ข่าว

'ทนายตั้ม' พา 'พิมพ์วิไล' เปิดตัวครั้งแรก พร้อม ให้การ 'สน.เตาปูน'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ทนายตั้ม' พา 'พิมพ์วิไล' เปิดตัวครั้งแรก พร้อม ให้การ 'สน.เตาปูน' งานนี้ 'พิมพ์วิไล' พูดชัด โอนให้ใครบ้าง ยอดเท่าไหร่

วันที่ 5 เม.ย.2567 เวลา 11.00 น. ทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด นำพยานหลักฐานเป็นเอกสารจำนวน 1 ปึก กับแผนผังเส้นทางการเงินอีก 1 ม้วน ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน หลังเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2567  ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)  ภรรยา และบัญชีม้า อีก 2 คน  คือ คชาชาญ และ ณัฐพงศ์ ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน

 .

ทนายตั้ม กล่าวว่า วันนี้มายื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยนำพยานมาด้วย 2 ปาก คือ น.ส.พิมพ์วิไล ที่จ่ายเงินให้ คชาชาญ บัญชีม้า ทุกเดือน เดือนละ 1 ล้าน และ สายลับ อีก 1 คน ที่ให้ข้อมูลเรื่องส่วย มารอตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว และไม่อยากให้ออกสื่อ เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย

วันนี้มีหลักฐานเพิ่มเติมคือ แผนผัง 2 ชุด ที่จะมอบให้กับพนักงานสอบสวน เป็นหลักฐานเส้นเงินที่ได้พูดถึงทั้งรีสอร์ท และผังทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ น.ส.พิมพ์วิไล โอนไปให้ใครบ้าง และ น.ส.พิมพ์วิไล น่าจะเป็นพยานสำคัญ ซึ่งในอนาคตอาจจะเป็นผู้ต้องหา และวันนี้จะให้การครบหมด

 

ส่วน สายลับ ให้การว่า เคยทำงานอยู่กับใคร ไปจ่ายเงินที่ไหน และเคยเปิดห้องคอมมานโด ตามที่เคยแถลงข่าวไป รวมถึงแชทคุยสั่งงาน การจ่ายเงิน ดาบยาว และสลิปการโอนเงินต่างๆ นำมามอบให้ทั้งหมด เพื่อรองรับสิ่งที่เคยแถลง อีกทั้งสายลับจะมอบสลิปให้กับตำรวจว่า เคยโอนเงินไปให้ใครบ้างด้วย เป็นหลักฐานเส้นเงินที่จะชี้ให้เห็นว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร

ในแผนผังที่นำมานี้ มีเป็นหลักฐานที่เชื่อมโยงไปหลายหน่วยงาน น.ส.พิมพ์วิไล รับเงินมาจากเว็บพนัน โอนตรงไปให้บัญชีม้ามากกว่า 10 เส้น  มีเส้นที่โอนให้ คชาชาญ และ คชาชาญ โอนต่อให้ ณัฐพงศ์ แล้วโอนไปให้ให้บิ๊กๆ และเส้นอื่นๆ ใน บัญชีม้า กว่า 10 เส้น  ยังเชื่อมโยงกับอีกหลายหน่วยงาน เป็นตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และตำรวจท้องที่ เกือบ 10 หน่วย จึงต้องส่งข้อมูลไปให้ตำรวจเพื่อสืบสวนต่อ และไม่ว่าจะไปเกี่ยวข้องกับหน่วยงานไหน หรือ หากไปเกี่ยวข้องกับใครก็โดนหมด

 

รวมทั้งหากมีเส้นเงินไปถึง บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ก็พร้อมจะให้ข้อมูลและให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ถึงแม้จะเป็นบุคคลที่สนิทกับตัวเองก็ตาม

 

วันนี้นัดหมาย พนักงานสอบสวน บก.ปปป. มาสอบปากคำ น.ส.พิมพ์วิไล และ สายลับ ด้วย เพื่อให้พยานที่เป็นสายลับเกิดความปลอดภัย และเพื่อความสบายใจของ สายลับ ด้วย เพราะเขาทำงานอยู่กลุ่มเดียวกัน และจะนำพยานหลักฐานแผนผังเส้นทางการเงินมอบให้ด้วย

 

นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้า วันที่ 9 เม.ย.2567 จะนำพยานและ สายลับ ไปให้ข้อมูลกับ คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร. ส่วนในวันที่ 10 เม.ย.2567 เวลา 11.00 น. จะไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้น ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย

 

ขณะที่ วันนี้ น.ส.พิมพ์วิไล เดินทางมาพร้อมกับนายสัญญวีณ์ ทนายความส่วนตัว เพื่อเข้าให้การกับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน โดย น.ส.พิมพ์วิไล ถือเป็นพยานปากสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากเป็นคนโอนให้กับ บัญชีม้า อย่าง คชาชาญ และ ณัฐพงศ์

 

ขณะที่ น.ส.พิมพ์วิไล กล่าวว่า วันนี้พร้อมให้ข้อมูลกับตำรวจทุกอย่าง ยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลจริง และยอมรับว่าเป็นคนโอนเงินจ่ายหลักล้าน แต่ไม่ขอตอบว่าโอนเงินให้กี่หน่วยของตำรวจย้าง เชื่อว่าข้อมูล statement หรือ บันทึกรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะตอบทั้งหมด

.

เมื่อถามว่าโอนเงินจ่ายให้กี่ปีแล้ว น.ส.พิมพ์วิไล ตอบว่า จำไม่ได้ว่ากี่ปี แต่ยอมรับว่าทำหน้าที่หลักคือโอนเงิน โดยได้รับการว่าจ้างจากเพื่อนให้ทำบัญชี ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 20,000 บาท ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันผิดกฎหมาย ยืนยันว่าไม่มีใครบังคับ และไม่มีใครข่มขู่ในการเดินทางมาในวันนี้ และพร้อมสู้คดีจนถึงที่สุด เพราะความจริงก็คือความจริง และเต็มใจมาเปิดข้อมูลเอง แต่ยอมรับว่าหลังจากให้ข้อมูลในวันนี้ ก็กังวลเรื่องของความปลอดภัย

 

เมื่อถามว่ารู้จักตำรวจท่านไหนบ้าง น.ส.พิมพ์วิไล บอกว่า ไม่รู้จักใคร และหลังเกิดเรื่องเมื่อรู้ว่าตัวเองกระทำความผิด ก็ได้โทรศัพท์ไปต่อว่าคนที่ว่าจ้างแล้ว ส่วนสาเหตุที่ออกมาในวันนี้ ไม่ขอตอบ แต่ยืนยันได้ว่าไม่ได้กลั่นแกล้งใคร และไม่ได้อยู่ฝ่ายไหน หากโดนแจ้งข้อหาก็พร้อมยอมรับ

 

ส่วนนายสัญญวีณ์ กล่าวว่า วันนี้เข้ามาให้ข้อมูลตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่ได้พาดพิงถึงใคร และไม่ได้อยู่ฝ่ายไหน เพียงแต่ให้การตามความเป็นจริง จะแพ้ชนะอยู่ที่พยานหลักฐานทั้งหมด

 

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าการที่ น.ส.พิมพ์วิไล ออกมาให้ข้อมูลอาจจะกลายเป็นผู้ต้องหาในอนาคต นายสัญญวีณ์ กล่าวว่า การจะดำเนินคดีหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่อง ยอมรับหากถูกแจ้งข้อหา ต้องไปสู้กันหลังจากนั้น

logoline