จับตาแมว 9 ชีวิต จุดจบ ‘บิ๊กโจ๊ก’ ยอดพีระมิด สุดเอื้อม ?

เป็นการให้สัมภาษณ์ที่มีความหมาย และ มีนัยยะสำคัญ ของ บิ๊กต่อ –  พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กรณีการออก หมายเรียก บิ๊กโจ๊ก – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)

 

บิ๊กโจ๊ก ถูก หมายเรียก ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ฐานสมคบฯ ฟอกเงิน , เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ในคดีที่ ศาลอนุมัติ หมายจับ ผู้ต้องหา 4 ราย เป็นตำรวจ 3 ราย และพลเรือน 1 ราย ตามที่พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ร้องขอ เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา

 

เป็นคดีที่ ขยายผลการจับกุมจาก เว็บพนันออนไลน์ BNKMaster ท้องที่ สน.เตาปูน เมื่อปลายปี 2566

โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ทยอยเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และยื่นประกันตัวไป ภายหลังทราบว่าถูกออก หมายจับ ประกอบด้วย พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา  , ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว , ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ผู้ต้องหาสมคบฯ ฟอกเงิน และ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน ฟอกเงิน และ นายณพรรษกร ฉายา อู๊ดหาดใหญ่ ผู้ต้องหาสมคบฯ ฟอกเงิน และ ร่วมกัน ฟอกเงิน

 

คงเหลือเพียง บิ๊กโจ๊ก ที่พนักงานสอบสวน ออก หมายเรียก ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2567 และนำไปให้ที่บ้านพัก ด้านหลังสโมสรตำรวจ แต่ไม่พบตัว

 

บิ๊กโจ๊ก ต่อสู้ว่า ยังไม่ถือว่าได้รับ หมายเรียก เพราะในตอนที่ ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง นำ หมายเรียก ไปให้ที่บ้านพัก เดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างจังหวัด ไม่อยู่บ้าน

 

อย่างไรก็ดี ในวันที่ 18 มี.ค.2567 บิ๊กต่อ – พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีการออก หมายเรียก บิ๊กโจ๊ก จัดว่าฉายภาพชัด

บิ๊กต่อ ขอให้ บิ๊กโจ๊ก เข้ารับทราบข้อกล่าวหา เพราะตามกฎหมาย ถ้าออก หมายเรียก 2 ครั้ง แล้วยังไม่มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา จะมีการพิจารณาออก หมายจับ โดยการออก หมายเรียก เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2567 นับเป็น หมายเรียก ครั้งที่ 1

 

“ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้ง ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน เมื่อวานนี้(17มี.ค.2567) เป็นการออก หมายเรียก ครั้งที่ 1 ที่มีกำหนดให้ไปรายงานตัวภายในวันที่ 21 มี.ค.2567 ที่กองบังคังการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปตามสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาว่าจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่ถ้าหากออก หมายเรียก ครบ 2 ครั้งแล้ว ยังไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา ขั้นตอนต่อไปพนักงานสอบสวนจะพิจารณาออก หมายจับ ” ความตอนหนึ่ง จากคำสัมภาษณ์ของ บิ๊กต่อ

 

บิ๊กต่อ ให้สัมภาษณ์ถึงสเต็บตามกฎหมาย ว่า ตามขั้นตอนเมื่อ บิ๊กโจ๊ก ถูกออก หมายเรียก หรือถูกออก หมายจับ จะต้องมารายงานตัวในฐานะที่ต้องคดีอาญา

 

“หลังจากนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อมีผลก็จะสั่งให้ พักราชการ โดยเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะแล้วเสร็จก่อนที่ ผมจะเกษียณอายุราชการ ภายในเดือนกันยายนนี้”

 

คำให้สัมภาษณ์ของ บิ๊กต่อ ในท่อนนี้ ฉายภาพอนาคตของ บิ๊กโจ๊ก ค่อนข้างชัดเจน

 

เพราะไม่เกินสิ้นเดือน ก.ย.2567 นี้ จะต้องมีการคัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนที่15 ต่อจาก บิ๊กต่อ ที่จะเกษียณอายุราชการ สิ้นเดือน ก.ย.2567

 

ซึ่ง บิ๊กโจ๊ก เป็นผู้มีอาวุโส อันดับ 1 เป็นตัวตึง แคนดิเดต อีกปี และจะเกษียณอายุราชการในปี 2574

 

ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565

• มาตรา 77 ระบุว่า การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง ให้แต่งตั้งตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้ 

ตำแหน่ง “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศพลตำรวจเอก ซึ่งดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ หรือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

 

• มาตรา 78 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77 (1) (2) (3) (4) (5) (6) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 77 (1) ให้นายกรัฐมนตรีคัดเลือกรายชื่อพนักงานตำรวจผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 77(1) โดยคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวนหรืองานป้องกันปราบปราม เสนอ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง

 

กล่าวคือเจตนารมย์ของกฎหมายต้องการให้แต่งตั้ง ผบ.ตร. โดยคำนึงถึง “ความอาวุโส” มาเป็นเกณฑ์หลักในการพิจารณาก่อน โดยแบ่งเป็นคะแนนอาวุโสกับ “ความรู้ความสามารถ” อย่างละ 50% เท่าๆ กัน เมื่อเรียงอาวุโสแล้ว ใครอาวุโสสูงสุดก็จะได้คะแนน 50% ส่วนคนที่รองลงมาก็เฉลี่ยว่าจะได้กี่เปอร์เซ็นต์

 

เมื่อพิจารณาตามหลักเกณฑ์ ถือว่า บิ๊กโจ๊ก มีภาษีหลักเกณฑ์ ความอาวุโส เป็นอันดับ 1

 

ส่วนอีก 50% นายกรัฐมนตรี จะต้องพิจารณาตาม 5 สายงาน ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้พิจารณา แต่ให้คะแนนประสบการณ์ งานสืบสวนสอบสวนและงานปราบปรามเป็นหลัก มากกว่าคะแนนด้านอื่น

 

เนื่องจากใน มาตรา 78 (1) ระบุว่า โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวน หรืองานป้องกันปราบปราม แต่ในสายงานอื่นก็ต้องมีคะแนนด้วย การกำหนดคะแนนต้องกำหนดให้เกิดความเป็นธรรม

 

ทว่า บิ๊กโจ๊ก ถูก หมายเรียก แจ้งข้อกล่าวหา และดำเนินคดีอาญา รวมถึงในอนาคตจะถูกตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และอาจถูกสั่งให้ พักราชการ ตลอดจนถูกตั้งกรรมการสอบวินัย

 

ความมัวหมอง ทำให้ความเหมาะสมในการได้รับเลือกนั่ง เก้าอี้ ผบ.ตร.คนที่15 สะดุดลงทันที

 

จากสมญา แมว 9 ชีวิต จะมีวิบากกรรมอย่างไรต่อไป บิ๊กโจ๊ก จะงัดอะไรขึ้นมาต่อสู้  เพื่อก้าวสู่ยอดพีระมิด หรือจะยอมรับสภาพ ผู้ต้องหา ต้องติดตาม!