ลิสต์ 4 กลุ่ม ‘คดีหมูเถื่อน - ตีนไก่เถื่อน’ คดีร้อน โยงใยถึง ‘บัญชีส่วย’ จ่ายให้เจ้าหน้าที่รัฐบิ๊กล็อต กว่า 20 ราย
จาก คดีหมูเถื่อน พันถึง คดีตีนไก่เถื่อน กลายเป็นหนังม้วนยาว เมื่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สอบสวนขยายผล แล้วพบความผิดเชื่อมโยงเป็นใยแมงมุม
คดีนี้ ดีเอสไอ เริ่มตรวจสอบ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2566 หลังรับเรื่องจากกรมศุลกากร เกี่ยวกับความผิดปกติ กระทั่ง วันที่ 5 ก.ค.66 ดีเอสไอ เข้าตรวจยึด หมูเถื่อน และ ตีนไก่เถื่อน ได้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง 161 ตู้
- กลุ่มแรก ดีเอสไอ ดำเนินคดีกับ เจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องกับ หมูเถื่อน 161 ตู้ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยนำสำนวนส่ง ป.ป.ช.ไปบางส่วนแล้ว
จากนั้น ดีเอสไอ ขยายผลย้อนหลัง เดือน ม.ค.2564 - ก.ค.2566 พบ 18 สายเรือ (บริษัท) นำเข้า หมูเถื่อน 2,385 ตู้ ปริมาณ 76,000 ตัน ถูกกระจายไปทั่วประเทศ
- กลุ่มที่สอง ดีเอสไอ ดำเนินคดีกับภาคเอกชน ออกหมายจับผู้ต้องหา 12 หมาย จาก 9 บริษัท โดยแบ่งกลุ่มผู้ทำผิด เป็น 3 กลุ่ม 1.บริษัทนำเข้า 2.นายทุนสั่งหมูเถื่อน และ 3.บริษัทห้องเย็น
- กลุ่มที่สาม คดีตีนไก่เถื่อน ดีเอสไอ ออกหมายจับ ผู้ต้องหารายสำคัญ 5 คน มีนายสมเกียรติ หรือเฮียเกียรติ อดีตเลขาฯนักการเมืองคนดัง , นายหยาง ยาซุง , น.ส.นวพร มอบตัวไปเมื่อวันที่ 15 ม.ค.67 , นายหลี่หรือเฮียเก้า มอบตัวเมื่อวันที่ 22 ม.ค.67
ขณะที่ นายกรินทร์ ลูกชายเฮียเก้า มีนามสกุลพ้องกับญาตินักการเมืองดัง (ยังไม่ได้ตัวมาดำเนินคดี)
- กลุ่มที่สี่ เป็นกลุ่มล่าสุด ดีเอสไอ ออกหมายจับ 9 หมาย เกี่ยวข้องกับตู้คอนเทนเนอร์ 90 ตู้ ที่ตกค้างอยู่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ในฐานความผิดหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้น
โดย 5 หมายจับ ที่เป็นบุคคลธรรมดา ประกอบด้วย 1.นายประกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทฯ แห่งหนึ่ง มีพฤติการณ์รับรู้การ จ่ายส่วย ต่าง ๆ (จับกุมแล้ว)
2.น.ส.ชนิสรา กรรมการผู้จัดการผู้จัดการ บริษัท เดียวกัน(จับกุมแล้ว) 3. นายพลภัทร (จับกุมแล้ว) โดยพบว่าทั้งน.ส.ชนิสรา และนายพลภัทร เป็นคน จ่ายส่วย รายเดือนและรายตู้ ให้กับ เจ้าหน้าที่รัฐ คือ เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์
4. นายกิตติ และ 5. นายภูวดล ยังไม่ได้ตัวมาดำเนินคดี
ส่วนอีก 4 หมายจับ เป็นนิติบุคคล 4 บริษัท
และที่เป็นไฮไลท์ คือ จากการตรวจค้น 2 บริษัท ในจ.นนทบุรี เปิดเป็นโรงงานแช่เนื้อสัตว์ขนาดใหญ่ ประเภทหมู ไก่ และวัว พบ บัญชีส่วย ที่จ่ายให้กับ เจ้าหน้าที่รัฐ มากกว่า 5 หน่วย รวมถึงสื่อมวลชนด้วย อาทิ นายตำรวจ ทหาร ปลัด กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ รวมถึงสื่อมวลชน บริเวณจังหวัดชายแดน ที่บริษัทมีการส่งสินค้าข้ามแดนและรับสินค้าข้ามแดน
พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน คดีหมูเถื่อน ระบุว่า ผู้ต้องหากลุ่มที่สี่นี้ เป็นนายทุนรายใหญ่กว่า เฮียเก้า และพบมีการ จ่ายส่วย 2 ครั้ง ครั้งละ 400,000 บาท ในปี 2565 ให้กับผู้บุคคลที่มีชื่อตรงกับ ผู้ต้องหากลุ่มที่สาม ด้วย
โดย ดีเอสไอ เตรียมเรียก เจ้าหน้าที่รัฐ กว่า 20 ราย ที่มีชื่อโยง บัญชีส่วย มาสอบปากคำใน ในช่วงวันที่ 4 มี.ค.2567 เป็นต้นไป
ในอนาคตอันใกล้ จะมีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีพยานหลักฐานการ รับส่วย คดีหมูเถื่อน และ คดีตีนไก่เถื่อน อีกกี่ราย ในจำนวนนี้มีบิ๊กๆหรือไม่
รวมทั้งจะมี ผู้ต้องหากลุ่มที่ห้า เพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ต้องติดตาม!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง