ข่าว

'บิ๊กเจี๊ยบ' เด้ง 2 ตร. สอท. หลัง 'ทนายตั้ม' พาดพิงขบวนการ 'ส่วย'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผบช.สอท. เด้ง รองฟาง-ดาบยาว 2 ตร. สอท. หลัง 'ทนายตั้ม' พาดพิงขบวนการรับส่วย ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ยืนยัน 'สอท.' ไม่ใช่แหล่งหารายได้มหาศาล

27 มี.ค. 2567 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.)  เปิดเผยถึงกรณีที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม แถลงเปิดโปงขบวนการรับส่วยและเสีนทางการเงินที่พาดพิงถึง ด.ต.อภิชาต หรือ ดาบยาว ,พ.ต.ท.สุรกุล หรือ รองฟาง  ว่า ในแนวทางการปฏิบัติของ สอท. คือต้องมีคำสั่งมาประจำ ศปก. สอท. และมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

 

โดยหลังจากถูกพาดพิงเมื่อวานนี้ ก็ได้ดำเนินการทั้ง 2 ส่วนทันที ซึ่งตำรวจทั้ง 2 นายเขัามาประจำที่ ศปก.แล้ว ทั้งนี้ส่วนตัวไม่ได้สอบถามนายตำรวจทั้ง 2 นาย ที่ถูกพาดพิง แต่ให้คณะกรรมการดำเนินการตรวจสอบ และเมื่อวานมีการพาดพิงถึงหลายหน่วยงาน หลายพื้นที่ ซึ่งพบว่าเป็นข้อมูลเก่าตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ซึ่งทาง สอท.ได้สั่งดำเนินการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว

 

 

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.

 

 

โดยข้อมูลการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ก็พบว่า เป็นข้อมูลที่มีลักษณะใกล้เคียงกับข้อมูลที่เคยมี ผกก. สืบสวนจ.สงขลา ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.เตาปูน ซึ่งขณะนี้ สน.เตาปูน อยู่ระหว่างการสืบสวนดำเนินคดี ส่วนที่ทนายตั้มจะไปพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.นั้นก็เป็นส่วนที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ดำเนินคดีด้วยส่วนหนึ่ง จึงมองว่า สังคมไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการตรวจสอบ เพราะมีหลายหน่วยงานร่วมตรวจสอบทั้ง สน.เตาปูน , บช.ก. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการตรวจสอบในภาพรวมด้วย

 

ส่วนเส้นทางการเงินที่มีลักษณะพาดพิงถึงการกระทำผิดหลายประเภท โดยเฉพาะเว็บไซต์ ซึ่งเป็นเรื่องของเส้นเงินที่ ตำรวจ สน.เตาปูน และ บช.ก. ต้องทำการตรวจสอบ

 

ส่วนที่ถูกมองว่า ลักษณะการเก็บเงินหน้าเสื่อแล้วส่งไปให้บิ๊กตำรวจนั้น ก็คงต้องดูหลักฐานที่นำมาชี้แจงกับหลักฐานทางการเงิน ว่า มีลักษณะการเชื่อมโยงกันแบบไหน บางเส้นก็มีครั้งเดียวบางเส้นก็มีหลายครั้ง ซึ่งเกี่ยวกับการถูกดำเนินคดีทั้งสิ้น ซึ่งส่วนของ สอท.เป็นการตรวจสอบทางวินัย เพราะคดีอาญาเป็นของ สน.เตาปูน และ บช.ก.

ผบช.สอท. สังย้าย รองฟาง-ดาบยาว เข้า ศปก.สอท. หลังถูกพาดพิงเอี่นวขบวนการส่วย

 

 

ส่วนที่ ทนายตั้ม กล่าวอ้างว่า มีการนำเงินไปให้บิ๊กตำรวจคนหนึ่งนั้น ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้สั่งให้ตรวจสอบบุคคลที่ถูกพาดพิงทั้งหมด รวมถึงในภาพรวมของ สอท.ทั้งหมด โดยมีกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหน่วยไหนก็ล้วนต้องถูกตรวจสอบทั้งสิ้น และเชื่อว่าการตรวจสอบจะเข้มข้นเรื่อยๆ ในเมื่อเป็นข้าราชการก็ต้องพร้อมรับการตรวจสอบ

 

ส่วนกรณีที่เพจทนายตั้มถูกปิดกั้นก่อนจะมีการแถลงข่าวแล้วถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับ สอท.หรือไม่นั้น พล.ต.ท.วรวัฒน์ ระบุว่า ไม่เกี่ยวกับ สอท.เพราะเพจปิดก็เปิดได้ หากมีการร้องขอไม่กี่ชั่วโมง และไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม เพราะเป็นข้อมูลเดิมๆ

 

ส่วนกรณีที่ ทนายตั้ม แถลงข่าวพาดพิงว่ามีการใช้ห้องหนึ่งใน บก.สอท.เพื่อส่งยอดและรับยอดเงินส่วยทุกวันที่ 25 ของเดือนนั้น พล.ต.ท.วรวัฒน์ ระบุว่า "ไม่ใช่" เพราะห้องนั้นเป็นห้องของผู้บังคับบัญชา เป็นห้องรองผู้บัญขาการ จะเข้าไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร  และตนเองไม่ได้เข้าไปตรวจสอบเพราะเป็นสำนักงานมีหน้าห้องนั่งอยู่ปกติ พร้อมย้ำว่าตนเองพร้อมให้ตรวจสอบ ใครจะตรวจสอบก็มาตรวจสอบเพราะเป็นข้าราชการก็พร้อมถูกตรวจสอบ

 

ส่วนกรณีที่ถูกมองว่า สอท.เป็นแหล่งเงินที่มีการหารายได้กันมหาศาลนั้น พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า  ไม่ใช่ เพราะถ้าตำรวจหน่วยไหนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจนั้นๆ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ และมักจะถูกพาดพิงและถูกตรวจสอบ เช่น ตั้งแต่ตนเองรับตำแหน่งมา ก็มีการจับกุมเว็บพนันและยึดทรัพย์ไปหลายพันล้าน

 

ทั้งนี้ ประเด็นที่เจ้าหน้าที่ จับกุมบัญชีม้าแต่กลับถูกพาดพิงว่าใช้บัญชีมาเองนั้น พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่าคงต้องไปให้หน่วยงานภายนอกเข้ามาตรวจสอบ เพราะก็สามารถดำเนินคดีกับเราได้ และตนเองได้มีการกำชับในการทำงานให้หนักขึ้นด้วย เมื่อถามว่า สอท.รู้สึกว่าเป็นหนึ่งในหมากที่อยู่เกมของบิ๊กตำรวจหรือไม่ นั้น ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานก็ต้องรับผิดชอบว่ามีเสียงสะท้อนแบบนี้จะทำอย่างไรให้หน่วยงานอื่นมาตรวจสอบเราได้

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ