด ร้อยละ 15.82 ส่วนมากเป็นรถประเภทจักรยานยนต์ รถกระบะ และรถยนต์ส่วนบุคคล
นอกจากนี้ยังมีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ต่อเนื่องอีกประมาณ 18 แห่ง ทั้งในพื้นที่กรุงเทพ และ ต่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 17 -21 เมษายน เช่น วันไหล ชลบุรี พระประแดง ตำรวจได้เตรียมความพร้อม จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าเฝ้าระวังเหตุ ในแต่ละจุดของจังหวัด
ส่วนด้านการจราจร จากข้อมูล พบว่า จะมีจำนวนรถที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในถนนสายหลักตั้งแต่ช่วงเย็นวันนี้ ไปจนถึงพรุ่งนี้เช้ากว่า 6 แสนคัน โดยได้เตรียมเปิดเส้นทางพิเศษหากพบจุดใดที่มีรถหนาแน่น พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และตำรวจทางหลวงคอยอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง
ทั้งนี้จากสาเหตุอุบัติเหตุ พบว่า "เมาแล้วขับ" เป็นอันดับต้นๆของทุกปี พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ ระบุว่า เมาแล้วขับเป็นเรื่องความรับผิดชอบของตัวเอง เนื่องจากตำรวจมีมาตรการอย่างเข้มงวดมีการตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์จำนวนมาก แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของสำนึกและความตระหนักแต่ละคน ถ้าเมาแล้วไม่ขับก็คือ จบ ซึ่งสาเหตุไม่ได้เกิดขึ้นจากตำรวจ แต่ตำรวจมีหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นและไม่ขยายวง ตำรวจจะไปห้ามเมานั้นเป็นไปไม่ได้ พร้อมย้ำ "เมาแล้วขับเป็นเรื่องสำนึกล้วนๆ"
ส่วนที่มีบางพื้นที่จัดกิจกรรมสงกรานต์อยู่ จะกระทบต่อประชาชนทั่วไปหรือไม่ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลมักมีผลกระทบอยู่แล้ว ในส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีภารกิจ คือ การเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ เช่น รถติด ก็ลงไปจัดการจราจร แต่เราไม่ได้มีหน้าที่ทำให้เกิดผลกระทบ เพียงแต่เข้าไปคลี่คลายด้วยมาตราการต่างๆเท่านั้น
ส่วนการดูแลชาวต่างชาตินั้น ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือคนไทยก็เป็นนักท่องเที่ยวตำรวจดูแลเท่ากัน ส่วนอาชญากรแอบแฝงเข้ามา ยังไม่มี ยังไม่ได้รับรายงานจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง