หนุ่มโรงงานไหว้ขอโทษ พร้อมเผยสาเหตุที่ 'ขับรถหรูพุ่งชนร้านขายา'

จากกรณี สาวเจ้าของร้านขายยาแห่งหนึ่งย่านตำบลปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เข้าร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด ว่าเมื่อช่วงเช้าตรู่ ของวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ร้านขายยาของตนเองได้ถูกรถเก๋ง BMW ขับพุ่งชนร้านพังได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด

 

หลังเกิดเหตุคนขับรถเก๋งหรูได้ขับรถหลบหนีไป หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความตำรวจ สภ.ปลายบาง จ.นนทบุรี ให้ช่วยเหลือติดตามตัวคนขับมาดำเนินคดี แต่ทางถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปฎิเสธ อ้างว่าเป็นคดีแพ่ง ให้ผู้เสียหายไปฟ้องร้องเอาผิดกับคนขับรถเก๋งเอง จึงได้ไปร้องขอความเป็นธรรมกับทางเพจสายไหมต้องรอด 

 

 

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังร้านขายยาในจุดเกิดเหตุ พบว่า สภาพหน้าร้านกระจกพังเสียหายทั้งหมด ทางเจ้าของร้านขายได้ทำการรื้อส่วนที่พังออกไปหมดแล้ว แต่ยังไม่ได้ให้ช่างเข้ามาซ่อมแซม จากสอบถามเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ติดกัน เปิดเผยว่าตอนเช้าวันที่เกิดเหตุ พนักงานของร้านตนมาเปิดร้านตามปกติ จึงเห็นว่าร้านขายยาที่อยู่ใกล้กันอยู่ในสภาพถูกรถพุ่งชนเสียหายเละเทะแล้ว 

 

 

 

 

ตนถึงตามมาดูก็พบว่าสภาพของร้านแย่มาก อลูมิเนียมหน้าร้านหลุดทุกอย่างมันถูกชนเข้าไปข้างในร้านจนสุดถึงที่กั้น ตนก็เลยเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมาสอบถาม ทราบว่ามีรถเก๋งสีดำพุ่งมาชนแล้วหลบหนีไป  ตนจึงโทรหาเจ้าของร้านขายยา 

 

 

 

 

ต่อมาตนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากร้านตนทั้ง 2 ร้าน พบว่ารถเก๋งพุ่งเข้ามาชนในช่วงเวลาแค่นาทีเดียว และดูจากกล้องทั้งของหมู่บ้านและของร้านของตน เหมือนคนขับจะขับเลยหน้าร้านไปแล้ว ถอยและวนเข้ามาตีโค้งเข้ามาในร้านเลย คิดว่าเป็นการจงใจขับรถเข้ามาชนไม่ใช่อุบัติเหตุ หลังจากนั้นเขาก็หนีไปด้วยความเร็ว ซึ่งยังมีเศษกระจกติดอยู่ที่หน้ารถคันที่ชน

 

 

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ที่สถานีตำรวจ สภ.ปลายบาง จ.นนทบุรี น.ส.อนุตรา อายุ 55 ปี เจ้าของเก๋ง BMW ซีรีย์ 6 คันเกิดเหตุ พร้อมด้วยนายเอก ( นามสมมุติ ) คนขับรถเก๋ง คันเกิดเหตุ ได้เดินทางมาที่ สภ.ปลายบาง จ.นนทบุรี พร้อมกับรถยกจึงได้นำรถเก๋งคันเกิดเหตุมาที่สถานีตำรวจ พบว่าเป็นรถ BMW รุ่นจีที 630 ดี สภาพหน้ารถพังเสียหาย มีเศษกระจกของร้านขายยายังติดคาอยู่ที่ตัวรถด้วย

 

น.ส.อนุตรา เจ้าของรถ เปิดเผยว่า นายเอก (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นลูกน้องของตนเป็นคนขับรถไปก่อเหตุ จึงพาตัวมาพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ พร้อมกับเอ่ยปากขอโทษทางเจ้าของร้านขายยาผู้เสียหายด้วย 

 

 

 

 

โดยนายเอก ให้การว่าวันเกิดเหตุตนเองไม่สบาย และได้กินยาแก้แพ้ไป 4 เม็ด และได้นำรถของเจ้านายขับออกจากโรงงาน ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 7 กิโลเมตร เพื่อไปตลาดในอำเภอศาลายา จ.นครปฐม แต่ระหว่างทางตนเกิดมีอาการสะลึมสะลือจากยาที่กินไปจนทำให้เบลอ จนกระทั่งขับรถเลี้ยวไปพุ่งชนร้านขายยาจนพังเสียหาย ด้วยความกลัวผิด จึงรีบขับรถกลับมาจอดที่โรงงาน โดยที่ตนไม่ได้บอกกับนายจ้างเจ้าของโรงงานเพราะกลัวจะถูกไล่ออก จนกระทั่งนายจ้างเจ้าของโรงงานมาทราบเรื่อง ตนได้เล่าความจริงให้ฟังทั้งหมด และเดินทางมาโรงพักเพื่อรับความผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น

 

ด้าน น.ส.อนุตรา อายุ 55 ปี เจ้าของรถ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นตนใช้ให้ลูกน้องขับรถไปทำธุระให้ แต่เนื่องจากลูกน้องไม่สบายพอดีจึงกินยาแก้แพ้ไปทำให้เกิดอาการวูบในขณะขับรถ ซึ่งทางลูกน้องก็ไม่ได้มาแจ้งกับตนหลังรถไปเกิดอุบัติเหตุ จนกระทั่งตนมารู้จากข่าว จึงเรียกลูกน้องมาสอบถามความจริง ก่อนจะพากันเดินทางมาที่โรงพักเพื่อเจรจาชดใช้กับเจ้าของร้านยาผู้เสียหาย

 

 

 

 

เนื่องจากรถเก๋งคันดังกล่าวมีประกันชั้น 1 ตนพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างแทน เพราะเท่าที่ฟังจากลูกน้อง สาเหตุเกิดจากฤทธิ์ยาที่กินเข้าไปจนทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมา ไม่ได้เกิดจากตั้งใจอะไรเพราะไม่ได้มีปัญหาอะไรกับทางร้านขายยา ซึ่งตนได้แจ้งให้ทางบริษัทประกันมาเข้าดูแลเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว

 

ทางด้านสาวเจ้าของร้านขายยา กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้วตนก็รู้สึกสบายใจขึ้นว่าไม่ได้ถูกใครที่ไหนคิดจะมาทำร้ายด้วยการขับรถพุ่งชนเข้ามาในร้าน ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับร้านขายยาในเบื้องต้นตนประเมินไว้ทั้งหมดประมาณ 1 ล้านบาท 

 

ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ  นนทบุรี