ข่าว

เช็กสัญญาณแรง ‘ตำรวจ - ป.ป.ช. - ทนาย’ ภาพกอดกัน ‘บิ๊กต่อ – บิ๊กโจ๊ก’ แค่ลวงตา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เช็กสัญญาณแรงทุกด้าน คลื่นใต้น้ำ ‘ตำรวจ-ป.ป.ช.-ทนาย’ ต่อคดี 'เว็บพนันออนไลน์' สุดท้ายภาพกอดกัน ‘บิ๊กต่อ – บิ๊กโจ๊ก’ แค่ลวงตา

ไม่มีทีท่าจะจบง่าย แม้ว่า จะมีการ กอดกัน แลดูชื่นมื่น ระหว่าง บิ๊กต่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กับ บิ๊กโจ๊กพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เมื่อเที่ยงวันที่ 20 มี.ค.2567

 

คำพูดของ บิ๊กต่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ในวันนั้น ที่ระบุว่า จะส่งสำนวนที่เกี่ยวข้องกับ บิ๊กโจ๊กพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทั้งหมด ให้กับ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)

 

รวมถึงคำพูดของ บิ๊กโจ๊กพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ระบุว่า จะถอนฟ้องพนักงานสอบสวนคดี เว็บพนันออนไลน์ ทั้งหมดกว่า 200 นาย รวมถึงให้ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.ศฝร.บช.น.) ลูกน้องคนสนิท ถอนฟ้อง บิ๊กต่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ด้วย

แต่พลันที่แถลงข่าวเสร็จ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็มีคำสั่ง ฟ้าผ่า ให้ทั้ง บิ๊กต่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กับ บิ๊กโจ๊กพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี 60 วัน

 

ทำให้คำพูดในตอนแถลงข่าวของทั้งคู่ กลายเป็นคำพูดลอยลมไปโดยปริยาย

 

เพราะ บิ๊กต่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังไม่ทันได้ออกคำสั่งให้ ส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ก็ต้องไปช่วยงานสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว

 

รวมทั้งเมื่อพิจารณาจากข้อหาและพฤติการณ์ในคดี สมคบฟอกเงิน และเป็นเจ้าพนักงานฟอกเงิน พนักงานสอบสวนมองว่า เป็นความผิดส่วนตัว ไม่ใช่ความผิดอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่สามารถส่งให้ ป.ป.ช. ได้

 

ทำให้สำนวนคดีทุกอย่างยังเดินหน้าต่อไปตามเดิม

 

หนำซ้ำ มีข้อมูลอินไซต์ ว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (บก.สส.สอท.5) ได้ส่งหนังสือถึง เลขาธิการ ป.ป.ช. ขอให้พิจารณาตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พิจารณาไต่สวน

ในหนังสือระบุถึงข้อเท็จจริงที่ได้จากการสืบสวน จาก พ.ต.ท. ค หนึ่งในผู้ต้องหา ในคดีที่ บก.สส.สอท.1 ดำเนินการอยู่ มีการสนทนาในไลน์ มีความเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ของ สำนักงาน ป.ป.ช.จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นาย ส. , นาย ว. , นาย จ. , น.ส. ก. และว่าที่ ร.ต.หญิง คนหนึ่ง

 

เนื้อหาสรุปว่า “มีการจัดทริปไหว้พระ และรับประทานอาหารร่วมกันที่ จ.สงขลา วันที่ 11-13 มี.ค.2565 โดย พ.ต.ท. ค เป็นคนติดต่อการโดยสารเครื่องบินให้กับบุคคลทั้ง 5 รวมถึงลูกสาวของ นาย ส. อีก 2 คน ที่ร่วมเดินทางไปด้วย เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ พล.ต.อ. คนดัง ขออนุมัติเปลี่ยนวันเดินทางไปราชการในพื้นที่ จ.สงขลา  และพื้นที่ใกล้เคียงในวันที่ 11-12 มี.ค.2567 นอกจากนี้ ยังพบความสนิทสนม ช่วยเหลือกันด้านต่างๆมานาน

 

โดย นาย ส. ยังเกี่ยวข้องในการจัดทำเอกสารยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของ พล.ต.อ.คนดัง อีกด้วย  รวมทั้งเอกสารต่างๆ เช่น สัญญาซื้อขายที่ดิน หนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของบุคคลต่างๆ

 

“ส่วน นาย จ. เป็นลูกน้องของ นาย ส. ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว ทั้งยังปรากฏข้อความสนทนาผ่าน ไลน์ ว่า มีการนัดทานอาหารและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องชี้แจง ป.ป.ช. กันบ่อยครั้ง ลักษณะต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือดูแลกัน เกินเลยมากกว่าการประสานงานตามปกติ

 

“ทั้งยังปรากฏข้อความในการช่วยเหลือประสานงานให้ลูกน้องของ นาย ส. และแฟนสาวของ นาย จ. ที่ร่วมทริปสงขลาด้วย ในวาระการบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจด้วย รวมทั้งปรากฏข้อความว่า มีการฝากประวัติข้าราชการตำรวจ เพื่อขอรับการสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นในระดับ สารวัตรและผู้กำกับการ

 

“แสดงให้เห็นว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าว มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ พล.ต.อ.คนดัง และ พ.ต.ท. ค อันมีลักษณะเป็นการคบหาสมาคม มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องหรืออาจรับผลประโยชน์ หรืออาจมีส่วนได้เสียกัน

 

“หากมีเรื่องการพิจารณาของ พล.ต.อ. คนดัง , พ.ต.ท. ค และผู้ต้องหาของ บก.สส.สอท.1 ในความรับผิดชอบของ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. อาจทำให้การพิจารณาไต่สวน เสียความยุติธรรมได้

 

“จึงขอให้พิจารณาตรวจสอบว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. 5 ราย เกี่ยวข้องในการพิจารณา ตรวจสอบ หรือไต่สวน สำนวนของ บก.สส.สอท.1 หรือไม่ หากพบว่าเกี่ยวข้อง ขอให้เปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบ เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย”

 

ขณะเดียวกัน ด้านทนายความ บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกโรงโต้เต็มสูบ

 

วันที่ 25 มี.ค. 2567 เริ่มจากยื่นหนังสือถึง บิ๊กต่าย - พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพช็ร รักษาการ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รก.ผบ.ตร.) เพื่อขอให้ดำเนินการตามคำสั่งของ บิ๊กต่อ -  พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กรณีแถลงว่า จะส่งสำนวนทั้งหมด ให้ ป.ป.ช. เป็นผู้พิจารณา

 

แต่พนักงานสอบสวนตำรวจกลับ ออกหมายเรียกทำให้กระทบต่อสิทธิของ บิ๊กโจ๊ก - พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  รวมทั้งยืนยันว่า บิ๊กโจ๊ก ยังไม่เคยได้รับหมายเรียกสักครั้ง

 

นอกจากนี้ บ่ายวันเดียวกัน ทีม ทนายความ บิ๊กโจ๊กพล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ร้องต่อ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ขอให้ยุติการสอบสวนดำเนินคดี เว็บพนันออนไลน์ BNKMaster และขอให้ส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ

 

จากนั้นทีม ทนายความ ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) และพนักงานสอบสวนคดี เว็บพนัน BNKMaster ท้องที่ สน.เตาปูน รวม 30 นาย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง กรณีไม่ส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. รวมทั้งการส่งหมายเรียก ไม่ถูกต้อง

 

และ ไฮไลท์สำคัญ คือ ทนายตั้ม หรือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โดยมีภาพกราฟิก ชาร์จ 3 ตำรวจยศ ด.ต. , พ.ต.ท. , พล.ต.อ. พร้อมข้อความว่า  

 

“พรุ่งนี้ 11.00 น. ขอเชิญพี่ๆนักข่าวที่ Sittra Law Firm นะครับ ไปต่อให้สุด กับการเปิดโปงขบวนการส่วยตัวท็อปแบบม้วนเดียวจบ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม? มารอดูกัน ไม่ได้ทำเพื่อใคร แต่ทำเพื่อชาติ!!”

 

รวมทั้ง ในคอมเมนต์ ทนายษิทรา ยังระบุด้วย ว่า “ก่อนถึงวันแถลงข่าว ผู้ใหญ่คนไหนโทรมากดดัน หรือขอร้องอะไรผม ชื่อของท่านจะปรากฏในการแถลงข่าวพรุ่งนี้ด้วย ฉะนั้นอยู่นิ่งๆกันไว้อย่ามายุ่งกับเรื่องนี้”

 

เป็นสัญญาณแรงทุกทาง ที่แม้ 2 บิ๊กตำรวจ ไม่ได้ออกมาแอคชั่นเอง แต่กระแสคลื่นใต้น้ำ และความเคลื่อนไหวต่างๆ ทำให้ภาพกอดกัน กลายเป็นแค่ภาพลวงตา

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ