ข่าว

สกัดจับคาบีเอ็ม อดีตที่ปรึกษากฎหมาย ‘แม่แตงโม’ ‘ตบทรัพย์’ อดีต ส.ส. 40 ล้าน

สกัดจับคาบีเอ็ม อดีตที่ปรึกษากฎหมาย ‘แม่แตงโม’ ‘ตบทรัพย์’ อดีต ส.ส. 40 ล้าน

01 มี.ค. 2567

สุดท้ายไม่รอด สกัดจับอดีตที่ปรึกษากฎหมาย ‘แม่แตงโม’ คารถบีเอ็มสวมทะเบียน คุมแจ้งข้อหา ‘ตบทรัพย์’ อดีต ส.ส. 40 ล้าน

ตำรวจทางหลวง สกัดจับอดีตที่ปรึกษาแม่แตงโม ตบทรัพย์อดีต ส.ส. 40 ล้านบาท

วันที่ 1 มี.ค.2567 พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไพรัตน์ คำลี รอง ผกก.(สอบสวน) หัวหน้างานสอบสวน สน.ลุมพินี และ พ.ต.ต.สุทวัฒน์ ศรีพรวรรณ์ สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี รับตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ จาก ตำรวจทางหลวง ทราบชื่อ นายชัยวัฒน์ กับพวก รวม 3 คน อดีตที่ปรึกษากฎหมายของ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์  

 

ผู้ต้องหาคดี ตบทรัพย์ ส.ส. 40 ล้านบาท ตามหมายจับของศาลแขวงปทุมวัน ที่ 117/2566 คดีอาญาที่ 326/2566 และคดีอาญาที่ 604/2566 (รวมคดี) ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง , ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา , ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

ก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหากับพวก รวม 3 คน หลอกลวง นายอำไพ กองมณี อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ว่า มีตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 20 ของพรรคเพื่อไทย ว่างอยู่ แต่ต้องเสียค่าสมัครเป็นเงิน 40 ล้านบาท

 

ทำให้นายอำไพ หลงเชื่อและไปลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเสรีรวมไทย เพื่อมาสมัครเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง จากนั้นมีการนัดหมายเจรจาและจ่ายเงินค่าสมัคร ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2566

 

โดยนายอำไพ จ่ายเงินสด จำนวน 20 ล้านบาท แก่กลุ่มผู้ต้องหา แล้วกลุ่มผู้ต้องหาได้พานายอำไพไปถ่ายรูปและสมัครเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อที่พรรคเพื่อไทย หลังจากนั้นได้กลับมาที่โรงแรมที่เกิดเหตุอีกครั้ง แล้วกลุ่มผู้ต้องหา พยายามพูดคุยกับนายอำไพ ให้จ่ายเงินอีก 20 ล้านบาท แต่นายอำไพ ขอจ่ายกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คือ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร แทน กระทั่งพรรคเพื่อไทยประกาศรายชื่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปรากฏว่าไม่มีชื่อของผู้กล่าวหาที่ 1 แต่อย่างใด จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงมาแจ้งความดำเนินคดีจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

หลังจากที่ น.ส.แพทองธาร ผู้เสียหายทราบเรื่องว่า กลุ่มผู้ต้องหาแอบอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาของ น.ส.แพทองธาร และยังมีการนำภาพของ น.ส.แพทองธาร ไปตัดต่อ เพื่อนำไปหลอกลวงผู้อื่น ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมอบอำนาจให้ นายวัฒนา เตียงกูล ผู้กล่าวหาที่ 2 มาแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ต้องหากับพวกจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

 

กระทั่ง วันที่ 29 ก.พ.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 1 กก.1 บก.ทางหลวง กับพวกได้ร่วมกันจับกุมตัว นายชัยวัฒน์ ที่บริเวณ กม.2-3 ถ.สายเอเชีย ทล.32 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาฯ หลังพบว่าความผิดปกติทะเบียนรถไม่ตรงกับรถ จึงตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบมีหมายจับ และนำส่งพนักงานสอบสวนสน.ลุมพินี

 

เบื้องต้นในชั้นสอบสวน นายชัยวัฒน์ ให้การปฏิเสธ โดยขอให้การในชั้นศาล ก่อนคุมตัวนายชัยวัฒน์ไปขอฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ฝากขังต่อไป