'กะเทยไทย' แจ้งจับ 'กะเทยฟิลิปปินส์' ทำร้าย – ชิงทรัพย์ ที่ 'สุขุมวิท11'

วันที่ 5 มี.ค. 2567 เวลา 18:00 น. ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พากลุ่ม กะเทยไทย ผู้เสียหายจากเหตุวิวาทกับกลุ่ม กะเทยฟิลิปปินส์ ใน ซอยสุขุมวิท11 เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ กะเทยฟิลิปปินส์ ในข้อหาชิงทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย หลังถูกรุมทำร้ายในช่วงเช้ามืดวันที่ 4 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา

ทนายไพศาล กล่าวว่า ประเทศเราเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้มายั่วยุกันแบบนี้ เหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นแล้วที่จังหวัดภูเก็ต และเป็นสิ่งที่คนไทยยอมรับไม่ได้ เพราะถือเป็นการหยามเกียรติ และการรวมกลุ่มของ LGBTQ แสดงให้เห็นว่าคนไทยยอมเรื่องนี้ไม่ได้กับเรื่องนี้

ทนายไพศาล กล่าวต่อว่า กะเทยฟิลิปปินส์ ยังเดินทางกลับประเทศไม่ได้ ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์ และสนับสนุนให้ชิงทรัพย์ โทษจำคุกสูงสุด 10 ปี โดยวันนี้จะขอพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับเรื่อง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ถือว่าเป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ จะต้องติดแบล็คลิสต์ เข้าประเทศไม่ได้ ในเรื่องมีเหตุสงสัยว่าเข้าข่ายมาค้าประเวณีหรือไม่ ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ที่จะต้องเพิกถอนวีซ่า แต่ก่อนจะเพิกถอนวีซ่า หากศาลพิพากษาว่ามีความผิดจริง จะต้องติดคุกที่นี่ก่อน และค่อยออกไป จะได้จำประเทศไทยไปนานๆ

ทนายไพศาล กล่าวอีกว่า บางส่วนที่กลับประเทศไปแล้ว เราไม่รู้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ แต่ทั้งหมดที่มีภาพถ่ายหรือพยานหลักฐานว่าเกี่ยวข้องในเหตุการณ์จะต้องมารับผิดชอบ

ส่วนที่กลุ่ม กะเทยฟิลิปปินส์ ถูกอ้างว่าถูกทำร้ายร่างกาย จะต้องไปรอดูว่าถูกทำร้ายร่างกายหรือสมัครใจวิวาท เพราะหากเข้าข่ายสมัครใจวิวาท พวกเขาก็จะไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่ส่วนไหนที่พวกเขาถูกทำร้ายก็ให้ดำเนินคดีไป

“กลุ่ม กะเทยฟิลิปปินส์ กว่า 20 คน ที่มาสร้างอาณาเขต เข้ามาทำอะไร มาเที่ยวหรือมาประกอบอาชีพอะไร รวมถึงการขอวีซ่าขาดแล้วหรือไม่ หากสืบสวนพบว่าวีซ่าหมดอายุ หรือเข้ามาประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต จะต้องถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม ฝากถึงกลุ่ม LGBTQ ไทยว่า จะสู้เรื่องนี้ไม่ถอย”ทนายไพศาลกล่าว

ด้าน ไวน์ หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้สึกได้รับความเป็นธรรม แต่ยังไม่มากเท่าที่ควร อยากให้ กลุ่ม กะเทยฟิลิปปินส์ มาขอโทษ

ขณะที่ เนิร์ส ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า เข้าพบตำรวจต้องการแจ้งความในข้อหาชิงทรัพย์ เนื่องจากกลุ่ม กะเทยฟิลิปปินส์ หลังจากทำร้ายได้นำกระเป๋าไปด้วย ภายในมีเงินสดอยู่ 2,000 บาท ทองคำประมาณ 10,000 บาท และเสื้อแจ็คเก็ต