ปฏิบัติการ 'Cleaning up เมืองปทุม' ทลาย 'คาราโอเกะลับ' เปิดอัพยาครบวงจร
กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ 'Cleaning up เมืองปทุม' บุกทลาย 'คาราโอเกะ' ลับย่านรังสิตคลองสอง ลอบเปิดบริการลูกค้าเสพยาเสพติดถึงเช้า จ่อชงสั่งปิด 5 ปี
2 มี.ค. 2567 เมื่อเวลา 02.00 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง พร้อมด้วย ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดปทุมธานี บูรณาการร่วมกับเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จากสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 เปิดปฏิบัติการ Cleaning up เมืองปทุม นำกำลังเข้าจับกุมสถานบริการคาราโอเกะเถื่อน ย่านรังสิตคลองสอง ลักลอบเปิดเป็นคาราโอเกะให้บริการลูกค้า แอบแฝงการขายยาเสพติดอย่างครบวงจร เป็นอาคารภายในซอยรังสิต-นครนายก 32 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พื้นที่รับผิดชอบ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์
จากการตรวจสอบพบว่า ที่บริเวณด้านล่างของอาคาร ดังกล่าวทำเปิดเป็นร้านข้าวต้ม โดยที่บริเวณฝั่งตรงข้าม มีที่นั่งเป็นโต๊ะหินอ่อน พบนักเที่ยวกำลังนั่งดื่มกินกัน ซึ่งหลังจากนั้นได้ขึ้นไปตรวจสอบที่บริเวณชั้น 2 ของอพาร์ทเมนท์ดังกล่าว
พบว่า มีการลักลอบดัดแปลงห้องพักมาทำเป็นห้องคาราโอเกะ จำนวนทั้งหมด 10 ห้อง ซึ่งมีนักเที่ยวและสาวพีอาร์ เข้ามาใช้บริการจำนวน 8 ห้อง กำลังดื่มกินร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบพร้อมกับพาทุกคนไปตรวจปัสสาวะ เพื่อหาสารเสพติด และทำการตรวจค้นพบว่ามีการซุกซ่อนยาไอซ์ไว้จำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งยังพบว่ามีพนักงานและนักท่องเที่ยวบางคนตรวจเจอสารเสพติดในร่างกาย
จากการสอบถาม นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง เปิดเผยว่ามีผู้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม ของกระทรวงมหาดไทย จึงได้ดำเนินการร่วมกับ ฝ่ายปกครองจังหวัดปทุมธานี เนื่องจากเป็นนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย โดยการปฎิบัติงานในครั้งนี้ ได้สายลับพนักงานฝ่ายปกครองได้เข้าทำการสืบสวนข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนดังกล่าว
พบว่า จุดสำคัญของนักเที่ยวในย่านนั้น คือ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่าย สุรา อาหาร และเครื่องดื่ม มีดนตรีการแสดงดนตรีเพื่อการบันเทิงและยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้พนักงานนั่งกับลูกค้า อันเป็นการตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
และเมื่อร้านดังกล่าว หยุดให้บริการในทุกคืนแล้ว จะมีพนักงานคอยแนะนำลูกค้าให้ไปใช้บริการต่อที่ห้องลับคาราโอเกะ แบบ VIP ซึ่งแฝงตัวอยู่ในชั้น 2 ของอาคารอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในซอยฝั่งตรงข้ามร้านและยังสามารถติดต่อขอซื้อยาเสพติดได้จากพนักงานของร้าน ซึ่งตามมาให้บริการลูกค้าต่อหลังจากที่ โดยมีผู้จัดการเป็นคนเดียวกันกับผู้จัดการของร้านอาหารด้วย ซึ่งการโอนเงินซื้อยาเสพติด สามารถโอนเข้าบัญชีของพนักงานหรือของผู้จัดการร้านได้
นอกจากนี้ ภายในซอยรังสิต - นครนายก 32 ยังมีห้องคาราโอเกะขนาดใหญ่ อยู่ติดกับอาคารที่เข้าตรวจค้น พนักงานแจ้งกับทีมสายลับว่าเป็นห้องที่ไว้ต้อนรับนักเที่ยวเพื่อปาร์ตี้เสพยาเสพติด ซึ่งต้องมีลูกค้าจำนวนมากจึงจะสามารถเข้าใช้ได้ และเป็นแหล่งจำหน่ายยาเสพติดหลากหลายประเภท มีทั้ง ยาอี ยาเค แฮปปี้วอเตอร์ และน้ำบลู ยาเสพติดรูปแบบใหม่ เป็นที่ยอดฮิตในหมู่วัยรุ่นย่านรังสิต และภายในร้าน พนักงานสามารถติดต่อขอซื้อยาเสพติดมาให้บริการลูกค้า พร้อมอุปกรณ์การเสพ
ต่อมาเวลาประมาณ 02.50 น. สายลับพนักงานฝ่ายปกครองทำการสืบสวนจนทราบการกระทำความผิดจนแน่ชัด และได้แจ้งชุดจับกุมเข้าทำการตรวจค้น ห้องลับคาราโอเกะ เจ้าพนักงานเข้าตรวจค้นห้องคาราโอเกะ ทุกห้อง พบยาเสพติดในตัวพนักงานของร้าน และหลักฐานการโอนเงินค่ายาเสพติด พร้อมทั้งหลักฐานการติดต่อซื้อยาจากเอเย่นต์ในกลุ่มไลน์ นอกจากนี้ยังได้พบยาเสพติดในรถของผู้มาใช้บริการบางคนด้วย
จากนั้นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 ได้ตรวจปัสสาวะนักเที่ยวและพนักงานของคาราโอเกะทุกห้อง พบปัสสาวะมีสารเสพติด จำนวน 5 คน เจ้าหน้าที่ได้นำเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายยาเสพติดต่อไป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สอบถามพนักงาน ยอมรับว่า ได้ติดต่อเอเย่นต์เพื่อนำยามาบริการลูกค้าจริง
สำหรับคาราโอเกะที่ลับลอบเปิดเป็นสถานบริการ และปล่อยปละละเลยให้มีการใช้ยาเสพติดในสถานบริการ ซึ่งชุดจับกุมได้จับกุมผู้แสดงตัวเป็น ผู้จัดการ/เจ้าของร้าน ในข้อหาตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และจับกุมพนักงานบริการของร้านในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เตรียมพิจารณาสั่งปิดสถานที่มีกำหนด 5 ปี