ข่าว

‘บิ๊กเอก’ อ่านเกม ออกหมายจับ ‘บิ๊กโจ๊ก’ กับ ทิศทาง 'ผบ.ตร.คนที่ 15'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

‘บิ๊กเอก’ อ่านเกม ออกหมายจับ ‘บิ๊กโจ๊ก’ เอฟเฟคสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึง เก้าอี้ ‘ผบ.ตร.’ คนที่ 15 ยังมีสิทธิ์หรือไม่

วันที่ 3 ม.ค.2567 บิ๊กเอก พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ อดีต รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ผ่าน รายการข่าวข้นคนข่าว ทาง NationTV ช่อง22 กรณี ออกหมายจับ และดำเนินคดี กับ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ในความผิดฐานสมคบฟอกเงิน และเจ้าพนักงานฟอกเงิน ว่า

 

กรณี บิ๊กโจ๊ก เป็นเรื่องของกระบวนการที่ต้องดำเนินการต่อไป ใน 2 เรื่อง คือ คดีอาญา คงมีความชัดเจน และมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย หลังจาก บิ๊กโจ๊ก เข้ามอบตัว ก็เริ่มกระบวนการ พนักงานสอบสวน และชุดสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน สรุปสำนวน มีความเห็นทางคดี ว่า เห็นควรสั่งฟ้อง หรือ สั่งไม่ฟ้อง และ ส่งให้พนักงานอัยการพิจารณา

อีกส่วน หลังจาก บิ๊กโจ๊ก รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ตามกฎหมายต้องมารายงานตัวกรณีต้อง คดีอาญา เป็นกระบวนการอีกส่วนหนึ่ง เรียกว่าเริ่มกระบวนการทาง วินัย เนื่องจากเมื่อตำรวจต้อง คดีอาญา ก็ต้องดำเนินการทาง วินัย ควบคู่กันไปด้วย

 

การรายงานตัว ต้องมารายงานตัวใน 7 วัน หลังรายงานตัวแล้ว เป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชา คือ ผบ.ตร. ท่าน รักษาการ ผบ.ตร. ในขณะนี้ ต้องพิจารณาว่า บิ๊กโจ๊ก ถูกกล่าวหาเรื่องอะไร พฤติกรรมเป็นอย่างไร เป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้

 

ท่าน รักษาการ ผบ.ตร. ต้องดูอีกส่วน คือ รายงานของ พนักงานสอบสวน ว่า สอบสวนอะไรบ้าง หลังจากสอบสวนแล้ว พนักงานสอบสวน ต้องทำรายงานส่ง รักษาการ ผบ.ตร. เพื่อพิจารณาดำเนินการทาง วินัย

  • เมื่อถามถึง กรณี บิ๊กโจ๊ก ยังเป็น แคนดิเดต ผบ.ตร. ได้หรือไม่ พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า การ แต่งตั้ง ผบ.ตร. แยกไปส่วนหนึ่ง  ยืนยันว่า ณ วันนี้ ยังสรุปไม่ได้ จนกว่าจะมีการดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งยังมีเวลาอีก 6 เดือน

 

สมมุติว่า คดีนี้ พนักงานสอบสวน เห็นว่า บิ๊กโจ๊ก ไม่ได้ทำความผิด สั่งไม่ฟ้อง อัยการสั่งไม่ฟ้อง คดีนี้ ก็ไม่เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาด้วย หรือ ถ้ามีการสั่งฟ้อง กระบวนการในเรื่องการดำเนิน คดีอาญา ก็ชัดเจนว่า ท่านยังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะตัดสิน

 

ส่วนทาง วินัย ต้องมาดูว่า ท่าน รักษาการ ผบ.ตร. จะดำเนินการอย่างไร ประเด็นแรก อาจสั่งให้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่า ที่ถูกกล่าวหา ทำผิดจริงหรือไม่ ถ้าผิดจริง มีโทษร้ายแรงแค่ไหน จะเป็น วินัย ธรรมดา ที่ไม่ได้มีโทษหนัก หรือโทษ วินัย ร้ายแรง ก่อให้เกิดความเสียหาย ถึง ไล่ออก ปลดออก

 

ณ เวลานี้ ข้อเท็จจริงคงต้องรอ คิดว่าคงให้เวลาภายใน 7 วัน 15 วัน จะมีความชัดเจน นี่เป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินการ ในส่วนของทาง วินัย ในเบื้องต้น เพราะฉะนั้น ตอนนี้จะไปสรุปเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้ง ไม่ได้

 

  • เมื่อถามว่า  ตามหลักการ ถ้า ผบ.ตร. หรือ รักษาการ ผบ.ตร. สั่งตั้งกรรมการสอบทาง วินัย จะต้องถูก พักราชการ โดยอัตโนมัติหรือไม่

 

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า อยู่ที่ข้อเท็จจริงพฤติการณ์ในคดีทั้งหมดประกอบกัน มีหลักเกณฑ์และแนวทางในการพิจารณาอยู่แล้ว ขอย้ำว่าขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ไม่ใช่ว่าถูกดำเนินคดีอาญาแล้ว ต้องตั้ง วินัย ทั้งหมดต้องรอดูข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ต้องดูจากรายงานของพนักงานสอบสวน ที่ส่งให้ รักษาการ ผบ.ตร. พิจารณา ประกอบกัน

 

ในการดำเนิน คดีอาญา จะมีระยะเวลานาน ส่วนทาง วินัย สามารถสรุปได้ โดยไม่ต้องรออาญา หรือแม้กระทั่ง มาตรฐานในการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน 

 

อธิบายคำว่า มีมลทิน หรือ มัวหมอง ที่มักจะหยิบมาเป็นประเด็นว่า บิ๊กโจ๊ก  ถูกตั้งกรรมการ แล้วมีมลทิน มัวหมอง ไม่ตั้งเป็น ผบ.ตร. ตรงนี้ไม่ใช่ เป็นคนละเรื่องกัน 

 

ยืนยันว่า ณ ขณะนี้ คุณสมบัติ ตามที่กฎหมายไว้  และไม่มีข้อห้ามข้อจำกัด ถึงแม้ว่าจะต้องคดีอาญา ก็อยู่ที่อำนาจตามกฎหมายของ นายกรัฐมนตรี จะใช้ดุลพินิจ พิจารณาคัดเลือกแคนดิเดต ทั้ง 4 ท่าน มี บิ๊กโจ๊ก อาวุโส อันดับ 1 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร อาวุโสอันดับ 2 พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง อาวุโสอันดับ 3 พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ อาวุโสอันดับ 4 นายกรัฐมนตรีสามารถใช้ดดุลพินิจภายในกรอบกฎหมาย”

 

  • เมื่อถามว่า กฎหมายไม่ได้ล็อกชัดเจน แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ เพราะถึงเวลาจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่า กฎหมาย 100% แต่มีการใช้ดุลพินิจจากคนที่เกี่ยวข้องใช่หรือไม่

พล.ต.อ. เอก กล่าวว่า ถูกต้อง มีตัวอย่างจากปีที่แล้ว ที่กรอบกฎหมายอย่างนี้ แต่ นายกรัฐมนตรี จะพิจารณาได้อย่างกว้างขวาง ยกเหตุผลตามกรอบกฎหมายมาอธิบาย ก.ตร. ในหลักการ ก็แล้วแต่ ก.ตร. ถ้ามีความเห็นชอบตาม ก็มีมติเป็นไปตามนั้น แต่ถ้ามีมติไม่เห็นด้วย ก็บันทึกเหตุผลไว้

 

  • เมื่อถามว่า ในส่วนกรณีของ บิ๊กโจ๊ก ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว มีหมายจับ และรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว อีกมุมหนึ่ง ผบ.ตร. ตัวจริง ถูกแจ้งความดำเนินคดีเหมือนกัน จะมีการเปรียบเทียบกันหรือไม่ ว่า คนหนึ่งถูกออกหมายจับแล้ว อีกคนคดีจะเดินหน้าหรือไม่

 

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า คงเป็นข้อเท็จจริง เพราะว่า ณ เวลานี้ เป็นเพียงการเริ่มต้น ก็เข้าอยู่กระบวนการ พนักงานสอบสวน ต้องดำเนินการไป หากมีพยานหลักฐานเพียงพอ คงต้องมีหมายเรียก ให้ ผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหามารับทราบข้อหา ตามกระบวนการ สังคมก็จับตาดูอยู่ว่า หากมีหลักฐานชัดเจนแล้วไม่ดำเนินการ พนักงานสอบสวน ก็จะตกเป็นจำเลยสังคม อาจจะมีการกล่าวโทษกล่าวหา เป็นความผิดไป เป็นแนวทางที่ต้องดำเนินการตามลำดับไป

 

  • เมื่อถามว่า บิ๊กโจ๊ก ยังสามารถโต้แย้งการ ออกหมายจับ ได้หรือไม่

ขั้นตอนการออกหมายจับจบแล้ว คงต้องสู้คดีอย่างเดียว อยู่ในกระบวนการ พนักงานสอบสวน ก็จะพิจารณาสำนวนการสอบสวน มีความเห็นในการสั่งคดี ตามกระบวนการ ส่งอัยการ ส่งศาล ไปตามลำดับ จากที่เคยโต้แย้งว่า พนักงานสอบสวน ไม่มีอำนาจ ตามที่ทนายกล่าวอ้าง หากศาลวินิจฉัยเป็นอย่างไร ทุกคนต้องยุติตามที่ศาลมีคำวินิจฉัย 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ