ตัดวงจร 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' พนันออนไลน์ ลากสายเน็ตมุดดิน-ข้ามแดน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กสทช. กองกำลังบูรพา ตัดวงจร แก๊งคอลเซ็นเตอร์ - พนันออนไลน์ ลอบลากสายอินเตอร์เน็ตมุดดิน-ข้ามแดนไปประเทศเพื่อนบ้าน
2 เม.ย. 2567 ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ศูนย์ AOC กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ปราบปรามการกระทำความผิดออนไลน์เชิงรุก กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ตั้งชุดสายตรวจออนไลน์ เพื่อติดตามและตรวจสอบเว็บไซต์ผิดกฎหมาย
จากการสืบสวนพบเว็บไซต์กระทำความผิดทางออนไลน์ ที่มีการใช้บริการอินเตอร์เน็ต อยู่ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ล่าสุด วานนี้ (1 เม.ย .2567) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สนธิกำลังตำรวจภูธร จ.สระแก้ว, กสทช. และ กองกำลังบูรพา นำหมายค้นจากศาลอาญมีนบุรี และศาลจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 2 จุด ดังนี้
1. อาคารไม่มีเลขที่ ในพื้นที่ หมู่ 7 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
2.บริษัทให้บริการเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.
โดยจุดแรก เป็นอาคาร สำนักงานขายคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งที่ ลักษณะเป็นอาคารร้าง อยู่ในพื้นที่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าสถานที่แห่งนี้มีการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ โดยมีบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เป็นผู้ขอใช้บริการติดตั้งอินเตอร์เน็ต
ภายในอาคารดังกล่าว ซึ่งเป็นสายอินเตอร์เน็ต แบบ leased line ความเร็วสูง (1000mbps/200mbps) ซึ่งมากกว่าการใช้อินเตอร์เน็ตตามบ้านเรือนทั่วไปอย่างผิดสังเกต นอกจากนี้ยังพบว่า มีการลักลอบฝังสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตใต้ดิน ลากผ่านที่ดินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง ที่อยู่บริเวณด้านหลังอาคารร้างดังกล่าว เป็นระยะทางกว่า 700 เมตร ก่อนจะข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา
และพบอีกว่า มีการขอใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ในลักษณะเดียวกัน มาติดตั้งยังอาคารดังกล่าว รวมทั้งหมด 6 วงจร ตรวจสอบพบหมายเลข IP ที่เปิดให้บริการกว่า 384 หมายเลขมีชื่อผู้ขอใช้บริการอินเตอร์เน็ต จำนวน 4 ราย แต่พบว่าผู้ชำระค่าบริการรายเดือน กลับเป็นบุคคลคนเดียวกัน
ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนรถขุดดินจากกองกำลังบูรพาฯ เพื่อหาแนววางสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ฝังอยู่ใต้ดิน และลากผ่านไปประเทศกัมพูชา ระหว่างการตรวจค้นอยู่นั้น เจ้าหน้าที่พบว่าสายอินเตอร์เน็ตฯ มีร่องรอยถูกตัดจำนวน 3 เส้น จึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าค้นอาคารดังกล่าวไม่ถึง 1 ชม.มีชาย 2 คน เข้ามาทำการตัดสายอินเตอร์เน็ตดังกล่าว จึงได้ติดตามตัวชายทั้ง 2 คนมาสอบถาม ได้ความว่ารับคำสั่งจาก “นาย ป.” เจ้านายให้มาตัดสายอินเตอร์เน็ตดังกล่าว
จุดที่ 2 เข้าตรวจสอบบริษัทให้บริการเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตฯ แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ หลังพบว่าเป็นบริษัทที่มีชื่อขอใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตภายในอาคารร้าง ที่จ.สระแก้ว พบตัว "นาย ก." เป็นกรรมการบริษัทฯ และเป็นผู้ชำระค่าบริการอินเตอร์เน็ตภายในอาคารร้าง
จากการตรวจค้นพบเอกสารเกี่ยวกับการเช่าใช้บริการอินเตอร์เน็ตที่อาคารร้างดังกล่าว และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง รวม 9 รายการ จากการสอบถาม "นาย ก." รับว่าตนเป็นผู้ขอใช้อินเตอร์เน็ตฯและติดตั้งสายสัญญาณด้วยตนเอง รับว่าจ้างมาจาก "นาย ป." เป็นรายเดือน เดือนละ 300,000 บาท เป็นเวลาเกือบ 2 ปี
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าว เป็นความผิด ตาม มาตรา 67 (1) พรบ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ฐานประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ปฏิบัติการในครั้งนี้ถือเป็นการป้องกันและตัดวงจรการก่ออาชญากรรมทางออนไลน์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การหลอกลวง หรือฉ้อโกงต่างๆ ลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต หากประชาชนมีเบาะแส หรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ www.thaipoliceonline.go.th หรือ สายด่วน AOC 1441