ผ่าแผน สืบนครบาล 'ดักหน้า ไม่วิ่งตาม' ทลาย 'ซุ้มโจร' หนองจอก ทางเดินเสือ

8 เม.ย. 2567  แก๊ง "ทางเดินเสือ"  ซุ้มโจรอันดับ 1 ในพื้นที่หนองจอก ที่มักจะออกตระเวนก่อเหตุ ปล้น-ฆ่า-ค้ายา-ค้าอาวุธ  แต่หลังก่อเหตุก็สามารถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน และยังมีการฝากจดหมายน้อยมาเยาะเย้ยตำรวจว่า "จับผมไม่ได้หลอก" เรื่องนี้ถึงหูของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)   สั่งการให้ ผู้การจ๋อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ปราบแก๊งทางเดินเสือ ให้สิ้นชื่อ

 

พล.ต.ต.ธีรเดช ถอดบทเรียนรูปแบบการหลบหนีของแก๊งนี้จนตกผลึกเป็นแผน "ดักหน้า....ไม่วิ่งตาม" ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสว่าซุ้มโจรทางเดินเสือ ซุ่มอยู่ละแวกร้านสะดวกซื้อ ย่านถนนเรียบวารี  เป็นไปได้ว่าจะต้องมีการปล้นเกิดขึ้นภายใน 36 ชั่วโมง จึงส่งชุดสืบสวนพิเศษเฝ้าสังเกตการณ์

 

กระทั่งวันที่ 8 เม.ย. 67 เวลาประมาณ 03.30 น. ชุดสืบสวนพบรถต้องสงสัยมาจอดซุ่มและมีการปล่อยคนลงไปดูลาดเลาในร้านสะดวกซื้อ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน นำโดย สารวัตรแจ๊ะ จึงนำกำลังเข้ารวบตัว 2  ลูกสมุนไว้ได้ ก่อนจะนำตัวบุกค้นเซฟเฮ้าส์ที่บ้านหลังหนึ่งใน ซ.เลียบวารี 11 ถ.เลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก จ.กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่กบดานของหัวหน้าแก๊ง 

 

 

 

และทันทีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง หัวหน้าแก๊งทางเดินเสือไหวตัวหลบหนี ด้วยการกระโดดปีนกำแพงหลังบ้านเข้าไปในป่ากก แต่เจ้าหน้าที่ตามตะครุบตัวไว้ได้  และจากการตรวจค้นในเซฟเฮ้าส์พบปืนเถื่อน 9 กระบอก โดยชุดสืบสวนสามารถจับกุมตัวคนร้ายในเซฟเฮ้าส์ได้ทั้งสิ้น 6 ราย   ประกอบด้วย 

 

1.นายณัฐวุฒิ หรือไอ้เสือ อายุ 20 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.1352/2566 ลงวันที่ 20 ธ.ค. 66 ข้อหา "ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นโดยเจตนา , ร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันลักทรัพย์"

 

มีประวัติการก่อคดีมาอย่างโชกโชน

พ.ศ.2563 ก่อเหตุ "ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1ฯ" ,

พ.ศ. 2564 ก่อเหตุ "ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1ฯ” ,

พ.ศ.2564 ก่อเหตุ “ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ” ,

พ.ศ.2566 ก่อเหตุ “ร่วมกันพยายามฆ่า , ร่วมกันลักทรัพย์”

(ตามหมายจับ) หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

 

2.นายนว หรือเสือเก๋า อายุ 19 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.341/2567 ลงวันที่ 4 มี.ค. 67 ข้อหา "ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป" 

พบเบาะแสว่าเคยร่วมกับ นายอารักษ์ หรือ กี้ ก่อคดี ปล้น-ฆ่า-ฉ้อโกง-อาวุธปืน มาหลายคดีและหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

  

 

3.นายอารักษ์ หรือเสือกี้ อายุ 21 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.341/2567 ลงวันที่ 4 มี.ค. 67 ข้อหา "ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป"  

4.นายบูรพา หรือ ภู อายุ 20 ปี 

5.น.ส.ปริษา หรือ สา อายุ 19 ปี 

6.น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี 

 

โดยทั้ง 6 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดของกลาง ปืนเถื่อนจำนวน 9 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 

 

 

 

 

หลังการจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดช สั่งการขยายผล จนชุดสืบสวนพบข้อมูลว่า แก๊งนี้เป็นพ่อค้าอาวุธปืนรายใหญ่ในย่านหนองจอก พบประวัติการขายอาวุธปืนเถื่อนแล้วกว่า 2,000 กระบอก  ด้วยวิธีการ "ตบ" หรือ "ยึดปืน" เอามาจากเด็กวัยรุ่นในย่านดังกล่าว เอามาสะสมรวมกันใน คลังแสง ก่อนจะประกาศขายทางช่องทางออนไลน์ โดยจะขายในราคากระบอกละตั้งแต่ 10,000 – 20,000 บาท

 

แต่เมื่อมีผู้ที่สั่งซื้อปืนจากแก๊งนี้จะถูกวางแผนให้มารับปืนด้วยตัวเอง จากนั้นเมื่อโอนเงินให้เรียบร้อย และถูกตลบหลังด้วยการยกพวกกว่า 10 คน รุมล้อมและใช้อาวุธปืนจี้ ปล้นทั้งเงินและทั้งปืนกลับไป ซึ่งขณะนี้มีผู้ได้รับความเสียหายจากการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ไม่ต่ำกว่า 20 ราย

 

 

 

 

ในชั้นจับกุม นายนว และนายอารักษ ให้การรับสารภาพ ส่วน นายณัฐวุฒิ หรือ เสือ หัวหน้าแก๊ง ยังปากแข็ง ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เช่นเดียวกันกับอีก 3 ราย  ที่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาโดยอ้างว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นใดในการค้าขายอาวุธปืนเถื่อนมาก่อน หลังจับกุมตัว ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองจอก เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย