ข่าว

'บิ๊กโจ๊ก' สั่ง 'ถอนวีซ่า-ห้ามเข้าประเทศ' 2 ต่างชาติเหิมแย่งปืน ตร.ภูเก็ต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'บิ๊กโจ๊ก' สั่ง ผู้การ ตม.6 เพิก 'ถอนวีซ่า-ห้ามเข้าประเทศ' 2 'ต่างชาติ' หลังพยายามชิงอาวุธปืนตำรวจภูเก็ต ด้าน รองรอย กำชับมาตรการป้องกันปราบปรามต่างชาติทำผิดกฏหมาย

18 มี.ค.2567 ความคืบหน้า กรณี 2 นักท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์ ทำร้ายร่างกาย ด.ต.สมศักดิ์ หนูเอียด ผบ.หมู่ (จร.) สภ.ฉลอง ขณะออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ และอำนวยการจราจรให้แก่ประชาชน บริเวณถนนเจ้าฟ้าตะวันออก หน้า สภ.ฉลอง พบนักท่องเที่ยวชายทั้ง 2 คน ด์ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน โดยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้ายเเละใช้ความเร็วสูงในเขตชุมชน จึงเรียกให้หยุดรถเเต่ทั้งสอง ไม่หยุดเเละได้หลบหนี

 

ด.ต.สมศักดิ์ จึงได้ขับรถติดตามเมื่อทั้ง 2 คันจอด ได้เเสดงอาการโวยวายไม่พอใจเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการถ่ายคลิปเหตุการณ์ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้เข้ามาปัดโทรศัพท์เจ้าหน้าที่ขณะถ่ายคลิป เเละทั้ง2คนได้เข้าทำร้ายเเละควบคุมตัว ด.ต.สมศักดิ์ เเละได้ยื้อเเย่งอาวุธปืน เป็นเหตุให้ปืนได้ลั่นจำนวน 1 นัด เจ้าหน้าที่ในข่ายสภ.ฉลอง ได้เข้าช่วยเหลือเหตุการณ์ดังกล่าว  เเละควบคุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย ที่บริเวณริมถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ดำเนินคดีตามกฎหมาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา 

 

เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์,ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่,ร่วมทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่,ร่วมกันพยายามให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจ ให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่,ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ    

 

2 ต่างชาติทำร้ายตำรวจภูเก็ต

 

 

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบะว่า ได้สั่ง ผู้การ ตม.6 เพิกถอนวีซ่า 2 ต่างชาติ ดำเนินคดีเฉียบขาด หลังจบคดี ให้สั่งห้ามเข้าประเทศอีก หลังพยายามชิงอาวุธปืนตำรวจ

 

 

บิ๊กโจ๊ก สั่ง ถอนวีซ่า 2 ต่างชาติทำร้ายตำรวจภูเก็ต
 

 

ล่าสุด พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. /  รรท.ผบ.ตร.  ได้มีหนังสือคำสั่งเป็นบันทึกข้อความส่วนราชการ ตร. ลงวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา เรื่อง กำชับการปฏิบัติในการป้องกันปราบปรามชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมผิดกฎหมาย ถึง ผบช.สตม. มีใจความระบุว่า  

 

 

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.

 

 

ด้วย ปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ (social media) และตามสื่อมวลชนต่างๆ ว่ามีคนต่างชาติ ที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และพำนักอยู่ในประเทศไทย มีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อสังคม

 

จากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้เข้ามาเพื่อการตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีพฤติการณ์แอบแฝงที่จะอยู่ในประเทศ ด้วยเหตุผลอื่น ซึ่งไม่เป็นไปตามเหตุแห่งความจำเป็นที่คนต่างชาตินั้นได้รับอนุญาต มีการกระทำการอันเป็นการ ฝ่าฝืนหรือหลีกเสี่ยงไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แสดงให้เห็นถึงความไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายไทย

 

ทั้งไทยไม่ได้รับประโยชน์จากการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเหล่านั้นแต่อย่างใดความเสียหายต่อสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และความมั่นคงของประเทศไทยเพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันคนต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวมากระทำผิดกฎหมาย หรือก่ออาชญากรรม หรือมีพฤติการณ์เป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 
 

 

 

จึงกำชับการปฏิบัติในการป้องกันปราบปรามชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมผิดกฎหมาย ดังนี้

1.เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบคัดกรองคนต่างชาติที่เดินทางผ่านเข้า - ออกราชอาณาจักรตลอดจนการพิจารณาให้คนต่างชาติได้รับอนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว การตรวจลงตราและการเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา โดยให้ถือปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบและคำสั่งที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

 

2.ให้สืบสวนจับกุมการกระทำผิดกฎหมายทุกฐานความผิดตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนต่างชาติให้ครบถ้วน ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว กฎหมายว่าด้วยสถานบริการ การประกอบกิจการหรือธุรกิจผิดกฎหมาย การทำนิติกรรมอำพราง (นอมินี) โดยให้คนไทยถือครองหุ้นบริษัท หรือครอบครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์แทนคนต่างชาติ เพื่อประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมาย ฯลฯ ตลอดจนตรวจสอบพฤติกรรมชาวต่างชาติว่า มีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่ อย่างไร โดยให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการในการตรวจสอบ และบังคับใช้กฎหมาย
โดยเคร่งครัด

 

3.กรณีตรวจสอบพบว่าคนต่างด้าวมีพฤติการณ์ที่อยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้เป็นไปตามเหตุแห่งความจำเป็น หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด หรือมีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายในลักษณะเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร หรือมีพฤติการณ์อื่นใดที่สมควรเพิกถอนการอนุญาต ให้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ตาม มาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522

 

 

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์   กำชับมาตรการป้องกันฯต่างชาติทำผิดกฏหมาย

 


ในส่วนของการดำเนินคดีกับ 2 ชายต่างชาติ วันนี้ตำรวจจะนำตัวทั้ง 2 ส่งศาลฝากขัง พร้อมคัดค้านประกันตัวตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากทั้ง 2 คน เป็นชาวต่างชาติ มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง เกรงว่าจะหลบหนีได้ และ คณะกรรมการกลั่นกรองในการเพิกถอนวีซ่าชาวต่างชาติที่มีการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน จะเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของชาวต่างชาติดังกล่าว อาจจะพิจารณาเพิกถอนวีซ่าของนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน เพราะถือว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและร้ายแรง เนื่องจากมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่และยังมีการติดสินบนอีกด้วย โดยทั้ง 2 คนเดินทางเข้ามาที่ภูเก็ตเมื่อวันที่ 11 เดือนมีนาคม 2567 และวีซ่าจะครบกำหนดวันที่ 9 เมษายน 2567 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ